เทคโนโลยี

[รีวิว] iPhone 15 Pro Max จุดเปลี่ยนสำคัญสู่ยุคสมัยใหม่ของ iPhone

มาพร้อมชิปเซ็ตสุดแรง A17 Pro และวัสดุใหม่ไทเทเนียม

นาทีนี้คงไม่มีอุปกรณ์ไหนที่ร้อนแรงไปมากกว่า iPhone 15 Pro Max ซึ่งมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่หลายคนรอคอย แน่นอนว่าแม้จะยังมีการตั้งข้อสังเกตจากหลายคนว่าเปลี่ยนเพียงแค่ไม่กี่อย่าง แต่สำหรับ Apple ถือว่ามีการนำเสนอได้เป็นเอกลักษณ์มาโดยเสมอ ที่สำคัญสุดคงหนีไม่พ้นการมาพร้อมกับอนาคตใหม่อย่างการเปลี่ยนมาใช้งานพอร์ต USB-C

นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงในส่วนของพอร์ตที่ใช้งานแล้วตัวเครื่องยังมีการใช้งานชิปเซ็ตใหม่สุดอย่าง A17 Pro ใช้งานสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตรที่มาพร้อมกับความสามารถที่ Apple ภูมิใจนำเสนอด้วยการนำเกมระดับ AAA จากเครื่องคอนโซลมาให้ใช้งานในตัวเครื่องแบบเนทีฟ ไม่ได้เป็นการเล่นผ่านระบบสตรีมหรือแบบคลาวด์ ขณะเดียวกันยังมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของกล้องหลังที่ได้เลนส์ Telephoto แบบซูม 5 เท่า

image 1909

รุ่นที่เราได้นำมาทดสอบในครั้งนี้คือ iPhone 15 Pro Max ที่มาพร้อมกับความจุ 1TB รุ่นท็อปสุดที่มีวางจำหน่ายราคาในไทย 66,900 บาท แต่ถ้ารุ่นเริ่มต้นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 48,900 บาท หากเทียบกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงถือว่าคุ้มกว่ารุ่นที่ผ่าน ๆ มาในแง่ของการเปลี่ยนแปลงในช่วงหลังที่เราอาจไม่ค่อยได้พบกันเท่าไหร่นัก ไล่เรียงกันมาได้พอประมาณเราจะพาทุกคนไปเจาะลึกกันในแต่ละส่วนของเจ้าเครื่องรุ่นนี้กันเลยว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

Design

การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่สุดในเรื่องของการออกแบบตัวเครื่องของ iPhone 15 Pro Max คงหนีไม่พ้นการละทิ้งสิ่งที่อยู่คู่กันมาอย่างสแตนเลสสตีลรอบตัวเครื่อง และเปลี่ยนแปลงมาใช้งานไทเทเนียมแทน การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ถือว่าช่วยยกระดับของตัวเครื่องอย่างมาก เนื่องจากทำให้เครื่องมีความทนทานกว่าเดิมและยังส่งผลให้มีน้ำหนักที่เบา ในรุ่นนี้หนักเพียง 221 กรัม ขณะที่รุ่นก่อนหนักถึง 240 กรัม

image 1910

แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีมากก็ตามแต่สำหรับใครที่ชื่นชอบความสดใสในการใช้งานตัวเครื่อง คงต้องบอกว่าสีที่มีให้เลือกใช้งานแบบสดใสจัดเต็มถูกตัดออกไป เนื่องจากตัวเลือกของสีมีให้เลือกกันเพียง 4 แบบเท่านั้นคือ ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมน้ำเงินและไทเทเนียมธรรมชาติ 

image 1911

นอกจากน้ำหนักที่เบาลง ในส่วนของอัตราส่วนของตัวเครื่องมีขนาดที่จับได้ง่ายและเข้ามือยิ่งขึ้นด้วยการมีอัตราส่วน 159.9 x 76.7 x 8.25 มิลลิเมตร เทียบกับที่มีอยู่ในรุ่นก่อน 160.7 x 77.6 x 7.85 มิลลิมเตร แม้ตัวเลขจะดูต่างกันไม่มาก แต่ช่วยให้การถือจับด้วยมือข้างเดียวทำได้ดียิ่งขึ้น แม้หน้าจอจะใหญ่ถึง 6.7 นิ้วก็ตาม

image 1912

iPhone 15 Pro Max ให้สัมผัสกับผู้ใช้งานที่หากเคยผ่านมือกับรุ่นก่อนมา จะพบว่ามีผิวสัมผัสที่ดีขึ้นค่อนข้างชัดเจน เหลี่ยมและมุมของตัวเครื่องไม่มีส่วนที่จะทำให้บาดมือของผู้ใช้งาน ฉะนั้นวางใจได้ในเรื่องนี้ ที่อาจต้องระวังกันเสียหน่อยคงเป็นเรื่องของการใช้งานในขณะที่นิ้วมือของเราเต็มไปด้วยเหงื่อซึ่งจะส่งผลให้เป็นรอยได้ง่าย แต่ทำความสะอาดก็กลับมาเป็นปกติ

