เทคโนโลยี

[รีวิว] iPhone Air อว…บางและเบาของจริง

การทดลองครั้งใหม่ของ Apple ที่เกือบแล้ว

ท่ามกลางความร้อนแรงของ iPhone 17 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดันมีอยู่รุ่นหนึ่งที่เปิดตัวออกมาพร้อมกันแต่กระแสไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด ใช่แล้วเรากำลังพูดถึง iPhone Air รุ่นที่ทาง Apple พัฒนาออกมาโดยใช้งานแนวคิดที่บางและเบาจะนำพาทุกสิ่ง แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นดูจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น และแนวคิดดังกล่าวที่ต้องการทดลองสิ่งใหม่อาจไม่เป็นอย่างที่หวัง ในครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันว่าเจ้าเครื่องรุ่นนี้มีอะไรที่ทำได้ดีและเป็นจุดด้อยที่อาจเป็นการพับแผนในอนาคตของ iPhone Air กันบ้าง

Design

ความรู้สึกแรกของใครก็ตามที่ได้เห็นหรือได้จับตัวเครื่องของ iPhone Air คงหลอกกันไม่ได้ว่ามันมีความบางและเบามาก ด้วยความบางเพียง 5.6 มิลลิเมตร หนัก 165 กรัม เป็นตัวเลขที่บอกได้ว่าหาไม่ได้จากรุ่นอื่นในตระกูลที่ทาง Apple เปิดตัวออกมา

tig-iphone-air-review

แต่ … สิ่งที่เกิดคำถามขึ้นมาพร้อมกับความน่าประทับใจของสองเรื่องดังกล่าว นั่นคือทำไมแถบกล้องหลังต้องยื่นออกมามากขนาดนั้น ? ซึ่งคำถามก็มีคำตอบในตัวเพราะด้วยความบางของตัวเครื่องทำให้การออกแบบกล้องหลังต้องพัฒนาออกมาในลักษณะนี้นั่นเอง

tig-iphone-air-review

พอพูดถึงกล้องหลังนี่อาจเป็นอีกหนึ่งคำตอบว่าทำไมเจ้ารุ่นนี้ถึงไม่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานมากนัก เพราะว่ามาพร้อมกับกล้องเพียง 1 ตัวเท่านั้น ซึ่งในยุคนี้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเรือธง และมีการตั้งราคาในระดับ 40K ค่อนข้างที่จะไม่สมเหตุสมผลในการใส่กล้องความละเอียด 48MP มาให้เพียงตัวเดียว แถมไม่มี Ultrawide อีกด้วย

tig-iphone-air-review

ด้านหน้าเป็นกล้องความละเอียด 18MP อยู่ภายใน Dynamic Island ที่ยังคงมีให้ได้ใช้งานเพราะค่อนข้างสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้จริง

tig-iphone-air-review

อย่างไรก็ตามวัสดุที่ใช้งานภายในตัวเครื่องค่อนข้างที่จะเป็นจุดเด่น ยิ่งหากใครที่ตามข่าวในช่วงนี้จะเห็นว่าการใช้งาน Titanium ช่วยทำให้ผู้ใช้งานพอจะที่เชื่อมั่นได้ว่าตัวเครื่องจะเป็นรอยได้ยากกว่ารุ่นอื่น โดยเฉพาะรุ่น Pro ที่เป็นรอยได้ง่ายมาก

tig-iphone-air-review

ในแง่ของกระจกด้านหน้าและด้านหลังใช้งานเป็น Ceramic Shield แต่มีข้อแตกต่างเล็กน้อยสำหรับด้านหน้าที่ใช้งานเป็นรุ่นที่ 2 แต่ด้านหลังเป็นแบบเดิม อย่างไรก็ตามนั่นถือว่าเพียงพอในการทนต่อรอยได้แล้วเป็นอย่างดี

tig-iphone-air-review

พอร์ตและปุ่มการใช้งาน ด้านซ้ายของตัวเครื่องมาพร้อมกับปุ่ม Action ปุ่มเพิ่มลดเสียง ด้านขวาเป็นปุ่ม Power และปุ่ม Camera Control ส่วนด้านล่างเป็นพอร์ต USB-C

เผื่อใครที่ไม่ได้ตามข่าวอย่างใกล้ชิด iPhone Air รุ่นนี้มาพร้อมกับลำโพงเพียงตัวเดียวที่ด้านบนของตัวเครื่องเท่านั้น ฉะนั้นประสบการณ์ที่จะได้รับย่อมด้อยกว่าลำโพงคู่ที่เรามักจะได้เห็นมาโดยตลอด เช่นเดียวกับการใช้งานซิม ที่รองรับเป็นแบบ eSim เท่านั้น

