[รีวิว] POCO F2 Pro เรือธงรุ่นสานต่อ คงความคุ้มค่าในเครื่องเดียว

หากพูดถึงแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะนึกออกแล้วว่าจะต้องเป็นแบรนด์ใด เพราะหากย้อนกลับไป 2 ปีเราได้มีสมาร์ทโฟนอย่าง Xiaomi Pocophone F1 ที่ทำราคาไม่ถึงหมื่นบาทแต่ได้สเปคระดับเรือธง และในวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เรื่องราวความคุ้มค่ากำลังจะถูกสานต่อกับ POCO F2 Pro ซึ่งตอนนี้วางจำหน่ายในไทยเรียบร้อยแล้ว จะเป็นยังไงกันบ้างเรามาดูกันเลย

Specification

– หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.68 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 20:9

– ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 CPU Octa-core (1×2.84 GHz Kryo 585 & 3×2.42 GHz Kryo 585 & 4×1.80 GHz Kryo 585) ชิปกราฟฟิก Adreno 650

– RAM 6GB

– ความจุภายใน 128GB

– กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 64MP f/1.9 (Wide) + 13MP f/2.4 (Ultra Wide Angle) + 5MP f/2.2 (Telephoto) + 2MP f/2.4 (Depth) พร้อมไฟแฟลช LED และโหมดการทำงานต่างๆ

– กล้องหน้าความละเอียด 20MP f/2.2 แบบ Pop-Up

– รองรับ Dual SIM แบบ Dual Standby ที่เป็นแบบนาโนซิม

– พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C

– แบตเตอรี่ความจุ 4700mAh ถอดไม่ได้ รองรับ Quick Charge 4+ 30W

– ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบด้วย MIUI 11

– น้ำหนัก 219 กรัม

– ราคา 17,990 บาท

[Design] – วัสดุที่อัปเกรดยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด

อย่างแรกเลยที่เราต้องมาพูดถึงกันคือเรื่องของการออกแบบตัวเครื่องที่อาจจะไปคุ้นชินกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นอย่าง Redmi K30 Pro เพราะทั้งสองจะบอกว่ามีการออกแบบเดียวกันเลยก็ว่าได้ สำหรับกระจกที่ใช้งานรอบตัวเครื่องจะเป็นตัวของ Gorilla Glass 5 ที่ล้อมรอบด้วยวัสดุอย่างโลหะ ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนจากรุ่นแรกที่ใช้งานเป็นโพลีคาร์บอเนต

ด้วยการออกแบบใหม่ทั้งหมดทำให้เวลาที่เราใช้งาน POCO F2 Pro จะมีความหรูหรามากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ทำให้เวลาที่ถือใช้งานแล้วสัมผัสได้ว่ามันเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงจริง ๆ ด้านหน้าของตัวเครื่องสามารถใช้งานพื้นที่ในการแสดงผลได้อย่างเต็มที่พร้อมขอบที่บางเอามาก ๆ เนื่องจากตัวเครื่องมีการนำกล้องหน้าไปใช้งานในรูปแบบของ Pop-Up นั่นเอง

ที่บริเวณกล้องหน้าแบบ Pop-Up จะมีแถบไฟ LED สำหรับแสดงสถานะการแจ้งเตือนต่าง ๆ เอาไว้ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่มักจะขาดหายไปในสมาร์ทโฟนสมัยนี้ การเรียกใช้งานกล้องหน้าแบบก็คงต้องบอกว่าไม่ได้ถึงกับเร็วมากแต่ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ขณะเดียวกันด้านบนของตัวเครื่องยังมีส่วนที่เอาไว้ใช้งานอินฟราเรดได้พร้อม ๆ กับช่องใส่หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นแถบโล่ง ๆ ที่ไม่มีปุ่มหรือช่องใด ๆ ขณะที่ด้านขวาจะมีปุ่มสำหรับเพิ่ม / ลดเสียงและปุ่ม Power ที่เป็นสีแดง ขณะที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นที่เสียบ USB-C ช่องใส่ซิมที่เป็นแบบ Dual-SIM ลำโพงและไมโครโฟน

ภายในหน้าจอจะรองรับการใช้งานการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ระยะเวลาอยู่ในระดับที่ดีแต่อาจจะไม่ได้รวดเร็วจนถึงขั้นไม่รู้สึก

ด้านหลังมาพร้อมกับกล้องที่ถูกจับรวมเอาไว้ในรูปแบบของวงกลมพร้อมไฟแฟลช LED

[Display] – จอใหญ่จุใจพร้อมการแสดงผลที่คมชัด

หน้าจอที่ถูกนำมาใช้งานใน POCO F2 Pro ถือว่ามีการพัฒนาที่ดีไม่น้อย มาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่จุใจไม่มีอะไรมาขวางกั้นเนื่องจากได้ทำการย้ายกล้องไปใช้งานแบบ Pop-Up ทำให้พื้นที่ในการแสดงผลค่อนข้างที่จะใหญ่จุใจเต็มหน้าจอ นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงหน้าจอมาเป็นแบบ Super AMOLED อีกด้วย

