เทคโนโลยี

[รีวิว] PICO 4 แว่น VR ตัวแรงแบบ All-in-One

ครบจบในตัวเองแบบไม่ต้องพึ่งพาใคร

ในยุคที่เราสามารถเข้าถึงอุปกรณ์เสมือนอย่างแว่น VR ได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนพร้อมประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาก แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเริ่มต้นการใช้งานจากแบรนด์ไหนดี ฉะนั้นในครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับ PICO 4 แว่น VR ที่จะนำพาทุกคนเข้าสู่โลกเสมือนที่จะมอบประสบการณ์อันไม่รู้ลืม

Design

image 7309

ตามปกติแล้วเรามักจะเข้าใจว่าแว่น VR มีความยุ่งยากและซับซ้อนในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใครที่ไม่ชอบการที่ต้องมีสายติดอุปกรณ์ระหว่างเล่นด้วยแล้ว การเลือกซื้อสักรุ่นในช่วงแรกจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ข้อจำกัดทั้งหมดได้หมดไปภายใน PICO 4

image 7310
image 7311

อย่างแรกคือการออกแบบตัวแว่นที่ทำออกมาได้สมดุล เวลาที่เราใช้งานจะพบว่าด้านหน้าและด้านหลังมีการกระจายน้ำหนักที่ดีส่งผลให้ไม่รู้สึกว่าถูกดึงไปด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกินไป ช่วยให้เราสามารถที่จะยืนระหว่างการใช้งานได้อย่างมั่นคง

image 7312

นอกจากการกระจายน้ำหนักที่ทำได้ดีแล้ว ในส่วนของน้ำหนักของแว่นโดยตรงอยู่ที่ 295 กรัมถือว่าเบามาก และเมื่อรวมทุกอุปกรณ์ทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างตัวควบคุมสองอัน น้ำหนักทั้งหมดจะอยู่ที่ 586 กรัมเท่านั้น

image 7313
image 7314

ที่แผงด้านหน้าเป็นจอแสดงผลที่เอาไว้ตรวจจับสภาพแวดล้อมภายนอกและตัวควบคุมของเรา มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่เป็นแบบ 6DoF หมายความว่าทุกการกระทำจะมีผลต่อการใช้งานของเราเกือบทั้งหมด

image 7315

ด้านหลังมาพร้อมกับส่วนที่ใช้สำหรับปรับระดับความแน่นของสายรัดและระดับใกล้ไกลของส่วนท้ายกับตัวจอแสดงผล ขณะที่สายด้านบนเป็นตัวสำหรับปรับระดับความกระชับเวลาใช้งาน

image 7316

ด้านในมีส่วนสำหรับรองรับศีรษะของผู้ใช้งานทำให้ไม่รู้สึกว่าถูกบีบรัดจากด้านท้าย ส่วนด้านข้างไม่ต้องกังวลเพราะไม่มีส่วนใดที่รัดเราโดยตรง

image 7317
image 7318

ส่วนหน้าเป็นพื้นที่สำหรับเลนส์แสดงผลพร้อมตัวรองรับใบหน้าของผู้ใช้งาน พร้อมมีอุปกรณ์เสริมอย่างตัวเว้นระยะแว่นตาและแป้นจมูกที่เอาไว้สำหรับป้องกันการโดนเลนส์กดทับโดยตรงเวลาใช้งาน

image 7319
image 7320
image 7321

ด้านซ้ายของแว่นเป็นพอร์ต USB-C สำหรับเสียบเพื่อเชื่อมต่อกับพีซีไว้แสดงผลหรือใช้เพื่อชาร์จโดยตรง ด้านขวาเป็นปุ่มสำหรับเปิดและปิดตัวแว่น พร้อมไฟแสดงสถานะการชาร์จแบตเตอรี่

image 7322
image 7323
image 7324
image 7325

ทั้งสองข้างมาพร้อมกับลำโพงในตัวทำให้เราสามารถใช้งานได้โดยที่ไม่ต้องใช้หูฟังแยก พร้อมไมโครโฟนภายในตัว

