วิเคราะห์เหตุผลทำไมเกม Ragnarok ถึงได้มีหลายภาคขนาดนี้
เปิดเยอะจนผู้เล่นไม่ว้าวแล้ว และยังเปิดใหม่เพิ่มอีกเรื่อย ๆ ทำไมกันนะ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ หลายคนอาจจะรู้จักเกมที่มีชื่อว่า Ragnarok Online กันอยู่แล้วใช่ไหมครับ เพราะเกมนี้เป็นเกมคู่บ้านคู่บุญเมืองไทยมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี แล้วเกมนี้ในปัจจุบันก็ได้มีภาคใหม่ภาคเสริมอีกมากมาย โดยเฉพาะในเวอร์ชั่นมือถือที่มันจะเยอะไปไหน จนผู้เล่นรู้สึกว่าจำชื่อภาคยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมเกม Ragnarok มันถือโผล่ออกมาเยอะขนาดนี้ เรามาลองวิเคราะห์เหตุผลกันครับ
1. นักลงทุนอยากแย่งส่วนแบ่งการตลาดเกมนี้

ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจก่อนว่ายังไงเกมออนไลน์พวกนี้ มันก็อยู่ในส่วนของธุรกิจ ผู้พัฒนาทำเกมออกมาขาย เปิดให้บริการ พอผู้เล่นเติมเงินก็มีรายได้เข้า จากนั้นก็คืนกำไรสู่นักลงทุน มันก็เป็นเบสิคของการลงทุนในตลาดเกมอยู่แล้ว และดูเหมือนว่า Ragnarok จะเป็นชื่อเกมที่หากินได้ง่ายในสายตาของนักลงทุน ถ้าอยากจ่ายเงินลงทุนเปิดเกมสักเกมหนึ่ง การเลือก Ragnarok ถือว่าเป็นอะไรที่เพลย์เซฟได้ดี เพราะมีฐานแฟนที่พร้อมจะเล่น เห็นภาพความสำเร็จด้านยอดผู้เล่นและยอดการเติม ไม่ต้องเสี่ยงมาก ต่างกับการสร้างเกมใหม่จากศูนย์ที่ต้องเริ่มต้นสร้างแบรนด์ใหม่ ทำให้ผู้เล่นรู้จักชื่อเกมใหม่ และพอเห็นว่าเกมมันขายได้ นักลงทุนก็อยากจะแย่งส่วนแบ่งการตลาดของเกม Ragnarok ด้วยการกระโดดเข้ามาเปิดเกม Ragnarok นั่นเองครับ
2. Ragnarok ต้นฉบับไปต่อไม่ไหว ต้องมีเกมใหม่มาแบกชื่อ

หากพูดถึงชื่อของเกม Ragnarok Online ต้นฉบับนั้นก็ต้องบอกว่ามันเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และค่อย ๆ ลดหย่อนลงมาตามกาลเวลา ซึ่งในปัจจุบันคนที่เล่นภาคต้นฉบับบน PC อยู่ก็เหลือน้อยเต็มที ถ้าปล่อยทิ้งไว้เกม Ragnarok ก็จะหายไปตามกาลเวลาเหมือนกับเกมอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าของเกมจะสร้างเกมใหม่เองทุกครั้งก็คงจะไม่คุ้มเท่าไหร่ ก็เลยให้หน้าที่ของการรักษาชื่อเกม Ragnarok ไปตกอยู่กับเหล่านายทุนที่มาซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดเกมของตัวเอง แม้จะไม่เหมือนภาคต้นฉบับ แต่ชื่อของ Ragnarok ก็ยังอยู่ในวงการเกมต่อไปเรื่อย ๆ ไม่เคยหายไป ถือว่าเป็นวิธีรักษาชื่อเสียงของเกมได้อย่างต่อเนื่อง และถ้าใครเล่นภาคมือถือแล้วอยากมาเล่นภาคต้นฉบับ ตัวเจ้าของก็ได้กำไรเพิ่มอีกด้วย
3. การขายแฟรนไชส์ Ragnarok ก็ทำให้ได้เงินไม่น้อย

อย่างที่กล่าวไปในข้อที่ 2 คือ Ragnarok Online ภาคต้นฉบับ เป็นภาคที่ต่อให้มีอัปเดทใหม่เรื่อย ๆ แต่ก็เหมือนเกมที่ไม่มีอะไรน่าดึงดูดแล้วในยุคปัจจุบัน เพราะมีเกมทางเลือกมากมายให้เลือกเล่นที่สนุกกว่า เนื้อเรื่องดีกว่า กราฟิกสวยกว่า แต่ถ้ารอรับเงินจากคนเติมภาคต้นฉบับเพียงเกมเดียวก็คงจะไม่พอ แถมผู้เล่นก็ค่อย ๆ ลดหายไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยการขายแฟรนไชส์ก็ทำให้ได้เงินก้อนเข้ามาเรื่อย ๆ เงินตรงส่วนนี้ก็เอามาพัฒนาเกมใหม่ของต้นสังกัด หรือเอามาเลี้ยงดูบริษัทให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้เรื่อย ๆ และดูเหมือนว่านายทุนหลายเจ้าจะสนใจคำว่า Ragnarok มากซะด้วย เลยซื้อไปหลายเกมเลย
4. ฐานแฟน Ragnarok มี Royalty สูง เปิดกี่เกมก็เล่น

สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่าที่นายทุนเปิด Ragnarok มากี่เกมก็ยังมีคนเล่น เป็นเพราะว่าฐานแฟน Ragnarok นั้นมี Royalty ต่อแฟรนไชส์นี้สูงมาก คือเปิดเกมใหม่ ภาคไหน เปิดเซิร์ฟใหม่ หรือมีกิจกรรมอีเวนท์อะไร ผู้เล่นจะตื่นตัวและให้ความสนใจอยู่ตลอด เนื่องจากว่า Ragnarok เป็นความทรงจำในวัยเด็กของหลาย ๆ คน ช่วงเวลาหนึ่งเราเคยเล่นเกมที่เหมือนได้ออกผจญภัยในโลกกว้างที่เราไม่รู้อะไรเลย ความรู้สึกในตอนนั้นยังมี Emotional ต่อแฟนเกมอยู่เสมอ และเวลาที่ได้ยินคำว่า “การผจญภัยครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้ว” แฟนเกมก็มักจะให้ความสนใจอยู่เสมอครับ นอกจากนี้เกม Ragnarok ยังเป็นเกมที่สร้างงานสร้างอาชีพได้ มีพ่อค้าแม่ค้าหลายท่านเลยที่ต้องเล่นเป็นธุรกิจ และมีลูกค้าหลายท่านเลยที่อุดหนุนธุรกิจ Ragnarok
5. พื้นฐานเกมแนว MMO สนุกตอนเริ่ม เหงาตอนจบ

เกม Ragnarok ส่วนใหญ่มักจะเป็นเกมแนว MMO ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบของการเก็บเลเวลบนโลกกว้าง พัฒนาตัวละคร หาของสวมใส่ และความสนุกของเกมจะสนุกอยู่ที่ตอนเริ่มต้นซะส่วนใหญ่ เพราะว่าผู้เล่นทุกคนล้วนมีความหวังที่จะเก่งขึ้น ไม่ว่าจะสายฟรี หรือสายวาฬ เราจะเริ่มต้นพร้อม ๆ กัน ความห่างชั้นของ Item และเงินจะยังไม่เห็นผลมาก มันคือความสนุกที่หลาย ๆ คนตามหาในเกม MMO แต่พอเลเวลเริ่มห่าง ของเริ่มห่าง คนมีทุนก็จะเก่งกว่าสายฟรีมาก สุดท้ายแล้วผู้เล่นส่วนใหญ่ก็จะเลิกเล่นเพราะสู้ไม่ไหว แล้วเกมก็จะตายลงอยู่ดี เพราะฉะนั้นเปิดเกมใหม่เรื่อย ๆ จะเป็นการได้กลับไปจุดที่สนุกที่สุดอีกครั้งครับ
6. ผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน มีเงินเติมและเติมเยอะด้วย

แน่นอนว่าเกมที่มีอายุและชื่อเสียงมากว่า 20 ปี ผู้เล่นในวันนั้นก็กลายมาเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้ และผู้ใหญ่ก็มีงาน มีเงินเอาไว้เติมเกม ยิ่งกับมายเซ็ตปัจจุบันที่ผู้คนเริ่มที่จะไม่อยากมีลูก ไม่อยากแต่งงาน ครองโสดและใช้เงินสร้างความสุขให้กับตัวเอง การเติมเงินเกมก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของเขา และ Ragnarok Online ก็เป็นเกมที่สร้างปมในวัยเด็กให้กับใครหลาย ๆ คนว่า ตอนเด็กไม่มีเงินเติมถึงไม่เก่ง วันนี้ฉันมีเงินแล้ว เพราะฉันนั้นฉันขอใช้เงินตอบสนองความต้องการวัยเด็กสักหน่อยก็แล้วกัน มันเลยทำให้เกม Ragnarok มักจะมีคนเติมเงินอยู่เสมอเพราะผู้เล่นส่วนใหญ่อยู่ในวัยที่กล้าใช้เงินกับการเติมเกมครับ
ก็ประมาณนี้นะครับสำหรับบทวิเคราะห์ว่าทำไม Ragnarok ถึงได้มีเกมออกใหม่มากมายขนาดนี้ มันก็เป็นเรื่องของธุรกิจครึ่งนึง ละก็พฤติกรรมของผู้เล่นเองด้วยครึ่งนึงครับ ถ้าไม่มีนายทุนเราก็คงไม่มีเกม Ragnarok เล่น หรือถ้าไม่มีคนเติมเกมก็อยู่ไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างพึ่งพาอาศัยกัน แต่ปัจจุบันมันออกมาเยอะเกินไปหรือเปล่า อันนี้ก็อยู่ที่ดุลพินิจของผู้เล่นแล้วล่ะครับ