หลังจากการเปิดตัว PlayStation 5 Pro อย่างเป็นทางการในวันนี้ Sony อาจคาดหวังว่าผู้เล่นจะพร้อมที่จะควักกระเป๋าเพื่ออัปเกรดประสบการณ์การเล่นเกม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นไปตามคาด
ในตอนนี้บน X การประกาศเปิดตัว PS5 Pro อย่างเป็นทางการได้รับการตอบรับที่ไม่ค่อยดีนัก โดยมีผู้ใช้จำนวนมากแสดงความคิดเห็นในเชิงลบ ซึ่งไม่เพียงแต่บน X เท่านั้น แต่กระทู้ประกาศบน subreddit ของ PS5 รวมไปถึง Facebook ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายเช่นกัน
ประเด็นหลักที่ทำให้ PS5 โดนวิจารณ์ก็คือ “ราคาที่ไม่คุ้มค่ากับคุณภาพ” ซึ่งทาง mp1st ได้อธิบายว่า “เมื่อพิจารณาจากราคาและสิ่งที่เราเห็นในตอนนี้ ก็ไม่แปลกใจที่ผู้เล่นจะรู้สึกแบบนี้ เพราะดูเหมือนว่าจะไม่มีเหตุผลที่น่าสนใจพอที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อย และอย่าลืมว่า PS5 Pro จะต้องมีความเข้ากันได้กับเกมของ PS5 รุ่นปกติ ดังนั้นจึงไม่มีเกมพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับ PS5 Pro โดยเฉพาะ”
ตัวอย่างความเห็นของเกมเมอร์ที่มีต่อ PS5 Pro
“ราคาเกือบ 24,000 แต่ไม่มีช่องใส่ดิสก์เนี่ยนะ?!”
“ใครมันจะอยากได้เครื่องที่แรงขึ้นนิดนึง แต่ราคาพุ่งทะลุขนาดนี้”
“กล้าตั้งราคาแพงแต่ไม่มีเกม Exclusive สำหรับ PS5 Pro เนี่ยนะ”
“ผมมีแผ่นเกมเพียบ แต่ Pro ไม่มีช่องใส่แผ่น… โอค บาย”
“Sony เก็บไว้เล่นเองเถอะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเสียเงินให้ PS5 Pro”
“เก็บเงินไว้ซื้ออย่างอื่นดีกว่ามั้ง”
“ราคาอย่างแพง แต่ไม่มีช่องใส่แผ่นเนี่ยนะ”
“Sony คิดอะไรอยู่?”
“ไม่คิดว่า Sony จะกล้าตั้งราคาสูงขนาดนี้”
“ผมนี่ช็อคไปเลย ราคาแรงเกินไปกับเครื่องเล่นเกมไม่มีช่องใส่แผ่นเนี่ย”
ข้อมูลของ PlayStation 5 Pro
ในส่วนของตัวเครื่องยังคงมีการออกแบบคล้ายกับ PlayStation 5 รุ่นปรับโฉม ที่เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปีที่ผ่านมา นั่นคือขนาดเครื่องที่มีลักษณ์ตัวเครื่องเป็นสีขาวและบอดี้ที่เบาบางลง แต่จะมีจุดแตกต่างที่ลายพาดตรงกลางเป็นเส้นสามเส้น ซึ่ง Sony นับว่าเครื่องเล่นนี้ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความก้าวกระโดดอีกหนึ่งครั้ง วิ่งได้แรงแบบ 120FPS และภาพสูงถึง 8K ขณะเดียวกัน เกมที่เคยจำกัดโหมด Fidelity 30FPS จะวิ่งได้ 60FPS แล้วในเกมที่รองรับ ส่วนใครเลือก Performance ก็จะเห็นว่าภาพคมชัดขึ้นด้วยเหมือนกัน
จุดเด่นของเครื่องเล่นรุ่นนี้คือการใช้หน่วยประมวลผลที่ใหญ่ขึ้นเพื่อแรงการทำงานที่ดีทั้งในส่วนของ CPU และ GPU (GPU มีหน่วยทำงานสูงถึง 67% และหน่วยความจำประกอบ 28%) เฉลี่ยแล้วประมาณ 45% ตามมาด้วยระบบการสนับสนุน Ray-tracing ที่ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ทำให้ฟีเจอร์กราฟิกสะท้อนแสงที่สวยงามยิ่งทำงานได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะกินแรงเฟรมเรต และท้ายที่สุดก็คือเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า PSSR ที่จะเป็นปัญญาประดิษฐ์ใหม่ล่าสุด เพื่อช่วยอัปสเกลให้มีคุณภาพของภาพที่สูงมากขึ้นในเกมที่รองรับ เบื้องต้นไม่ว่าจะเป็น The Last of Us: Part II Remastered, Ratchet & Clank: Rift Apart หรือ Hogwart Legacy จะล้วนเล่นเกมได้ดีมากขึ้นแน่นอน
สำหรับ PS5 Pro มีกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 7 พฤศจิกายนราคา $699.99 หรือประมาณ 23,900 บาท ซึ่งจะขายเพียงแค่รุ่นไม่มีช่องใส่แผ่นเท่านั้น โดยสามารถเลือกซื้อชุด UHD Disc Drive แยกได้ในราคา 3,790 บาท และเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้งานบน PlayStation 5 Slim นั่นเอง