ที่ด้านล่างนอกเหนือจากพอร์ต USB-C ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ในภาพรวมไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเท่าใดนัก แต่นั่นก็เพียงพอที่จะบอกว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่าที่สุดในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เหนือจากผู้ใช้งานสามารถที่จะใช้งานสายเดียวกันกับที่มีอยู่ใน iPad และ MacBook ได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าตัวเครื่องให้มาแค่สายเท่านั้น ไม่ได้ให้อะแดปเตอร์มาด้วยเช่นเคย

image 1913

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอีกอย่างคือปุ่ม Action ที่ถูกแทนที่ปุ่มสำหรับเปิดและปิดเสียงเดิมที่อยู่มาอย่างยาวนานสำหรับผู้ใช้งาน iPhone แน่นอนนี่เป็นทั้งเรื่องดีที่เราได้ของเล่นใหม่มาใช้งาน แต่ก็เป็นเรื่องที่เราต้องปรับตัวให้เข้ากับการใช้งานแบบใหม่ด้วยเช่นกัน

image 1914
image 1915

ค่าพื้นฐานของปุ่มใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามายังคงทำหน้าที่เดียวกับปุ่มเดิมที่ถูกนำออกไป คือหากเราทำการกดปุ่มค้างเอาไว้สักระยะหนึ่งจะเป็นการเปลี่ยนไปโหมดเงียบ และหากทำแบบเดียวกันก็จะกลับมาเป็นโหมดเปิดเสียงตามปกติ อย่างไรก็ตามเราสามารถที่จะปรับแต่งค่าการทำงานของปุ่ม Action ให้ใช้งานในด้านอื่นได้เช่นเปิดกล้อง เปิดไฟฉาย หรือจะเป็นการใช้เพื่อเปิดโหมดการแปลภาษา หรือจะใช้เพื่อเป็นปุ่มสำหรับการกดชัตเตอร์ในโหมดถ่ายภาพก็ยังได้

image 1916

ขอวนมาเจาะในส่วนของพอร์ต USB-C กันต่อ iPhone 15 Pro Max มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงพอร์ต Lightning มาใช้งานพอร์ตใหม่ก็จริงแต่ข้อสังเกตที่พบจากการใช้งาน คือการที่ตัวเครื่องไม่รองรับการใช้งานกับทุกสายที่เป็น USB-C เราได้ทำการทดสอบด้วยการใช้งานสายจากแบรนด์สมาร์ทโฟนของจีนนอกกระแสรุ่นหนึ่งที่เป็นของแท้มาเสียบ พบว่าไม่สามารถชาร์จได้ ขณะเดียวกันสายที่มีความยาว 2 เมตรที่ซื้อจากร้านที่พบได้ตามห้างก็ไม่สามารถที่จะใช้งานได้เช่นกัน

image 1917

อย่างไรก็ตามทดสอบด้วยสาย USB-C ที่ซื้อตามร้านทั่วไปที่พบได้ก็สามารถใช้งานได้อย่างน่าสงสัย เรื่องนี้หากใครที่ใช้งานสายที่เป็นของแบรนด์ชั้นนำหรือมีความพร้อมที่ใช้สายจากตัวเครื่องโดยตรงอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้งานไม่ได้ เพียงแต่ตัวอะแดปเตอร์ที่ใช้งานจำเป็นที่จะต้องเป็น USB-C ด้วยเช่นกัน ไม่สามารถใช้งาน USB-A ได้เนื่องจากสายที่ให้มากับเครื่องเป็นแบบ USB-C ทั้งสองหัว

image 1918

ในการถ่ายโอนข้อมูลตัวเครื่องรองรับมาตรฐาน USB 3 สามารถทำความเร็วได้ถึง 10Gbps นั่นเป็นมาตรฐานใหม่ของทาง Apple แต่ไม่ใช่มาตรฐานใหม่ที่จะนำมาเปลี่ยนแปลงวงการได้ เพราะแบรนด์อื่นให้ความเร็วที่เหนือกว่าไปแล้วด้วยมาตรฐาน USB 3.2

