Game Developers Conference (GDC) ได้เปิดเผยผลการสำรวจประจำปี State of Games Industry ซึ่งพบว่าในปี 2024 นักพัฒนาเกม 1 ใน 10 คนถูกเลิกจ้าง โดย 41% ของนักพัฒนาทั้งหมดได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 35% ในปี 2023
การสำรวจนี้จัดทำขึ้นร่วมกับบริษัท Omdia และ Game Developer โดยมีนักพัฒนากว่า 3,000 คนเข้าร่วมการสำรวจเกี่ยวกับสภาพการณ์ปัจจุบันที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมเกม ซึ่งรวมถึงการเลิกจ้างงาน, ตำแหน่งงาน, แพลตฟอร์มที่ใช้, ชั่วโมงการทำงาน และการใช้เทคโนโลยี Generative AI
จากข้อมูลเกี่ยวกับการเลิกจ้าง 29% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าเพื่อนร่วมงานโดยตรงของพวกเขาถูกเลิกจ้างมากกว่าพนักงานในทีมและแผนกอื่น ๆ ซึ่งคิดเป็น 18%
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการเลิกจ้างส่วนใหญ่คือการปรับโครงสร้างองค์กร, รายได้ที่ลดลง และการเปลี่ยนแปลงด้านการตลาด
เมื่อ GDC ถามนักพัฒนาถึงสาเหตุที่การเลิกจ้างยังคงมีอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ หลายคนชี้ว่ามาจากปัญหาต่าง ๆ เช่น การขยายตัวเกินในช่วงยุค COVID, ค่าใช้จ่ายในการผลิตที่เพิ่มขึ้น, ความสนใจของผู้เล่นที่ลดลง, ความคาดหวังที่สอดคล้องกับความเป็นจริง, การบริหารงานที่ไม่ดี และการจัดการที่ไม่เหมาะสม
ในขณะที่การสนับสนุนจากสหภาพแรงงานในหมู่นักพัฒนายังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากกระแสการเลิกจ้างที่เกิดขึ้น นักพัฒนา 1 ใน 5 คนกล่าวว่าได้พูดคุยเกี่ยวกับการจัดตั้งสหภาพแรงงานในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดย 29% ของบริษัทเหล่านั้นสนับสนุนการพูดคุยนี้ ขณะที่ 19% มีความเห็นไม่ชัดเจน และ 12% คัดค้าน
บทบาทงานที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างในปี 2024 มากที่สุดคืองานด้าน Game Narrative ที่มีอัตราการถูกเลิกจ้างสูงถึง 19% แม้ว่าในส่วนนี้จะมีการเติบโตต่อเนื่องจาก 14% ในปีที่แล้ว
ในส่วนของนักพัฒนาที่ทำงานในสตูดิโอ AAA พบว่ามีจำนวนลดลงจาก 18% เหลือ 15% โดยเกือบครึ่งหนึ่งทำงานในสตูดิโอที่มีพนักงานมากกว่า 250 คน ส่วนในสตูดิโออินดี้มีมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ทำงานในสตูดิโอที่มีพนักงานไม่เกิน 20 คน
ในด้านชั่วโมงการทำงานส่วนใหญ่ของนักพัฒนายังคงทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่จำนวนนี้ลดลงจาก 64% ในปีที่แล้วเหลือ 57% ขณะที่ 13% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าทำงานมากกว่า 51 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 8% ในปี 2024
ในแง่ของแพลตฟอร์ม การพัฒนาเกมบน PC ยังคงครองตลาดด้วย 80% ของนักพัฒนาทำเกมสำหรับแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 66% ในปีที่แล้ว โดยการเติบโตนี้อาจเชื่อมโยงกับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Steam Deck
ส่วนในแพลตฟอร์มคอนโซล PlayStation 5 ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่นักพัฒนาสนใจมากที่สุด โดย 37% ของนักพัฒนาเลือกทำโปรเจกต์บน PS5 หรือ PS5 Pro เทียบกับ 33% สำหรับ Xbox Series X|S
ในส่วนของบริการคลาวด์ Xbox มีความนิยมมากกว่า PlayStation โดย 13% ของนักพัฒนากำลังทำเกมสำหรับ Xbox Game Pass ขณะที่ 9% เลือก PS Plus (Extra หรือ Premium)
การพัฒนาเกมบนมือถือเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 โดย 29% ของนักพัฒนากำลังทำเกมสำหรับ Android และ iOS
นอกจากนี้ การพัฒนาเกมผ่านเบราว์เซอร์ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีนักพัฒนาถึง 16% ที่ทำงานในสาขานี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 9% จากปีที่แล้ว
การพัฒนาเกมแบบ Live-Service ยังเป็นประเด็นที่ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดย 42% ของนักพัฒนากล่าวว่าไม่สนใจในการพัฒนาเกมประเภทนี้ เนื่องจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการฐานผู้เล่นที่ไม่ยอมรับ
