ถือเป็นการเสี่ยงดวงเพื่อพลิกเกมครั้งใหญ่ที่ทาง Blizzard Entertainment ดูเหมือนกำลังจะเดิมพันแบบหมดหน้าตัก กับการยกเครื่อง Overwatch 2 ตั้งแต่ซีซันที่ 15 เป็นต้นไป โดยนอกเหนือจากการปรับปรุงระบบเกมเพลย์และแนวทางการสนับสนุนการแข่งขันแล้ว เราจะพบว่ามีการเพิ่ม Loot Box กลับมาให้ลุ้นโชคกันอีกครั้งนั่นเอง ซึ่งล่าสุดคุณ Aaron Keller หัวเรือใหญ่ของเกมก็ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้อีกครั้งกับสื่อ Dexerto
ก่อนอื่นต้องเท้าความว่า Loot Box ในเกม Overwatch ภาคแรกนั้นเป็นกล่องสุ่มที่ผู้เล่นจะได้รับจากการอัปเลเวลภายในเกม โดยในกล่องมาพร้อมกับไอเทมเครื่องประดับทั้งสกิน ภาพโปรไฟล์ หรือท่าเต้นต่างๆ ของฮีโร่ และสามารถซื้อด้วยเงินจริงได้เช่นกัน ทั้งนี้จากการเปลี่ยนรูปแบบให้บริการเกมสู่ Free-to-play สกินรวมไปถึงไอเทมจากการสุ่มต่างๆ ได้เปลี่ยนมาเป็นการจำหน่ายแยกที่สามารถซื้อจากสกุลเงินพรีเมียมในเกมแทน และยกเลิกการทำกล่อง Loot Box โดยสิ้นเชิง
การกลับมาครั้งนี้ คุณ Aaron ยืนยันว่ากล่อง Loot Box ใน Overwatch ภาคสองจะมีหลักการทำงานเหมือนเดิมเลยครับนั่นคือเมื่อเราเปิดกล่องแล้วจะมีโอกาสได้รับไอเทมสุ่ม 4 ชิ้นที่อาจเป็นทั้งสกินหรือไม่ว่าจะอะไรก็ตาม แต่กล่องเหล่านี้จะได้รับจากการทำภารกิจหรือการเล่นเกมล้วนๆ ไม่มีจำหน่ายแยกทั่วไป และถ้าเกิดใครตั้งใจเล่นในซีซันนี้จริงๆ จะพบว่าสามารถปลดล็อกได้มากถึง 100 กล่อง!
ตัวอย่าง Loot Box จากเกมในภาคแรก
เขาระบุว่าในซีซันที่ 15 นี้เป็นการแจกกล่อง Loot Box แบบกรณีพิเศษ ซึ่งจะมีเงื่อนไขหลากหลายอย่างให้เลือกทำทั้งอีเวนต์และภารกิจภายในเกม ไปจนถึง Twitch Drops ที่สามารถติดตามได้ในอนาคต โดยจะพยายามตรวจสอบเรื่องการโกงกล่องเช่นกัน ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการระบุว่าจะเป็นมาตรการแบบไหน อย่างไรเสียมีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่าในเรตมาตรฐานจะการันตีไอเทมระดับ Legendary อย่างน้อยหนึ่งชิ้นแน่นอน และผู้เล่นสายฟรีสามารถทำ Battle Pass ในเทียร์เริ่มต้นเพื่อปลดล็อกกล่องระดับหายากได้ฟรีหนึ่งกล่องในทุกๆ ซีซัน
Overwatch 2 เป็นเกมรูปแบบ PvP Tactical Shooters โดยภาคสองได้ปรับจำนวนผู้เล่นเป็น 5v5 พร้อมฮีโร่ใหม่ การรีเวิร์กฮีโร่ รวมไปถึงบาลานซ์ และประเภทแผนที่ใหม่คือ Clash กับ Push อีกทั้งยังมีระบบการ Ping มีการปรับแต่งใหม่ให้ราบรื่นและมีประโยชน์มากขึ้น เช่นเดียวกับนำเสนอคอนเทนต์ใหม่เป็นรูปแบบ Battle Pass ตามฤดูกาลปัจจุบันเปิดให้บริการบน PlayStation, Xbox และบน Nintendo Switch กับ PC พร้อมรองรับภาษาไทย