image 1919

Display

หน้าจอของ iPhone 15 Pro Max มาพร้อมกับสิ่งที่เราอาจจะบอกได้ว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบคร้ังใหญ่เหมือนในช่วงที่ผ่านมา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่แย่จนต้องวิจารณ์กันเนื่องจากตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.7 นิ้วที่เป็นพาเนลแบบ OLED พร้อมกับความสว่างที่สูงในระดับ 2,000 nits หากเป็นการใช้งานกลางแจ้ง ซึ่งต้องยอมรับว่าสู้ได้ไม่ต้องกลัวอะไร

image 1920
image 1921

อีกหนึ่งสิ่งที่ยังคงถูกนำมาใช้งานกันต่อคือเรื่องของจอรองรับ ProMotion ส่งผลให้ตัวเครื่องสามารถที่จะปรับการแสดงผลให้ได้สูงถึง 120Hz โดยที่หากเป็นการแสดงผลในส่วนของ Always-on Display สามารถที่จะปรับค่า Refresh Rate ให้ลดลงมาเหลือเพียง 1 เพื่อช่วยในการประหยัดพลังงานที่ใช้ได้ พร้อมรับการแจ้งเตือนแบบไม่พลาดเหตุการณ์ใดที่สำคัญแบบไม่ต้องปลดล็อคตัวเครื่อง

image 1922

Dynamic Island เป็นสิ่งที่หลายคนอาจได้สัมผัสเป็นครั้งแรกหรือถนัดกันไปเสียแล้ว ในช่วงแรกที่เปิดตัวในปีก่อนแม้จะได้รับคำวิจารณ์ไว้พอสมควร แต่ต้องยอมรับว่ามันมีประโยชน์อย่างมากในการใช้งานจริง เนื่องจากเราสามารถที่จะได้เห็นการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์โดยไม่เสียพื้นที่การแสดงผลบนหน้าจอไป ทดสอบด้วยการสั่งอาหารผ่าน LINE MAN ช่วยให้รับทราบการเคลื่อนไหวของไรเดอร์ได้ง่ายทีเดียว

image 1923

การรับชมเนื้อหาด้านการสตรีมมิ่งถือว่าเหมาะอย่างมากเนื่องจากหน้าจอรองรับการแสดงผลแบบ HDR และด้วยสีที่แสดงออกมาจากหน้าจอแบบ OLED ทำให้เราได้ภาพที่ดูมีสีสดและมีชีวิตชีวาอย่างมาก การรับชมหรือเล่นเกมผ่านหน้าจอของ iPhone 15 Pro Max จะเป็นประสบการณ์ที่ชวนให้ดื่มด่ำอย่างมกา

Performance

ประสิทธิภาพของ iPhone 15 Pro Max เป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงวงการของสมาร์ทโฟนที่จะตามมาในอนาคตได้อย่างแน่นอน ด้วยความที่ใช้งานชิปเซ็ต A17 Pro ที่ทาง Apple เผยว่ามีความเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 10 เปอร์เซ็นต์ในแง่การทำงานของซีพียู ขณะที่ในแง่ของการทำงานด้าน ML ทำได้ดีกว่าเดิมสองเท่า

image 1924
image 1925

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงสำคัญที่สุดคือเรื่องของชิปกราฟิกที่ถูกเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดด้วยการใช้งานคอร์แบบใหม่จำนวน 6 คอร์ สิ่งนี้ทาง Apple ค่อนข้างที่จะภูมิใจในการนำเสนอพอสมควร เนื่องจากสามารถที่จะทำให้ตัวเครื่องสามารถที่จะเล่นเกมระดับ AAA แบบเนทีฟได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาระบบการเล่นอื่นแต่อย่างใด

เทียบประสิทธิภาพกับ iPhone 14 Pro Max ให้ผลลัพธ์ออกมาได้ดังนี้

image 1926
image 1927
image 1928
image 1929

ชิปเซ็ตใหม่ทำให้ตัวเครื่องสามารถที่จะรองรับการแสดงผลและใช้งานเทคโนโลยีใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเปิดเทคโนโลยี Ray Tracing เป็นที่น่าเสียดายว่าเราไม่ได้มีโอกาสที่จะทดสอบเกมที่มีการนำเสนอในช่วงการเปิดตัวอย่าง Resident Evil Village แต่ด้วยความมั่นใจของทาง Apple ที่กล้านำมาเปิดตัวให้ได้เห็นในงานเปิดตัว ก็พอจะยืนยันได้จากการใช้งานเพื่อเล่นเกมอื่นแทน

