Vivo เปิดตัว Vision Discovery Edition แว่น MR ท้าชน Apple Vision Pro ในจีน
8K Micro-OLED น้ำหนักเบา ราคาคาดถูกกว่าถึงสามเท่า

Vivo ฉลองครบรอบ 30 ปีด้วยการเปิดตัว Vivo Vision Discovery Edition แว่น MR รุ่นแรกของบริษัทที่เมืองตงกวน ประเทศจีน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2025 อุปกรณ์นี้ถูกวางตำแหน่งให้แข่งขันโดยตรงกับ Apple Vision Pro โดยมีจุดเด่นที่การออกแบบน้ำหนักเบาเพียง 398 กรัม และขนาดเล็กกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมถึง 26% พร้อมระบบป้องกันฝ้าด้วยช่องระบายอากาศ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานนาน ๆ
แว่น Vivo Vision มาพร้อมจอแสดงผล Micro-OLED คู่ ความละเอียด 8K (3,552×3,840 พิกเซลต่อตา) ครอบคลุมสี 94% ของมาตรฐาน P3 และมอบมุมมองพาโนรามา 180 องศา รองรับการติดตามดวงตาด้วยความแม่นยำ 1.5 องศา และการควบคุมด้วยท่าทางนิ้วที่มีอิสระ 26 องศา ทำงานบนระบบปฏิบัติการ OriginOS Vision และใช้ชิป Qualcomm Snapdragon XR2+ Gen 2.1 ที่ให้ประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น 2.5 เท่าและ AI ดีขึ้น 8 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
อุปกรณ์นี้มีจุดเด่นที่การปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ใช้ ด้วยตัวเลือกซีลกันแสง 4 ขนาดและโฟมรอง 8 แบบ เพื่อให้สวมใส่สบายสำหรับใบหน้าชาวเอเชียโดยเฉพาะ รองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น ดูภาพยนตร์บนหน้าจอเสมือนขนาด 120 นิ้ว รับชมกีฬาแบบ 3D เล่นเกมและทำงานหลายหน้าต่างพร้อมกัน รวมถึงถ่ายวิดีโอ 3D และภาพถ่ายเชิงพื้นที่เมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟน Vivo บางรุ่น
Vivo Vision มีดีไซน์ที่คล้าย Apple Vision Pro อย่างชัดเจน เช่น หน้ากากผ้าเทา สายรัดด้านหลังและแบตเตอรี่ภายนอกที่เชื่อมด้วยสายถัก อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างด้วยแถบข้างที่ดูเป็นโลหะและตัวเครื่องที่บางกว่า แม้ว่าจะถูกวิจารณ์ว่าเลียนแบบ แต่ Vivo เน้นย้ำถึงความสะดวกสบายและราคาที่อาจถูกกว่าถึงหนึ่งในสามของ Vision Pro ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 120,000 บาท)
ปัจจุบัน Vivo Vision Explorer Edition เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในร้านค้าปลีก 12 แห่งทั่วจีน โดยยังไม่มีการเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการและข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ รวมถึงการสนับสนุนแอปพลิเคชันจากบุคคลที่สาม บริษัทระบุว่าจะขยายร้านค้าที่ให้ประสบการณ์ใช้งานในระลอกที่สองเร็ว ๆ นี้ แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะวางจำหน่ายนอกจีนหรือไม่
การเปิดตัวครั้งนี้ทำให้ Vivo เป็นผู้ผลิตสมาร์คโฟนจีนรายแรกที่ก้าวเข้าสู่ตลาด MR ซึ่งอาจช่วยให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นในจีนผ่านราคาที่ถูกกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนในโซเชียลมีเดียตั้งคำถามว่า OriginOS Vision จะเทียบชั้นกับซอฟต์แวร์ของ Apple ได้หรือไม่ และ Vivo จะหลีกเลี่ยงปัญหาการยอมรับในช่วงแรกที่ Vision Pro เผชิญได้หรือไม่ การเปิดตัวในช่วงกลางปี 2025 จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของ Vivo ในตลาดนี้