Display

ยังคงเป็นสิ่งที่ Apple สามารถทำออกมาได้ดีในเรื่องของหน้าจอการแสดงผล โดยใน iPhone Air มาพร้อมกับการใช้งานหน้าจอ Super Retina XDR OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2736 x 1260 พิกเซล รองรัง ProMotion 120Hz

tig-iphone-air-review-6

อีกทั้งยังมีการเคลือบสารที่ป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือรวมถึงการสะท้อนของแสง ทำให้การใช้งานในพื้นที่กลางแจ้งทำออกมาได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมความสว่างสูงสุด 3,000 นิต และรองรับ HDR True Tone

tig-iphone-air-review-6

สิ่งที่ทำให้การใช้งานแล้วอาจจะส่งผลต่อประสบการณ์ไปบ้างคงเป็นเรื่องของ Dynamic Island ที่หากเราทำการรับชมแบบเต็มจอยังไงก็จะมีส่วนที่ขาดช่วงไปบริเวณด้านบนของหน้าจอ แต่นี่ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรมากนัก เนื่องจากหากเป็นสิ่งที่แย่จริงทาง Apple คงไม่สามารถลากยาวและใช้งานสิ่งนี้มาได้

tig-iphone-air-review-6

ในภาพรวมของหน้าจอแสดงผลยังเป็นสิ่งที่ได้รับความใส่ใจจาก Apple และมันแสดงออกมาให้ได้เห็นถึงความละเอียดและนวลของรายละเอียดที่เราได้รับจาก iPhone Air โดยเฉพาะหากใครที่จ้องจะจับผิดว่าคมชัดจริงหรือไม่ ก็อาจจะต้องผิดหวังกันไปเพราะรุ่นนี้ไม่ปล่อยให้พลาด

Performance

จะว่าเป็นจุดเด่นก็อาจจะใช่ แต่จะว่าเป็นจุดที่ทำได้ไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ก็คงไม่ผิด แม้ว่า iPhone Air จะมาพร้อมกับการใช้งานชิปเซ็ตเรือธงที่เด่นกว่ารุ่นเริ่มต้น ด้วยการใช้งาน Apple A19 Pro ที่ภายในประกอบไปด้วย 6-core CPU, 5-core GPU และ Neural Engine 16-core

เราจะไม่พูดถึงเรื่องการใช้งานทั่วไปอย่างเช่นการรับชมวิดีโอ หรือเล่นโซเชียล เพราะเป็นสิ่งที่เครื่องในราคาระดับนี้ไม่ต้องมาเป็นกังวลกัน และหากไม่หลอกกันจนเกินไป iPhone 13 ที่อยู่ในมือของใครบางคนในตอนนี้ยังสามารถที่จะตอบโจทย์เรื่องดังกล่าวได้ไปอีกยาว ฉะนั้นเรามาดูกันที่การทดสอบกันแทน


iPhone AiriPhone 16 PlusiPhone 16 Pro Max
AnTuTu217888316072531745668
GeekBench 6 (Single/Multi Core)3709/94563195/77153326/8047
3DMark Wild Life Extreme493739394464
3DMark Steel Nomad Light196517532004
3DMark Solar Bay779570907978

ไม่ใช่เรื่องที่ผิดไปจากที่คาดนักสำหรับการทดสอบผ่าน Benchmark ต่าง ๆ เราจะเห็นได้ชัดว่าคะแนนมีความแตกต่างกันอย่างพอสมควร โดยเฉพาะใน AnTuTu ที่คะแนนทะลุ 2 ล้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากเทียบกับ iPhone 16 Pro Max จะเห็นได้ชัดเจนว่า แม้ iPhone Air จะมาพร้อมกับความบางและเบา แต่ขุมพลังภายในอัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพที่ซ้อนอยู่

