เทคโนโลยี

พบบัคใน Windows Defender ที่ส่งผลต่อซีพียู Intel

ลดทอนประสิทธิภาพการทำงานราว 4 เปอร์เซ็นต์

ช่วงที่ผ่านมาเราน่าจะได้เห็นการออกมาแนะนำผู้ใช้งานเกี่ยวกับประสิทธิภาพการป้องกันภัยร้ายของ Windows Defender ว่าทำได้ดีชนิดที่ว่าไม่ต้องไปพึ่งพาโปรแกรมอื่น อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ามันจะมีบัคที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบทำให้ผู้ใช้งานซีพียู Intel ต้องปวดหัวกับประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง

จากข้อมูลที่ถูกนำเสนอในครั้งนี้เผยว่าได้มีบัคที่ส่งผลให้ Windows Defender จะทำการเรียกใช้งานคอร์การทำงานของซีพียูขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ นั่นดูเหมือนว่าจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนักเว้นเสียแต่ว่า มันดันไปตั้งสถานะของการเรียกใช้งาน process ดังกล่าวให้อยู่ใน mode 2 ซึ่งจะส่งผลให้ทรัพยากรที่ใช้งานถูกนำมาสนับสนุน process ดังกล่าวแทน

image 577

ขณะที่บัคดังกล่าวตั้งสถานะให้อยู่ใน mode 2 แต่โปรแกรมอื่น ๆ โดยทั่วไปจะถูกจัดให้อยู่ใน mode 3 ทำให้เวลาที่ใช้งานโปรแกรมอื่นและเกิดบัคขึ้นมา ทำให้ประสิทธิภาพในโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ลดลง มีการทดสอบกับ Intel Core i9-10850K ใน Cinebench และพบว่าประสิทธิภาพลดลง 6 เปอร์เซ็นต์ โดยซีพียูที่ได้รับผลกระทบมีความเป็นไปได้ว่าซีพียู Intel ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2008 จะได้รับผลกระทบทั้งหมด โดยประสิทธิภาพที่ลดลงจะอยู่ที่ประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์

ด้วยประสิทธิภาพที่ลดลงไปเล็กน้อยบางรายอาจจะมองว่าไม่สำคัญ ขณะที่บางส่วนอาจจะต้องการแก้ไขทางแก้ที่ง่ายที่สุดคือการเข้าไปปิดใช้งาน Windows Defender แต่อาจจะส่งผลกระทบกับระบบได้หากปิดไป อีกทางเลือกคือทางผู้ที่ค้นพบบัคดังกล่าวได้ทำการออกโปรแกรมที่เรียกว่า ThrottleStop 9.5 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการปรับปรุงประสิทธิภาพดังกล่าวมาแก้ไข

ที่มา
PCGamer

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button