image 1930

การทดสอบเล่นเกมอย่าง Genshin Impact หรือ Honkai Star Rail พบว่าตัวเครื่องสามารถที่จะใช้งานเพื่อเล่นได้ดี พร้อมกับการเปิดภาพกราฟิกภายในเกมแบบจัดเต็ม ในเกมที่รองรับการแสดงผลที่เฟรมเรท 120FPS ตัวเกมสามารถที่จะเปิดโหมดดังกล่าวเพื่อใช้งานได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดมันก็ยังคงที่จะดำเนินการต่อไปแม้จะเป็นกับเครื่องรุ่นใหม่อย่าง iPhone 15 Pro Max แล้วก็ตาม

image 1931

ตัวเครื่องสามารถที่จะเล่นเกมที่ไม่หนักและกินสเปคมากได้แบบไม่มีปัญหานัก แต่หากเป็นเกมที่มีระดับใกล้เคียงกับสองเกมด้านบนพบว่าหากเปิดกราฟิกแบบจัดเต็ม จะสามารถที่จะเล่นได้แบบสบายใจอยู่ที่ราว 20 นาทีหลังจากที่เปิดเกมเล่นเท่านั้น แต่หลังจากเวลาผ่านไปจะพบว่าตัวเครื่องมีความร้อนสูงอย่างเห็นได้ชัด และการถือเพื่อเล่นต่อไปเป็นสิ่งที่ทำได้ยากพอสมควร

image 1932

สิ่งที่ตามมาหลังจากที่ความร้อนพุ่งสูงคือเรื่องของการเล่นเกมที่จะมีเฟรมเรทตกให้ได้เห็นกันเป็นระยะ แม้ว่าจะไม่ได้มากจนทำให้รู้สึกว่าเล่นไม่ได้ แต่ด้วยความคาดหวังที่เราจ่ายเงินในระดับราคาเกินครึ่งแสนไปแล้ว ย่อมทำให้เราต้องคาดหวังกันเป็นธรรมดา และหากจะให้เล่นในสภาพแวดล้อมที่ต้องอยู่ในห้องแอร์เท่านั้นก็อาจจะไม่ใช่ทางแก้ที่ถูกจุดเสียทีเดียว คงต้องให้ทาง Apple ออกอัปเดตระบบที่ช่วยในเรื่องของการจัดการทรัพยากรของเครื่องกันใหม่ 

image 1933

หากทำการปรับภาพกราฟิกในเกมลงมาให้ต่ำที่สุดก็ยังคงพบว่าระยะเวลาที่สามารถเล่นได้โดยไม่ต้องมีความรู้สึกว่าร้อนในมือขณะเล่นยังไม่เกิน 30 นาทีเท่านั้น ฉะนั้นเราอาจจะพอบอกได้ว่าหากต้องการที่จะเล่นเกมในเครื่อง iPhone 15 Pro Max การหาจอยที่ต่อเข้ากับตัวเครื่องเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่า และมันตอบโจทย์อย่างมากในการใช้งานจริง เช่นเดียวกับการรองรับการเล่นในระดับคอนโซลเนทีฟการจะถือเล่นผ่านเครื่องโดยตรงอาจไม่ได้อรรถรสมากนัก

แต่ปัญหาดังกล่าวที่แม้จะยังไม่ได้รับการแก้ไขแบบเห็นได้ชัด การระบายความร้อนของตัวเครื่องยังคงสามารถที่จะทำได้ดี โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีหลังจากที่ทำการปิดเกมไปแล้วตัวเครื่องสามารถที่จะกลับมาอยู่ในสภาวะที่พร้อมใช้งานได้ในทันที โดยไม่ทิ้งร่องรอยของความร้อนที่เคยขึ้นไปสูงให้ได้สัมผัสกัน

iPhone 15 Pro Max เล่นเกม Resident Evil Village (Remote), ROV, Genshin Impact และ Real Racing 3

Camera

image 1935

iPhone 15 Pro Max มาพร้อมกับการอัปเกรดกล้องครั้งใหญ่จากรุ่นก่อน ที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการซูมที่ทำได้ดียิ่งขึ้น เลนส์หลักของตัวเครื่องมีความละเอียด 48MP พร้อมกับค่าเริ่มต้นที่จะถ่ายภาพด้วยความละเอียด 24MP แต่สามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายที่ความละเอียดสูงได้หรือ 48MP แบบประหยัดพื้นที่ เช่นเดียวกับโหมด ProRAW

image 1936
image 1937
image 1938

โหมดการถ่ายภาพในตัวเครื่องเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากตัวระบบค่อนข้างที่จะตัดสินใจปรับภาพให้เหมาะกับสิ่งที่เรากำลังจะถ่ายได้เป็นอย่างดี การมีเลนส์ที่ใช้งานได้จริง Telephoto ช่วยให้เราแทบจะไม่ต้องทำการสลับโหมดการถ่ายภาพไปมาได้เลย อย่างเช่นเราสามารถใช้งานกล้องโดยที่ลืมไปแล้วว่าโหมด Portrait เคยมีอยู่ด้วย