Display

หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ PICO 4 น่าสนใจยิ่งขึ้นหนีไม่พ้นเรื่องของหน้าจอการแสดงผลที่มาพร้อมกับความละเอียดถึง 4K+ ขนาดของเลนส์แต่ละข้างมีขนาด 2.56 นิ้ว แต่ละข้างมีความละเอียด 2K (2,160 x 2,160 พิกเซล) ทำให้ภาพที่ใช้งานออกมามีความคมชัด

image 7326

เลนส์ที่ใช้งานภายในแว่นรุ่นนี้ถูกเรียกว่าเลนส์แบบแพนเค้กที่ภายในมีมอเตอร์สำหรับการปรับระยะห่างระหว่างเลนส์เอาไว้ในตัว ทำให้ได้มุมมองที่มีความแม่นยำกว่าการปรับแบบมีปุ่มปรับระยะภายนอกโดยตรง

image 7327

ตัวจอรองรับการแสดงผลระดับ 90Hz ทำให้ช่วยลดภาพที่อาจจะเบลอเวลาที่เราเคลื่อนไหวและหันไปมาได้ดีกว่าเดิม มุมมองภาพ 105 องศา

หน้าจอแสดงผลเวลาที่เราใช้งานสามารถใช้สิ่งที่เรียกว่า See Through กล่าวคือเราสามารถที่จะมองทะลุเลนส์ภายในเพื่อรับมุมมองภายนอกได้โดยตรง ส่งผลให้เราสามารถที่จะหยิบสิ่งต่าง ๆ ได้โดยที่ไม่ต้องถอดแว่นในเวลาที่จำเป็น หรือมีคนเดินเข้ามาจะพูดคุยกับเราก็สามารถมองเห็นได้โดยตรง

image 7328

วิธีการใช้งานโหมดดังกล่าวสามารถที่จะเรียกใช้งานได้จากเมนูในหน้าจอโดยตรง หรืออีกวิธีคือการแตะที่ขอบหน้าจอด้านขวามือ 2 ครั้งเพื่อเปิดการใช้งานและทำแบบเดียวกันอีกครั้งเพื่อกลับเข้าสู่การแสดงผลตามปกติ

Performance

image 7329

ขุมพลังที่อยู่เบื้องหลัง PICO 4 คือชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon XR2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตยอดนิยมและตัวท็อปของอุปกรณ์ที่ใช้งานสำหรับแว่น VR อย่างเช่น Meta Quest 2 แต่ข้อดีที่เหนือกว่าหนีไม่พ้นเรื่องของแรมที่มีให้มาถึง 8GB ขณะที่ของคู่แข่งมีเพียง 6GB เท่านั้น

image 7330

ที่เก็บข้อมูลของตัวแว่นมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 ขนาดคือ 128GB และ 256GB ส่วนตัวมองว่าที่เก็บข้อมูลเริ่มต้นถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในภาพรวมแล้ว แต่สำหรับใครที่มีแผนจะดาวน์โหลดและเก็บข้อมูลเป็นอย่างมาก 256GB ถือว่าตอบโจทย์กว่า เนื่องจากตัวอุปกรณ์ไม่ได้รับที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมภายนอกได้

image 7331
image 7332
image 7333

มาว่ากันที่ประสิทธิภาพการทำงานจากที่ลองทดสอบการเล่นเกมที่มีให้ใช้งานในตอนนี้ถือว่าตัวอุปกรณ์สามารถที่จะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ไม่พบช่วงที่มีการกระตุกเวลาเล่นหรือโหลดฉากแต่อย่างใด ฉะนั้นเราพอจะสรุปได้ว่าหากเป็นเกมที่มีการออกแบบมาให้เหมาะสมสำหรับแว่น VR อยู่แล้ว สามารถที่จะใช้งานร่วมกับ PICO 4 ได้อย่างไม่มีปัญหาให้ต้องกังวล

image 7334
image 7335

เกมหลัก ๆ ที่เราจะได้รับในตอนแรกหากใครที่ซื้อมาจะประกอบไปด้วยกันทั้งหมด 3 เกมคือ Wands Alliance, All-in-One Sports VR และ SUPERHOT VR โดยที่แต่ละเกมจะมีความสนุกที่แตกต่างกันไป ส่วนตัวแล้วค่อนข้างที่จะชอบเกม All-in-One Sports มาก เพราะนอกจากจะช่วยทำให้เราสนุกได้แล้ว ยังช่วยในการออกกำลังกายในภาพรวมอีกด้วยและมันจะถูกเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ที่ PICO Fitness ที่ให้มองว่าเป็นแอปติดตามสุขภาพของเราเหมือนที่มีในสมาร์ทโฟนนั่นเอง แต่แม่นยำกว่าในแง่ของการคำนวนแคลลอรี่ที่ใช้ไป

