Sony Interactive Entertainment กลายเป็นจุดสนใจทันทีหลังมีการเปิดเผยสิทธิบัตรชื่อ Automatic Bespoke Edits of Video Content Using AI (หมายเลข US20250372124) ที่เพิ่งถูกเผยแพร่ในเดือนธันวาคม 2025 นี้ โดยเนื้อหาหลักคือการใช้ AI เข้าไปตัดต่อหรือเซ็นเซอร์เนื้อหาในเกมและวิดีโอแบบสดๆ ขณะที่ผู้เล่นกำลังใช้งานอยู่ เพื่อปรับเปลี่ยนภาพหรือเสียงที่ระบบมองว่าไม่เหมาะสมให้กลายเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานในขณะนั้น
ความล้ำที่ชวนขนลุกคือ ระบบนี้ไม่ได้ทำงานแค่ตามอายุในโปรไฟล์เท่านั้น แต่สิทธิบัตรระบุว่าสามารถใช้ กล้องและไมโครโฟน เพื่อสแกนสภาพแวดล้อมจริงในห้องได้ด้วย เช่น ถ้า AI ตรวจพบว่ามีเด็กเดินเข้ามาในห้อง หรือจดจำใบหน้าได้ว่าคนข้างๆ ไม่ควรเห็นภาพรุนแรง ระบบจะทำการ เบลอภาพ (Blur), ตัดเสียง (Mute) หรือแม้แต่ใช้ Deepfake สร้างภาพใหม่ขึ้นมาทับซ้อนฉากนองเลือดหรือฉากนู้ดได้แบบเรียลไทม์ทันที
แม้สิทธิบัตรนี้จะยื่นโดย Sony แต่ขอบเขตของเทคโนโลยีนี้ครอบคลุมจักรวาลความบันเทิงกว้างมาก เพราะระบุว่าสามารถนำไปใช้ได้กับทั้งเครื่องเล่นคอมพิวเตอร์ทั่วไป คอนโซลของคู่แข่งอย่าง Microsoft และ Nintendo ไปจนถึงสื่ออย่างภาพยนตร์และวิดีโอออนไลน์ นั่นหมายความว่าในอนาคต เราอาจจะเห็นหนังที่มีความรุนแรงถูกลดระดับลงโดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมที่เครื่องเล่นตรวจจับได้
ปฏิกิริยาจากโลกโซเชียล โดยเฉพาะใน Reddit และชุมชนเกมเมอร์ต่างประเทศเดือดระอุสุดๆ หลายคนเปรียบเทียบว่านี่คือจุดเริ่มต้นของโลกดิสโทเปียแบบในเกม Cyberpunk 2077 ที่สายตาของเราถูกควบคุมโดยซอฟต์แวร์ บางส่วนกังวลว่ามันจะทำลายสุนทรียภาพของงานศิลปะ เพราะผู้พัฒนาเกมตั้งใจให้คนเห็นฉากนั้นๆ แต่ AI กลับตัดสินใจเปลี่ยนมันเพียงเพราะมีคนอื่นเดินผ่านกล้อง
อีกหนึ่งประเด็นที่น่ากลัวคือความกังวลเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวและการถูกควบคุมโดยรัฐบาล หลายฝ่ายชี้ว่าแม้ Sony จะบอกว่านี่คือเครื่องมือสำหรับผู้ปกครอง แต่หากเทคโนโลยีนี้ถูกบังคับใช้ในระดับโครงสร้าง มันอาจกลายเป็นเครื่องมือชั้นดีของรัฐเผด็จการในการเซ็นเซอร์ข้อมูลหรือดัดแปลงความจริงที่ประชาชนเห็นผ่านหน้าจออุปกรณ์อัจฉริยะได้โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการจดสิทธิบัตรไม่ได้หมายความว่าจะมีการนำมาใช้จริงเสมอไป และ Sony เองก็มักจะจดไอเดียแปลกๆ ไว้ก่อนเป็นปกติ (เช่น สิทธิบัตรสั่งให้ตะโกนชื่อแบรนด์เพื่อข้ามโฆษณา) แต่ในยุคที่ AI กำลังแทรกซึมไปทุกที่แบบในปี 2025 นี้ ข่าวนี้จึงเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจว่าเส้นกั้นระหว่างความปลอดภัยกับการควบคุมนั้นเริ่มบางลงเรื่อยๆ แล้ว