image 1939

สิ่งที่โดดเด่นในรุ่นใหม่หนีไม่พ้นการซูมที่พัฒนายิ่งขึ้น กล้องที่ใช้งานในตัวเครื่องได้การซูมแบบออพติคัล 5 เท่า เป็นก้าวกระโดดที่สำคัญจากรุ่นก่อนที่มีเพียงแค่ 3 เท่า ส่วนการซูมแบบดิจิทัลทำได้ที่ 25 เท่า จากเดิมที่ทำได้เพียง 15 เท่า พร้อมกับมีเลนส์ ultrawide รองรับการถ่ายภาพกว่าง 120 องศา

image 1940

ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 12MP รองรับการถ่ายในหลากหลายโหมดเช่นเดียวกับ ProRAW ขณะที่การถ่ายวิดีโอรองรับในระดับ 4K 60fps ด้วยกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

Battery

แบตเตอรี่ใน iPhone 15 Pro Max มาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนที่ไม่ได้ก้าวกระโดดมากนัก แต่เรายังคงคาดหวังที่จะได้เห็นอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมในรุ่นก่อนได้ชัดเจน จากการทดสอบพบว่าสามารถที่จะใช้งานหนัก ๆ ในระหว่างวันได้โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดไปก่อนได้แบบเบาใจ

image 1941

ในส่วนนี้ต้องชมการจัดการระบบของทาง Apple ที่มีใน iPhone 15 Pro Max แม้ว่าจะสามารถแสดงผลได้ในระดับ 120Hz ก็ตาม แต่ก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนการแสดงผลให้เหมาะกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของตัวเครื่องได้ สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือการที่ตัวเครื่องรองรับการชาร์จไวเพียงแค่ 20W เท่านั้น และตัวเลขที่ทาง Apple บอกว่าชาร์จได้ 50 เปอร์เซ็นต์ในเวลา 30 นาที ไม่สามารถที่จะทำได้อย่างที่คาดหวัง เนื่องจากมีปัจจัยในส่วนของความร้อนมาเก่ียวข้องขณะที่เริ่มทำการชาร์จนั่นเอง

Conclusion

image 1942

iPhone 15 Pro Max ไม่ใช่แค่การอัปเกรดที่เล็กน้อยเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับการจัดหนักจัดเต็มให้กับตัวเครื่องอย่างมากทั้งวัสดุที่ใช้งานไทเทเนียมทำให้มีความเบาและทนทาน หรือจะเป็นการอัปเกรดภายในอย่างชิปเซ็ต A17 Pro ที่เป็นอนาคตของการเล่นเกมแน่ แม้จะยังต้องอาศัยการปรับปรุงระบบตามมาในภายหลังก็ตาม ที่สำคัญการตัดสินใจซื้อ iPhone 15 ในปีนี้นับว่าเป็นการตัดสินใจที่สมกับเงินที่จ่ายไปจริง USB-C กล้องที่ดีขึ้น ปุ่ม Action ในภาพรวมถือว่าเป็นการจ่ายได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมาที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ข้อดี

– การเลือกใช้งานวัสดุใหม่ไทเทเนียมทำให้ตัวเครื่องเบาและทนทาน

– ปุ่ม Action สามารถปรับแต่งการทำงานได้หลากรูปแบบ

– ชิปเซ็ต A17 Pro แรงที่สุดในบรรดาชิปเซ็ตที่ใช้งานในสมาร์ทโฟน ณ เวลานี้

– จอแสดงผลที่ยังคงมอบผลลัพธ์ที่น่าประทับใจในที่กลางแจ้ง

– รองรับการแสดงผล 120Hz พร้อม HDR

– แบตเตอรี่ชาร์จครั้งเดียวอยู่ได้นานทั้งวันในทุกสถานการณ์

– กล้องรองรับการซูมแบบใหม่ที่หลากหลายกว่าเดิม

– รองรับการใช้งานพอร์ต USB-C

ข้อสังเกต

– แบตเตอรี่ชาร์จได้ค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในช่วงราคาที่ด้อยกว่า

– ปุ่ม Action มีโหมดการเรียกใช้งานที่น้อย

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Apple ประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง iPhone 15 Pro Max มาให้เราทำการทดสอบกันใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตาม Apple Store, ช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

สั่งซื้อสินค้าได้ที่ [คลิก]

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button