ในส่วนของค่า Refresh Rate ที่มีมาให้ภายในตัวเครื่องจะยังคงเป็นแบบมาตรฐานที่รองรับ 60Hz ซึ่งก็ต้องบอกว่าอาจจะไม่ได้สูงมากนักเพราะตอนนี้หลาย ๆ แบรนด์ที่ทำรุ่นเรือธงออกมาก็มักจะมีการรองรับในระดับ 90Hz หรือ 120Hz แต่ข้อดีที่แลกมาคือไม่กินแบตเตอรี่ตามไปด้วยนั่นเอง

ภาพรวมของหน้าจอที่ใช้งานภายใน POCO F2 Pro ต้องบอกว่าน่าประทับใจด้วยความที่หน้าจอสามารถแสดงผลได้เต็มพื้นที่ ใครที่จะนำไปเล่นเกมหรือรับชมสิ่งต่าง ๆ จะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน ถ้าเกิดใครที่ชื่นชอบในการรับชมภาพยนตร์คงต้องบอกว่ามันตอบโจทย์อย่างมาก

[Camera] – ครบเครื่องเรื่องการถ่ายภาพพร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 8K

ในเรื่องของการถ่ายภาพต้องบอกว่า POCO F2 Pro มาพร้อมกับความครบเครื่องในเรื่องของการถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็นเลนส์ Wide, Ultrawide, Depth และ Macro ทำให้พร้อมสำหรับการถ่ายภาพในทุก ๆ มุมมอง คุณภาพของรูปที่ได้ในการถ่ายก็ถือว่าทำออกมาได้เป็นอย่างดี สามารถเก็บรายละเอียดในการถ่ายได้ครบ

โหมดการถ่ายภาพต่าง ๆ ต้องบอกว่าแอปพลิเคชันสำหรับการถ่ายภาพที่ติดมากับเครื่องไม่ว่าจะเป็น HDR, Portrait, AI, Macro และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งก็ถือว่าครบในแอปเดียวโดยที่ไม่ต้องไปหาดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสำหรับการถ่ายภาพแยก

ในเรื่องของกล้องหน้าก็ถือว่ามีคุณภาพในการถ่ายที่ดี สามารถแสดงผลของสีที่ได้ออกมาตรง นอกจากนี้สิ่งที่ดีที่สุดคงเป็นเรื่องของการลด Noise ต่าง ๆ ที่มักจะเป็นจุดตายของกล้องหน้าในหลาย ๆ รุ่นแต่สำหรับ POCO F2 Pro นับว่าแก้ไขจุดนี้มาได้เป็นอย่างดี และที่ได้บอกกันไปว่าการถ่ายวิดีโอจะรองรับได้สูงสุดที่ 8K ที่ 30FPS ขณะที่หากลดลงมาจะรองรับได้ถึง 4K ที่ 60FPS เรียกได้ว่าจบทั้งการถ่ายภาพและวิดีโอ

[Software] – MIUI ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง

หากใครที่ไม่เคยใช้งานสมาร์ทโฟนจากทาง Xiaomi มาก่อนอาจจะไม่ชินเมื่อได้ลองใช้งาน MIUI 11 ครั้งแรก เพราะมันมีความต่างจาก Android 10 ที่เป็นแบบเดิมพอควร การออกแบบหน้าตาของ UI ถือว่าทำออกมาได้ดี มีฟีเจอร์และการตั้งค่าต่าง ๆ ได้ครบถ้วนแต่อย่างที่บอกไปหากไม่เคยใช้งานมาก่อน อาจจะต้องใช้เวลาทำความเข้าใจสักเล็กน้อย

และก็เหมือนกับสมาร์ทโฟนที่มาจากจีนเนื่องจากว่าจะมีการติดตั้งแอปพลิเคชันที่เราไม่ได้ใช้งานมาให้ตั้งแต่เริ่ม อย่างไรก็ตามข้อดีที่พอจะเห็นได้คือเราสามารถที่จะลบสิ่งที่เราไม่ได้ใช้งานได้ทันที โดยที่ไม่ต้องวุ่นวายนำเครื่องไป Root เพื่อลบสิ่งเหล่านี้

[Performance] – อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพการใช้งานด้วย Snapdragon 865

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ POCO F2 Pro ก็คือเรื่องของการเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่อัดแน่นสเปคมาให้จัดเต็ม ฉะนั้นใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่เน้นไปที่สเปคการใช้งานตัวนี้ถือว่าเป็นคำตอบอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมกินสเปคหนัก ๆ ถือว่าตอบโจทย์ทั้งหมด

