Samsung กำลังหวนคืนสู่ความจริงจังกับชิป Exynos อีกครั้ง โดยเฉพาะรุ่น Exynos 2600 ที่คาดว่าจะเป็นหัวใจหลักของสมาร์ทโฟน Galaxy S26 ในปี 2026 ซึ่งอาจเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ซีรีส์เรือธงใช้ชิปตัวเดียวกันทั่วโลก โดยไม่แยกเวอร์ชัน Snapdragon ในบางตลาด ตามรายงานล่าสุดจาก GSMArena และ 9to5Google
ระหว่างการประชุมสรุปผลประกอบการไตรมาสสามปี 2025 Samsung กล่าวถึงแผนของแผนก System LSI Business ว่าจะเสริมความแข็งแกร่งให้ชิป Exynos สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง และใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์ภาพที่แตกต่างเพื่อขยายตลาด แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อรุ่นตรง ๆ แต่ชัดเจนว่าหมายถึง Exynos 2600 ที่กำลังพัฒนาเต็มตัว โดย Daniel Araujo รองประธานฝ่ายมือถือ ยืนยันถึงชิปในบ้านรุ่นใหม่สำหรับ Galaxy S26
รายงานจาก Tech Advisor และ SamMobile ระบุว่า Galaxy S26, S26+ และ S26 Ultra จะใช้ Exynos 2600 ทั้งหมดในบางภูมิภาค โดย Samsung วางแผนแบ่ง 50/50 ระหว่าง Exynos 2600 กับ Snapdragon 8 Elite Gen 5 แต่บางแหล่งชี้ว่าอาจใช้ Exynos ทั่วโลก ยกเว้นสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น เพื่อให้ผ่านการรับรองท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นับตั้งแต่ Galaxy S22 Ultra ที่ใช้ Snapdragon เป็นหลักในตลาดสหรัฐฯ
ข้อมูลเผยว่า Exynos 2600 ผลิตด้วยเทคโนโลยี 2nm ให้พลัง CPU แรงกว่า Apple A19 Pro และ GPU เร็วขึ้น 75% ขณะที่เร็วกว่า Snapdragon 8 Elite Gen 5 ราว 30% ในทั้ง GPU และ NPU ตามการทดสอบเบื้องต้นบน Geekbench ที่ทำคะแนน single-core 3,455 และ multi-core 11,621 แสดงถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพที่ก้าวกระโดด
นอกจากเน้นประสิทธิภาพ Samsung ยังตั้งเป้าสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ Exynos เป็นแบรนด์ชิปที่น่าภาคภูมิใจ คล้าย A-series ของ Apple หรือ Tensor ของ Google โดยการนำ Exynos 2600 ขึ้นแท่นชิปเรือธงใน Galaxy S26 ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับ System LSI Business ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด
หากแผนเป็นไปตามคาด Galaxy S26 จะเปิดตัวราวมกราคมหรือกุมภาพันธ์ 2026 ทำให้ Samsung ควบคุมประสบการณ์เรือธงทั้งหมดได้ ตั้งแต่ชิป จอ กล้อง และ AI รุ่นใหม่ที่ปฏิวัติการใช้งาน โดยทั้งหมดผลิตในบ้านอย่างแท้จริง ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสม่ำเสมอให้ผู้ใช้ทั่วโลก
