ข่าว

Final Fantasy VII Remake Part 3 อาจใช้ Unreal Engine 5 พัฒนา

พร้อมประกาศเป้าหมายวางจำหน่ายในปี 2027

หลังจากที่ Final Fantasy VII Rebirth ประสบความสำเร็จ ล่าสุดทีมพัฒนาได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับภาคต่อที่จะมาถึง โดยหนึ่งในสิ่งที่แฟน ๆ ตื่นเต้นคือการได้บังคับยาน Highwind อย่างเต็มรูปแบบ หลังจากที่ในภาค Rebirth เราได้สัมผัสแค่บางส่วนเท่านั้น นอกจากนี้ เกมไพ่ยอดนิยมอย่าง Queen’s Blood ก็จะกลับมาอีกครั้งในภาคต่อไป โดยจะมีรูปแบบที่ใหญ่ขึ้นและดีขึ้น

Square Enix พิจารณาเปลี่ยน Engine ในการพัฒนา Final Fantasy VII Remake Part 3

ล่าสุด ผู้อำนวยการเกม Final Fantasy VII Rebirth ได้ให้สัมภาษณ์กับ CG World Japan เกี่ยวกับภาคถัดไป โดยมีการพูดถึงการเลือกใช้ Unreal Engine 4 หรือ Unreal Engine 5 ในการพัฒนาเกม ภาคต่อนี้ ทีมพัฒนาต้องการทำให้ดีที่สุด และการตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้ Unreal Engine 5 จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการพัฒนาเกมที่มีอยู่

ภาคก่อนหน้าของ Final Fantasy VII Remake ใช้ Unreal Engine 4 ซึ่งมีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับกราฟิกในโหมด Performance ในขณะที่ Unreal Engine 5 เริ่มเปิดตัวไม่นานหลังจาก Final Fantasy VII Remake และมีเกมดัง ๆ หลายเกมที่ใช้เอนจิ้นนี้ เช่น Fortnite, TEKKEN 8 และ Senua’s Saga: Hellblade 2

อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่า Final Fantasy VII Remake ภาคต่อไปจะใช้ Unreal Engine 5 หรือไม่ ซึ่งทางผู้ผลิตคาดหวังว่าจะวางจำหน่ายภายใน 3 ปี (ปี 2027) ซึ่งตรงกับการครบรอบ 30 ปีของ Final Fantasy VII ทำให้เราก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปครับ

Final Fantasy VII Rebirth เกมภาคต่อของ Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้วบน PlayStation 5 ผู้เล่นจะได้ติดตามการผจญภัยของ Cloud และผองเพื่อนเพื่อตามล่า Sephiroth บนแผนที่ที่มีสเกลใหญ่ขึ้น พร้อมสำรวจประวัติเบื้องหลังของตัวละครต่าง ๆ เกมมีทั้งหมด 2 แผ่น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะว่าการผจญภัยในครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน!

ที่มา
gamerant

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button