image 7336

SUPERHOT VR เป็นอีกหนึ่งเกมที่จะเติมเต็มความฝันของใครหลาย ๆ คนที่อยากจะออกท่าทางและแสดงความเท่ในตัวเองต้องห้ามพลาด ตัวเกมแม้จะเปิดตัวออกมานานแล้ว แต่การได้มาเล่นในรูปแบบของ VR ทำให้เราสามารถที่จะสัมผัสประสบการณ์และหาแนวทางในการผ่านด่านที่ต่างออกไปจากเดิม

image 7337
image 7338

ข้ามมาที่การใช้งานกับแอปพลิเคชันอื่นด้านความบันเทิงกันบ้างอย่าง PICO Video และ PICO Browser ในส่วนแรกจะเป็นแอปพลิเคชันที่เอาไว้ใช้สำหรับรับชมความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอทั่วไป แบบ 360 องศา แบบตอบสนองกับเนื้อหาภายในได้ พบว่าสามารถที่จะทำงานได้ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นวิดีโอที่ไม่ได้เป็นคลังที่ดาวน์โหลดเอาไว้โดยตรง ส่งผลให้หากสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เร็วพอจะโหลดได้ทันจะพบว่ามีอาการสะดุดเวลาใช้งานพอสมควร สื่อที่เราเลือกได้จะมี 2 ความละเอียดให้เป็นหลักด้วยกันทั้งหมด 2 แบบคือ 4K และ 8K

image 7339

ภายในแอปพลิเคชันเดียวกันยังมีมุมเล็ก ๆ ที่เราสามารถเข้าไปรับชม TikTok แบบ VR ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเราจำเป็นที่จะต้องลงชื่อเข้าใช้งานก่อนในครั้งแรกถึงจะสามารถรับชมได้ ซึ่งเมื่อเข้ามาจะพบว่าไม่ได้มีฟีเจอร์พิเศษอะไรเพิ่มเติม และฟีเจอร์บางอย่างที่เราสามารถทำได้ในแอปสมาร์ทโฟนเช่นการซ่อน UI หรือเร่งความเร็วไม่มีให้ใช้งานในตอนนี้ ทำได้เพียงแค่ไถดูคลิปไปเรื่อย ๆ รวมถึงกดถูกใจเท่านั้น

image 7340

PICO Browser เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันหลักที่เราจะได้ใช้งานและมันทำหน้าที่ตามชื่ออย่างไม่มีผิดเพี้ยน เราสามารถที่จะเล่นเกมในรูปแบบของเว็บที่พัฒนามาสำหรับ VR ได้เช่นกัน รวมไปถึงการเข้าชมเว็บไซต์อื่นอย่าง YouTube, Facebook สามารถทำได้ที่นี่ เป็นที่น่าเสียดายตรงที่ว่า YouTube ไม่ได้มีเป็นแอปพลิเคชันแยกให้ใช้งานทำให้การออกแบบอาจจะไม่ได้เหมาะกับ VR มากนัก แต่เมื่อเข้าไปรับชมที่ตัวคลิปได้แล้วก็ถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจ เราสามารถเลื่อนซูมเข้าออกได้ให้เหมาะกับมุมมองของเราเพียงแค่กดที่ปุ่มด้านหลังของตัวควบคุมและเลื่อนเข้าออกได้ทันที

image 7341

อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นการใช้งานในลักษณะเว็บทำให้พบปัญหาการแสดงผลที่ผิดพลาดอยู่เช่นกัน แตกต่างจากแอปพลิเคชันอื่นที่เป็นในลักษณะของแอปแยกที่พัฒนามาโดยเฉพาะ โอกาสเจอข้อผิดพลาดหากใช้งาน 10 ครั้งจะพบว่ามี 1 ครั้งในบางเว็บที่อาจทำงานไม่สมบูรณ์ตัวควบคุมหรือเราจะเรียกว่าจอยที่ถูกแบ่งออกเป็นสองข้างมีการออกแบบปุ่มกดออกมาให้ใช้งานได้ง่าย โดยที่จะมีปุ่มฟังก์ชันแยกข้างละ 2 ปุ่มที่เอาไว้สั่งการและใช้งานเป็นหลัก