แต่ … ในระยะยาวเรื่องของขนาดเครื่องที่ทำมาเป็นจุดเด่น มันอาจกลายเป็นเครื่องอบไอร้อนก็เป็นได้หากคาดหวังที่จะนำมาใช้งานเพื่อเล่นเกมหนัก ๆ อยู่ตลอดเวลา

tig-iphone-air-review

การเล่นเกมเป็นสิ่งที่ต้องพูดถึงเช่นกัน แม้ว่ากลุ่มเป้าหมายของตัวเครื่องรุ่นนี้อาจไม่ใช่เกมเมอร์แต่เกินย่อมดีกว่าขาด เราทดสอบในเกมอย่าง Genshin Impact และ Black Desert Mobile ถามว่าทำไมต้องเป็น 2 เกมนี้ เนื่องจากเป็นเกมที่ใช้สเปกเครื่องค่อนข้างมากนั่นเอง

tig-iphone-air-review

ไม่แปลกใจนักหากจะต้องย้ำเรื่องเดิมอย่างความร้อนที่รู้สึกได้แม้จะเปิดเกมขึ้นมาได้ไม่ถึง 5 นาที โดยจะเริ่มร้อนจากบริเวณด้านบนของตัวเครื่อง ไล่ลงมาที่กล้อง บริเวณส่วนล่างของเครื่องจะไม่ค่อยมีความร้อนออกมาให้ได้รู้สึกเท่าไหร่นัก เว้นแต่เล่นต่อเนื่องเป็นเวลา 30 นาทีในเกมอย่าง Genshin Impact ที่เปิดกราฟิกสูงสุดและ 120 FPS

tig-iphone-air-review

อย่างไรก็ตามในเกมที่ไม่ได้ใช้กราฟิกสูงมากนักไม่พบอาการสะดุดให้ได้เห็นหรือแม้แต่อาการหน่วง แต่ในเกมที่ใช้สเปกเครื่องสูงจะพบว่าหากทำการเปิดกราฟิกในเกมสูงอาการเฟรมตกจะมาให้เห็นตั้งแต่ช่วง 10 นาทีแรกเช่นเดียวกัน

นอกเหนือจากเรื่องของชิปเซ็ต Apple A19 Pro ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับการใช้งานชิปรุ่นใหม่อยาง Apple C1X ที่เป็นรุ่นสานต่อจากบริษัท รวมไปถึงชิป Apple N1 ที่เพิ่มมาตรฐานการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ดียิ่งขึ้น แต่จากการทดสอบส่วนตัวแล้วพบว่าการรับสัญญาณอาจไม่ดีอย่างที่คาด

tig-iphone-air-review

เทียบการรับสัญญาณ Wi-Fi ที่มาจากชั้น 1 ขึ้นมาชั้น 2 พบว่า iPhone Air ราคาระดับ 40K รับสัญญาณได้แย่กว่า หุ่นสีเขียว ๆ ราคา 13K แบบไม่อยากจะเชื่อนัก ซึ่งในจุดนี้ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าเป็นที่ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ของเครื่องกันแน่

Software

ตัวเครื่องมาพร้อมกับการใช้งาน iOS 26 ที่มีการปรับปรุงชื่อเรียกให้เหมาะสมลดความสับสนของผู้ใช้งานว่าปัจจุบันเป็นซอฟต์แวร์ของปีไหน มาพร้อมกับธีม Liquid Glass ที่มีฟีเจอร์หลากหลายให้ได้ใช้งาน พร้อมยกเครื่องหน้าตาใหม่ ซึ่งสำหรับใครที่คิดถึงหน้าตาแบบเดิมคงต้องผิดหวังกันไปเนื่องจากกลับไปไม่ได้แล้ว

tig-iphone-air-review

การตั้งค่าหน้าจอสามารถทำได้อิสระลากและวางตำแหน่งของแอปพลิเคชันได้ง่ายกว่าเดิม รวมไปถึงการเรียกใช้งานฟีเจอร์ผ่านคำสั่งต่าง ๆ ทำได้ง่ายยิ่งขึ้น การแสดงผลการแจ้งเตือนยังทำได้ผ่านทาง Dynamic Island ได้ดีไม่มีเปลี่ยน

tig-iphone-air-review

Apple Intelligence, Apple Intelligence และ Apple Intelligence … ส่วนตัวคงต้องบอกว่าดูจะไม่มีการพัฒนาอะไรเพิ่มเติมไปจากเมื่อช่วงต้นปีที่เราได้ทำการทดสอบ iPhone 16e มากนัก การแก้ไขภาพลบวัตถุด้วย AI ยังคงไม่มีความก้าวหน้าแต่อย่างใด สิ่งที่ดีขึ้นมาคงเป็นเรื่องของการเข้าใจสิ่งที่เราถามผ่าน ระบบมากยิ่งขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วต้องบอกว่า เรื่องนี้ Apple ยังคงตามหลังเพื่อนบ้านพอสมควร

