รีวิว

[รีวิว] ONE PIECE ODYSSEY – โจรสลัด เกาะโบราณปริศนา และอดีตอันหอมหวาน

เกม Turn-Based RPG จากแฟรนไชส์ ONE PIECE ที่ครบรส ควรค่าแก่การเล่น

ONE PIECE ODYSSEY เป็นเกม RPG จากซีรีส์ ONE PIECE ที่มีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยภายในเกมนี้ผู้เล่นจะได้พาเหล่าโจรสลัดหมวกฟางไปผจญภัยบนเกาะที่ไร้ทางหนี และชิงเอาสิ่งสำคัญที่ถูกแย่งไปกลับคืนมาให้ได้ สิ่งที่รออยู่ ณ ปลายทางของการผจญภัย คือศัตรูตัวใหม่ ธรรมชาติอันน่าตื่นตา และการจำลองโลก ONE PIECE ด้วยกราฟิกสุดอลังการ!

ล่าสุดผู้เขียนได้มีโอกาสออกผจญภัยไปในเกาะโบราณวาเฟิลด์นี้แล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะมานำเสนอรีวิวเกมที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 ระหว่างวันที่ 16-18 มกราคม 2566 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

ผจญภัยไปกับพวกลูฟี่แบบภาษาไทย!

image 1636

หากผู้อ่านคนใดที่ต้องการเล่นเกมนี้แต่ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถแปลภาษาอังกฤษภายในเกมนี้ออกหรือไม่ ผู้เขียนขออนุญาตบอกเลยว่า “โยนความกังวลนี้ทิ้งไปได้เลยครับ” เพราะว่าเกม ONE PIECE ODYSSEY จะมาพร้อมภาษาไทยเต็มรูปแบบให้ผู้เล่นได้เล่นกันแบบอิ่มเอมหัวใจเลยทีเดียว เพราะภาษาไทยภายในเกมนี้จะถูกแปลในทุก ๆ ส่วนไม่ว่าจะเป็นหน้าจอเมนู , หน้าต่าง UI , คำอธิบายต่าง ๆ ไปจนถึงเนื้อเรื่องทั้งหมด

image 1637

และที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือ ภาษาไทยภายในเกมนี้ถูกแปลออกมาได้อย่างสวยงาม โดยเท่าที่ผู้เขียนได้สังเกตจากการเล่นเกมก็พบว่าปัญหาในการแปลนั้นมีน้อยมาก ๆ แต่ที่โดดเด่นจริง ๆ ก็คือทีมแปลภาษาของเกมนี้ทำการบ้านมาได้ดีมาก ๆ ทำให้ตลอดการเล่นเกมของผู้เขียนรู้สึกลื่นไหล ไม่ขัดตาไม่ขัดใจใด ๆ แถมยังสามารถเสพย์เนื้อเรื่องได้แบบเต็มอิ่ม รวมไปถึงมุกตลกต่าง ๆ ที่สอดแทรกเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ โดยที่ไม่ต้องกังวลใจเลยว่าจะเข้าใจผิดไปแม้แต่นิดเดียว และด้วยสาเหตุนี้เองผู้เขียนจึงกล้ายกนิ้วให้กับการแปลภาษาไทยภายในเกม ONE PIECE ODYSSEY นี้ครับ

เกมเพลย์ที่น่าสนใจ ทั้งการสำรวจฉาก และการต่อสู้

image 1638

ONE PIECE ODYSSEY ถูกทำออกมาเป็นเกม Turn-Based RPG ที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งเกมเพลย์หลัก ๆ ของเกมนี้ จะมีทั้งหมด 2 ส่วนด้วยกันนั่นก็คือ การสำรวจแผนที่ และการต่อสู้ ซึ่งผู้เขียนบอกได้เลยว่าเกมนี้ได้นำองค์ประกอบที่น่าสนใจและคุ้นเคยมาใช้งานได้เป็นอย่างดี

image 1639

เริ่มต้นจากเกมเพลย์สำรวจที่พวกเราจะได้ออกผจญภัยในเกาะโบราณวาเฟิลด์ที่เต็มไปด้วยปริศนาและสมบัติมากมาย ซึ่งการสำรวจฉากภายในเกมนี้เราจะมีสิ่งที่ได้ทำมากกว่าการเดินไปเดินมาในแผนที่เฉย ๆ เพราะผู้เล่นสามารถสลับตัวละครออกมาเป็นตัวละครหลักในการเดินสำรวจแผนที่ได้ ซึ่งการสลับตัวละครออกมาในการสำรวจฉากก็ไม่ได้ทำไปเพราะแค่เซอร์วิสแฟน ๆ เฉย ๆ แต่ตัวละครแต่ละตัวนั้นจะมีความสามารถในการมีปฏิสัมพันธ์กับฉากที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่นลูฟี่สามารถยืดแขนเพื่อยึดเหนี่ยวกับฉากเพื่อใช้ในการเดินทางข้ามเส้นทางที่ขาดหายไป , ช็อปเปอร์ที่มีขนาดตัวเล็กจะสามารถพาลูกเรือหมวกฟางมุดช่องทางขนาดเล็กต่าง ๆ ได้ , อุซปที่สามารถใช้อาวุธของเขาในการยิงทำลายสิ่งกีดขวางที่อยู่ไกลออกไปได้ เป็นต้น