image 7342

นอกจากตัวควบคุมแล้วหากเราไม่ต้องการใช้งานก็สามารถที่จะใช้มือของเราเองเป็นตัวควบคุมหลักได้เช่นกัน โดยที่เซ็นเซอร์ด้านหน้าจะมีการตรวจจับมือของเราในกรณีที่ไม่พบการเชื่อมต่อของตัวควบคุม หรือไม่อยู่ในระยะที่ตรวจจับได้ อย่างไรก็ตามการใช้งานด้วยมือค่อนข้างที่จะมีความยากในการใช้งานพอสมควร ฉะนั้นเราขอแนะนำให้ใช้งานคู่กับตัวควบคุมเป็นหลักจะดีที่สุด ส่วนการใช้งานด้วยมือใช้ในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ จะดีกว่า

ย้อนกลับไปพูดถึงฟีเจอร์ See Through ที่เราสามารถแตะสองครั้งที่ด้านข้างของตัวเครื่องเพื่อสลับมุมมอง ด้วยความที่ฟีเจอร์ดังกล่าวยังอยู่ในช่วงของการทดสอบทำให้การใช้งานจริงอาจจะพบว่ามีทั้งใช้งานได้ทันทีและต้องแตะตำแหน่งต่างกันถึงจะสามารถใช้งานได้ แต่ในภาพรวมถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการสลับมุมมองที่ง่ายและเร็วที่สุด

Software

image 7343

PICO 4 มาพร้อมกับการใช้งานระบบภายใน PICO OS 5.0 ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับอุปกรณ์มากที่สุด ตัวระบบมีหน้าตาการใช้งานที่เข้าใจได้ง่าย เมื่อเข้ามาใช้งานครั้งแรกจะมีการให้เราตั้งค่าขอบเขตการใช้งานด้วยตัวเอง หรือจะใช้งานการตั้งค่าขอบเขตการเล่นแบบคงที่ซึ่งมีการกำหนดมาให้แล้ว โดยที่จะมีให้เลือกระยะใกล้ ปานกลาง และไกล พร้อมกับลักษณะการใช้งานที่เป็นแบบยืนหรือนั่งเล่น

image 7344

ร้านค้าหลักที่เราจะใช้สำหรับการซื้อแอปพลิเคชันและเกมของระบบในตัวเครื่องจะเรียกว่า PICO Store ภายในประกอบไปด้วยเกมและแอปพลิเคชันที่น่าสนใจจำนวนมาก โดยที่การซื้อหากไม่พอใจสิ่งที่ได้เราสามารถทำเรื่องขอคืนเงินได้หากเป็นการซื้อมาภายใน 14 วันและมีการใช้งานไม่เกิน 120 นาที ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างมากสำหรับอุปกรณ์ใหม่ที่ต้องการดึงดูดผู้เล่นให้เข้าถึงเกมได้มากที่สุด

image 7345
image 7346

เราสามารถที่จะทำการส่งภาพหน้าจอออกไปสู่อุปกรณ์อย่างเช่นทีวี พีซีและสมาร์ทโฟนได้ โดยที่เราต้องใช้งานแอปพลิเคชันแยก แต่ถ้าเกิดเป็นพีซีหรือเครื่องที่สามารถเข้าถึงเบราว์เซอร์ได้ จะสามารถเข้าผ่าน URL ที่ขึ้นมาได้ในจอทันที แต่ว่าต้องอยู่ในเครือข่ายเดียวกันเท่านั้นถึงจะสามารใช้งานได้

image 7347

นอกจากนี้ยังสามารถทำการสตรีมผ่าน Streaming Assistant เพื่อเปิดประสบการณ์การเล่นที่สมบูรณ์แบบได้เช่นเดียวกัน แต่เครื่องที่จะใช้งานในการสตรีมจำเป็นที่จะต้องมีสเปคพื้นฐานที่เพียงพอต่อการใช้งานด้วยถึงจะสามารถใช้งานได้