การทดสอบด้วยแอปพลิเคชันอย่าง AnTuTu ถือว่าน่าประทับใจด้วยความที่ใช้งานชิปเซ็ตที่แรงที่สุดของฝั่ง Android ในตอนนี้ทำให้ได้คะแนนไปมากถึง 568720 คะแนน โดยที่หากไปดูอันดับคะแนนที่ได้จะอยู่ที่อันดับ 5 ซึ่งถือว่าน่าประทับใจอย่างมาก ขณะที่เซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่ให้มาภายในเครื่องก็ครบครัน

ในเรื่องของการเล่นเกมก็ถือว่าไม่เป็นปัญหาสำหรับ POCO F2 Pro ด้วยการที่มาพร้อมกับการใช้งานชิปเซ็ตระดับสูงทำให้เรื่องการเล่นเกมไม่ว่าจะเป็น Fortnite, PUBG Mobile, Black Desert Mobile ถือว่าทำออกมาได้ไม่มีปัญหา และด้วยความที่เป็นเครื่องที่มีการใช้งานการระบายความร้อนด้วยของเหลวภายใน ทำให้เรื่องอุณหภูมิไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับตัวเครื่องอีกต่อไป ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน

อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อย่าง Game Turbo ที่ช่วยทำให้เราสามารถเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้นสามารถเปิดโหมดประสิทธิภาพสูงขณะเล่นได้ และจุดพิเศษคือภายใน Game Turbo ขณะที่เราเล่นเกมสามารถแสดงค่าเฟรมเรทได้ด้วย

แต่ด้วยความที่มีแรมมาให้เพียงแค่ 6GB ที่แม้ว่าจะดูเยอะก็ตาม แต่พอได้มาใช้งานจริงแล้วรู้สึกจะมีปัญหาอยู่บ้าง การเปิดเกมเอาไว้และแอปพลิเคชันค้างเอาไว้แล้วสลับไปใช้งานสิ่งอื่น รู้สึกได้เลยว่ามีการโหลดใหม่ให้ได้เห็นกัน โดยเฉพาะเกมที่หากสลับไปใช้งานแอปพลิเคชันอื่นสักพัก หรือเปิดแอปตัวใหม่ แล้วกลับมาเข้าเกม ก็อาจจะมีการโหลดใหม่ให้เราได้เห็นกัน

[Battery] – อึด ถึก ทน พร้อมชาร์จเต็มได้ใน 1 ชม.

POCO F2 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4700mAh นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการชาร์จไวถึง 30W จากการทดสอบสามารถที่จะชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 100 เปอร์เซ็นต์โดยที่ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชม. เท่านั้น ถือว่ารวดเร็วอย่างมาก การใช้งานในแต่ละวันก็ถือว่ามีความทนพอสมควร อย่างไรก็ตามแบตเตอรี่จาก 100 ลดลงมาถึงประมาณ 90 อาจจะค่อนข้างไปไว้ แต่หลังจากนั้นแบตเตอรี่จะลดค่อนข้างยากพอตัว

[Conclusion] – สมาร์ทโฟน 5G ที่สเปคจัดเต็มที่ถูกที่สุดในเวลานี้

แม้ว่าราคาตอนนี้จะไม่ได้ถูกเหมือนกับรุ่นแรกแต่ก็ยังต้องยอมรับว่า POCO F2 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความคุ้มค่ามาก ไม่ว่าจะมองจากมุมใดก็มีความเป็นที่สุดไม่ว่าจะเป็นด้านสเปคที่ใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon 865 วัสดุที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งแบตเตอรี่ก็ยังทำออกมาได้เป็นอย่างดี กับราคา 17,990 บาท ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก

ข้อดี

– วัสดุและงานประกอบที่ทำออกมาเป็นอย่างดี

– ประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่ได้ Snapdragon 865 ทำให้ใช้งานได้ครบในทุก ๆ ด้าน

– หน้าจอที่มีพื้นที่การแสดงผลได้เต็มตาจุใจ

– กล้องครบในทุก ๆ การถ่ายภาพ

– แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานพร้อมกับขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่

– ชาร์จไวเต็มได้ใน 1 ชม.

– อุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมมีแถมมาให้ในกล่องเรียบร้อยแล้ว

– รองรับการใช้งาน 5G

ข้อสังเกต

– การสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่อาจจะไม่ได้เร็วมากนัก

– หน้าจอที่รองรับ Refresh Rate เพียง 60Hz

– ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Xiaomi ประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง POCO F2 Pro สมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องในทุก ๆ ด้านของการใช้งานแถมรองรับ 5G มาให้เราได้ทำการทดสอบกันใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

• Shopee

• Lazada