Camera

ทุกคนคาดหวังเรื่องของกล้องที่อยู่ภายใน iPhone Air กันแบบไหน ? เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ได้ต้องนำมาพูดถึงกันมากขนาดนั้น เชื่อกันจริงหรือไม่ว่ากล้องเพียง 1 ตัวจะสามารถรับจบได้ทุกอย่าง ใช่แล้วคุณคิดถูกแล้ว (ถ้าคิดแบบเดียวกันนะ) กล้องหลัง Fusion ความละเอียด 48MP f/1.6 พร้อมรองรับการซูมแบบดิจิทัลได้ 10 เท่า รองรับการถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K 60fps

tig-iphone-air-review

มาพร้อมกับฟีเจอร์การถ่ายภาพที่ไม่ได้ด้อยไปจากรุ่น Pro แต่สิ่งที่ขาดหายไปอย่าง Ultrawide ยังเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบว่าการตัดสิ่งนี้ไปเพื่อได้ความบางและเบา มันคุ้มค่าจริงหรือไม่

ขณะที่กล้องหน้าใช้งานเป็น 18MP Center Stage f/1.9 เช่นเดียวกับกล้องหลักสามารถใช้งานการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps เช่นเดียวกัน ฟีเจอร์การใช้งานรองรับการถ่ายด้วยกล้องหน้าและหลังพร้อมกันแล้วเป็นครั้งแรกที่ถูกนำมาเปิดตัวในเครื่องรุ่นปีนี้

ระบบกันสั่นที่ให้มาอยู่ในระดับที่สามารถใช้งานได้จริง แม้จะไม่ได้เทียบเท่ากับมาตรฐานของ Action Camera แต่สามารถใช้งานทดแทนได้ดี

Battery

หลายคนที่ได้เห็นการเปิดตัวของ iPhone Air ช่วงแรกคงคิดว่าแบตเตอรี่จะกลายมาเป็นปัญหาของตัวเครื่อง ซึ่งหลังจากที่ได้ทดสอบแล้วต้องบอกว่านี่เป็นเรื่องที่คิดผิด เพราะแม้จะมาพร้อมกับความจุ 3149mAh แต่ความอึดของการใช้งานไม่ได้แตกต่างจากรุ่นอื่นเลย ตามตัวเลขที่ทาง Apple แจ้งว่าสามารถรับชมวิดีโอต่อเนื่องได้ 27 ชั่วโมง ไม่เกินจริงแต่อย่างใด

tig-iphone-air-review

ในแง่ของการชาร์จเร็วสามารถทำได้ 50% ภายใน 30 นาที เป็นสิ่งที่ดีในแง่ของการเป็นสินค้าจากทาง Apple โดยไม่ต้องนำไปเทียบกับรุ่นอื่น และหากมองในแง่ดีถือว่าเป็นการถนอมแบตเตอรี่ไปในตัว ภาพรวมการใช้งานตัวเครื่องสามารถใช้ได้ตลอดทั้งวันไม่ได้มีปัญหาแบตหมดไวมากวนใจ

Conclusion

tig-iphone-air-review

หากจะให้นิยามว่า iPhone Air เหมาะสมกับใคร ต้องบอกว่าเหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานเครื่องที่มีความบางและเบาเป็นที่สุด สิ่งที่ทำได้ดีคือเรื่องของวัสดุและความทนทานในระดับ IP68 พกพาได้สะดวกโดยที่อาจจะลืมกระแสการพับได้ที่กำลังมาในช่วงนี้ได้ทันที สเปกภายในในแง่ของการประมวลผลไม่มีข้อกังขา สิ่งที่ขาดไปคือกล้องและลำโพงที่หากเป็นสายเพื่อความบันเทิงอาจต้องมองหาทางเลือกใหม่แทน ด้วยราคาเริ่มต้น 39,990 บาท เป็นตัวเลขที่แอบสูงแต่พอเป็น Apple นับว่าเข้าใจได้

ข้อดี

  • วัสดุที่ใช้งานมีความทนทานกว่ารุ่นอื่นด้วย Titanium
  • ความบางและเบาที่หาตัวจับได้ยาก
  • หน้าจอ Super Retina XDR OLED พร้อมเคลือบสารกันสะท้อนแสง
  • ชิปเซ็ต Apple A19 Pro
  • แบตเตอรี่อยู่ได้นานโดยเครื่องไม่หนา

ข้อสังเกต

  • กล้องหลักเพียงตัวเดียวไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
  • ความร้อนสะสมของตัวเครื่องเมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button