Battery

เรื่องของแบตเตอรี่ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย PICO 4 มาพร้อมกับขนาดแบตเตอรี่ 5300mAh รองรับการชาร์จไว 20W หากใช้งานแบบต่อเนื่องไม่มีหยุดสามารถใช้งานได้กว่า 2 ชั่วโมง ถือว่าเป็นเวลาที่ไม่มากและน้อยจนเกินไป เนื่องจากการสวมอุปกรณ์ไว้ที่ดวงตาตลอดเวลา หากใช้เวลานานเกิน 2 ชั่วโมง คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อดวงตานัก ระยะเวลา 1 – 2 ชั่วโมงถือว่าเป็นตัวเลขที่กำลังดีสำหรับการใช้งานอุปกรณ์ประเภทนี้แล้ว และด้วยการที่มาพร้อมกับระบบชาร์จไวทำให้ไม่ต้องใช้เวลานานในการรอเพื่อใช้งานในครั้งต่อไป โดยรวมแล้วแบตเตอรี่ของตัวเครื่องทำออกมาได้น่าพอใจ ความร้อนมีอยู่บ้างแต่ไม่ได้ส่งมาถึงใบหน้าของเราจนรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน

Conclusion

ในภาพรวมต้องบอกว่า PICO 4 เป็นอุปกรณ์สำหรับการใช้งาน VR ที่ดีตัวหนึ่งในตลาด ณ เวลานี้ หากพูดถึงการที่เป็นแว่นที่สามารถใช้งานแบบไร้สายด้วยตัวเองได้แล้ว ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่ ความละเอียดของหน้าจอแสดงผลทำให้เราไม่รู้สึกว่ามีช่วงที่ภาพไม่ชัดจากตัวอุปกรณ์เอง การตอบสนองและการใช้งานทำออกมาได้ไม่มีสะดุด สามารถส่งหน้าจอไปที่จอใหญ่เพื่อให้เพื่อนเห็นได้ พร้อมกับจำนวนเกมที่อยู่ในระดับที่ไม่มากและน้อยจนเกินไป ราคาเริ่มต้น 15,990 บาท ในรุ่นความจุ 128GB ถือว่าตอบโจทย์ใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์โลกเสมือนที่ไม่มีสะดุดได้อย่างแท้จริง

ข้อดี

– หน้าจอความละเอียดสูง 4K+ แสดงเนื้อหาได้ถึงใจ

– การออกแบบที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานสวมและถอดออกได้ง่าย

– มีส่วนที่รองรับศีรษะทำให้ไม่รู้สึกว่าถูกกดเวลาใช้งาน

– สามารถใช้งานได้แม้ว่าจะมีแว่นตา

– น้ำหนักเบาพร้อมการกระจายน้ำหนักที่ไม่เทไปด้านใดด้านหนึ่ง

– ระบบการติดตามแบบ 6DoF แม่นยำทุกการเคลื่อนไหว

– จอยควบคุมใช้งานได้สะดวกไม่ต้องชาร์จเพราะมีแบตในตัว

– รองรับโหมด See Through แบบสีทำให้เห็นรายละเอียดได้ดีกว่ารุ่นอื่น

– รองรับการส่งหน้าจอไปสู่อุปกรณ์อื่นเช่นทีวี พีซีและสมาร์ทโฟน

ข้อสังเกต

– น่าจะมีปุ่มที่สามารถกดเพื่อปรับระยะโฟกัสแบบจับต้องได้แทนที่จะไปปรับผ่านซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียว

– เกมและแอปพลิเคชันที่รองรับยังค่อนข้างน้อย

– หากจะใช้การสตรีมตัวเครื่องที่จะใช้จำเป็นที่จะต้องมีสเปคระดับหนึ่งถึงจะสามารถใช้งานได้และหากต้องการใช้แบบไร้สาย ควรที่จะต้องอยู่ใกล้กับตัวกระจายสัญญาณเพื่อความเสถียรที่สุด

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง PICO แห่งประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง PICO 4 มาให้เราได้ทำการทดสอบใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.picoxr.com/th

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button