image 1640

นอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับอุปกรณ์ในฉากต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหีบสมบัติ , หม้อดินเผาต่าง ๆ ที่เราสามารถทุบเพื่อค้นหาไอเทมภายในนั้นได้ รวมไปถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งของต่าง ๆ ภายในฉากเพื่อไขปริศนากลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่ภายในเกม และจากข้อมูลทั้งหมดนี้ผู้เขียนสรุปได้เลยว่าการสำรวจฉากภายในเกมนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก แถมยังสามารถใช้งานได้สะดวกไม่ต้องกังวลใจอีกด้วย

ในขณะเดียวกันเกมเพลย์ต่อสู้ภายในเกม ONE PIECE ODYSSEY ก็เปรียบเสมือนหัวใจหลักของเกมเลยก็ว่าได้ โดยเกมนี้ก็ได้นำเกมเพลย์พื้นฐานของเกมประเภท Turn-Based RPG มาใช้งานครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นระบบแพ้-ชนะทางของประเภทตัวละคร , การโจมตี การใช้สกิล ไปจนถึงการใช้ไอเทม รวมไปถึงผู้เล่นสามารถสลับตัวละครในทีมหลัก และทีมสำรองได้ตลอดเวลา

image 1641

แต่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากที่ผู้เขียนมองว่าเป็นจุดเด่นของเกมนี้ก็คือ ระบบการต่อสู้ที่ไม่ได้กำหนดตายตัวว่า “ตัวละครใดจะต้องโจมตีก่อน” โดยในแต่ละรอบผู้เล่นสามารถเลือกใช้ตัวละครใดโจมตีก่อนก็ได้ และตัวละครใดที่ออกแอ็กชั่นไปแล้วก็จะไม่สามารถทำอะไรได้อีกในรอบนั้น ๆ ซึ่งรูปแบบการต่อสู้แบบนี้ทำให้ผู้เล่นสามารถวางแผนในการต่อสู้ได้หลากหลายแบบ ซึ่งจะสอดคล้องกับระบบการแบ่งโซนของเกมนี้ที่ไม่ถูกจำกัดด้วยคำว่า “ฝั่งผู้เล่น และฝั่งศัตรู” เพราะภายในเกมนี้เราจะได้เห็นกลุ่มตัวละครของเราถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยต่าง ๆ ในการเผชิญหน้ากับศัตรู นั่นแปลว่าในสนามรบหนึ่ง อาจจะถูกแบ่งออกเป็นอีก 4 สนามรบย่อยก็ได้ ซึ่งจุดนี้เองจะส่งผลต่อการต่อสู้อย่างชัดเจน

image 1642

และเมื่อผสมผสาน 2 องค์ประกอบนี้เข้าด้วยกัน ทำให้เราสามารจัดการต่อสู้ได้หลากหลายแบบ เช่นการจงใจผลักศัตรูที่มีพลังโจมตีสูงให้ไปอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับตัวละครฝั่งเราที่มีพลังป้องกันสูงเพื่อยื้อเวลาในการต่อสู้ หรือแม้กระทั่งการใช้สกิลเพื่อจับศัตรูโยนเข้าไปในพื้นที่เดียวกัน จากนั้นก็ใช้สกิลโจมตีหมู่กำจัดพวกมันในรวดเดียวก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับผู้เล่น

อีกทั้งภายในเกมนี้ยังมีระบบ Dramatic Scene ซึ่งเปรียบเสมือนสถาณการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง ซึ่งสถาณการณ์พิเศษนี้จะเปรียบเสมือนภารกิจพิเศษที่ผู้เล่นควรจะทำให้สำเร็จ เพราะถ้าผู้เล่นทำสำเร็จก็จะได้รับบัฟพิเศษที่จะช่วยให้ตัวละครของเราแข็งแกร่งขึ้นด้วย

ระบบอำนวยความสะดวกในการต่อสู้

image 1643

นอกเหนือจากเกมเพลย์ต่อสู้ที่น่าสนใจภายในเกมนี้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากก็คือระบบอำนวยความสะดวกที่เราสามารถใช้งานได้เพื่อทำให้การเล่นเกมของเราสบายขึ้น โดยระบบเหล่านี้ก็คือระบบการต่อสู้อัตโนมัติ (AI) ที่เราสามารถกดใช้งานได้ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเลือกใช้งานระบบนี้ตัวละครของผู้เล่นจะต่อสู้ด้วยตนเอง ซึ่งค่อนข้างประหยัดพลังงานให้กับผู้เล่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาที่เราต้องการฟาร์มเลเวลให้กับตัวละคร  อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเสียดายอยู่พอสมควรก็คือระบบ AI นี้ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เลือกว่าต้องการให้ AI นั้น มุ่งเน้นการต่อสู้ในรูปแบบใด ซึ่งหลาย ๆ เกมที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ก็มีระบบการเลือกรูปแบบของ AI อยู่แล้ว ทำให้ผู้เขียนรู้สึกเสียดายอยู่พอสมควร

นอกเหนือจากระบบต่อสู้อัตโนมัติแล้วภายในเกมนี้ยังมีระบบการเพิ่มความเร็วในการต่อสู้อีกด้วย ทำให้ผู้เล่นประหยัดเวลาในการเล่นเกมได้มากพอสมควรเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ผู้เขียนค่อนข้างรู้สึกประทับใจในเรื่องของระบบการเพิ่มความเร็วในการต่อสู้ก็คือความลื่นไหลของอนิเมชั่นที่ยังคงดูดีไม่ขัดตาจนเกินไป ทำให้ความรู้สึกในการเล่นเกมด้วยความเร็วสูงก็ยังคงสนุกสนานไม่แพ้กับการเล่นเกมในความเร็วปกติ

เซอร์วิสมาแบบจัดเต็มที่แฟน ๆ ONE PIECE ต้องกรีดร้อง!

image 1644

แน่นอนว่าเมื่อเป็นเกม ONE PIECE ที่ได้ อ.Oda มาช่วยกำกับดูแล ทางผู้พัฒนาเกมนี้ก็ไม่พลาดที่จะเซอร์วิสแฟน ๆ ให้ได้กรี๊ดแตกกันจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นท่าโจมตีที่คุ้นตาอย่าง หมัดปืนกลยางยืดของลูฟี่ , ดาบมังกรสลาตันของโซโร , มิราจเทมโปของนามิ , มูตอนช็อตของซันจิ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแต่ละสกิลนั้นจะมาพร้อมฉากคัทซีนสุดอลังการที่เหล่าแฟน ๆ ที่ชื่นชอบความสะใจอย่างที่สุด เรียกได้ว่าจัดเต็มทั้งกราฟิกที่คมชัด การเคลื่อนไหวแบบอนิเมะที่คุ้นตา ไปจนถึงเอฟเฟกต์อลังการงานสร้างที่ผู้เขียนเองประทับใจแบบสุด ๆ

นอกจากนี้ภายในเกม ONE PIECE ODYSSEY เราจะได้พบเจอกับตัวละครที่คุ้นตาต่าง ๆ มากมายทั้งในสถานการณ์ปัจจุบัน ไปจนถึงช่วงย้อนอดีตที่บอกได้เลยว่าหากผู้อ่านคนใดคิดถึงเหล่าตัวละครจาก ONE PIECE ก็อาจจะได้เฮกันดัง ๆ ก็เป็นได้ แต่จะเป็นตัวละครอะไรบ้างนั้น ผู้เขียนขออนุญาตอุบไว้ก่อนเพื่อไม่เป็นการสปอยล์เนื้อเรื่องครับ

สรุปรีวิว

image 1645

ONE PIECE ODYSSEY เป็นเกม RPG จากซีรีส์ ONE PIECE ที่ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ๆ จนผู้เขียนขอยกนิ้วให้เลย แม้ว่าระบบเกมเพลย์อาจจะเป็นระบบดั้งเดิมที่แตกต่างไปจากเกมในตลาดยุคปัจจุบัน แต่เกมนี้ก็ทำออกมาได้ลงตัว ถ้าหากเป็นอาหารก็คงเรียกได้ว่าเป็นรสเก่าที่คุ้นปาก แต่ถูกปรุงแต่งเพิ่มให้มีความแปลกใหม่ขึ้นมาอีกนิด แม้ว่าจะน่าเสียดายเล็กน้อยที่องค์ประกอบบางอย่างน่าจะต่อยอดได้อีก แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นเกมที่น่าสนใจที่แฟน ONE PIECE ไม่ควรพลาดครับ

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 8 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

  • กราฟิกเซลเฉดสวยงาม เก็บรายละเอียดได้ดี
  • เอฟเฟกต์อลังการงานสร้างมาก โดยเฉพาะฉากต่อสู้
  • ระบบการต่อสู้ที่ไม่ล็อคลำดับการออกแอ็กชั่น และการแบ่งโซนพื้นที่ที่หลากหลายทำให้เกมนี้มีความแตกต่างที่น่าสนใจ
  • การแปลภาษาไทยที่ทำออกมาได้ดีพอสมควร

ข้อสังเกต

  • ฉากคัทซีนเยอะไปนิด ทำให้บางทีขัดอารมณ์
  • หากชอบเกมที่ต่อสู้เยอะ ๆ อาจจะไม่ถูกใจเกมนี้ไปบ้าง
  • การวิ่งในฉากสำรวจรู้สึกว่าช้ามาก

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment Asia ที่เอื้อเฟื้อเกมดีๆ เกมมันส์ๆ มาให้พวกเราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยนะครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://opflag.bn-ent.net/th/

ภาพ Screenshots เพิ่มเติม

image 1646
image 1647
image 1648
image 1649
image 1650
image 1651
image 1652
image 1653
image 1654
image 1655
image 1656
image 1657

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button