เทคโนโลยี

[รีวิว] Razer Basilisk V3

เมาส์เกมมิ่งรุ่นสานต่อพร้อมการตีบวกในเรื่องของแสงไฟ RGB

หากเอ่ยถึงชื่อของเมาส์เกมมิ่งสักรุ่นหนึ่งขึ้นมา Razer Basilisk น่าจะเป็นหนึ่งในชื่อที่ถูกพูดถึง และสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของเมาส์รุ่นนี้คงเป็นเรื่องของรุ่นใหม่ที่เปิดตัวให้เราได้เห็นกันเกือบทุกปี และล่าสุดก็เข้าสู่รุ่นที่ 3 กันแล้วกับ Razer Basilisk V3 ว่าแต่รุ่นนี้จะมีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้างเราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย

image 632
image 633

Razer Basilisk V3 มีหน้าตาและสัมผัสที่ดูไม่ต่างจาก Razer Basilisk V2 เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นอาจจะถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ตัวเมาส์ยังคงยืนยันสิ่งที่ตัวเองเป็นอย่างเช่นการเป็นเมาส์สำหรับการใช้งานเพื่อคนที่ถนัดขวาเท่านั้น ผิวสัมผัส พื้นที่ต่าง ๆ ยังคงมีความโดดเด่นและคงไว้จากรุ่นก่อน

image 634
image 635

จุดเด่นของเมาส์ตระกูลนี้ที่ทำได้ดีมาโดยตลอดคือเรื่องของการจับที่ถนัดมือ ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงตำแหน่งการวางของมือผู้ใช้งาน ส่งผลให้แม้เราจะใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานก็จะไม่รู้สึกถึงความไม่สบายในการจับ ซึ่งนี่อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลของความนิยมในเมาส์ตระกูล Basilisk ด้วยเช่นกัน

image 636
image 637

อย่างไรก็ตามด้วยความที่ตัวเมาส์แม้จะจับได้ถนัดมือ แต่ในทางกลับกันสำหรับใครที่ชื่นชอบเมาส์ที่มาพร้อมกับความเบาในตัว Razer Basilisk V3 อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ แม้ว่าน้ำหนักของเมาส์จะอยู่มีเพียงแค่ 101 กรัม แต่หากเทียบกับรุ่นก่อนที่มีน้ำหนัก 92 กรัม จะพบว่ามีการปรับเพิ่มของน้ำหนักขึ้นมา

image 638
image 639

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ยังคงมีให้เห็นกันในรุ่นนี้คือด้านใต้ของตัวเมาส์จะมีตัวรองรับผิวสัมผัสด้วยวัสดุแบบ PTFE 100 เปอร์เซ็นต์ ช่วยให้การลากหรือสะบัดเมาส์ถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น หมดปัญหาใช้ไปสักพักแล้วมีอาการสะดุดหรือหน่วง

image 640
image 641

ถ้าจะให้หาสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากดีไซน์ของตัวเมาส์เราอาจจะหาไม่เจอ แต่ถ้าพูดถึงการแสดงผลของแสงไฟ RGB นี่เองคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป โดยภายใน Razer Basilisk V3 จะมีพื้นสำหรับการแสดงผล Razer Chroma RGB ถึง 11 โซนด้วยกัน

image 642
image 643
image 644

ซึ่งการแสดงผลของสีของตัวเมาส์ที่ต้องชื่นชมคือรูปแบบการแสดงผลที่ทำออกมาได้ค่อนข้างที่จะดี และมีความชัดเจนในการแสดงผลอย่างมาก อีกทั้งเราสามารถที่จะปรับแต่งการแสดงผลไฟผ่านซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า Razer Synapse

image 645
image 646

อีกหนึ่งสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงไปคือปุ่มด้านข้างที่ใน Razer Basilisk V3 จะมีการปรับขนาดลงมาให้เล็กและสั้นลง อีกทั้งตอนนี้จะไม่สามารถดึงปุ่มดังกล่าวออกมาได้เหมือนกับรุ่นก่อนอีกแล้ว 

image 647

หากถามว่าเจ้าปุ่มด้านข้างตัวนี้ที่ถูกใส่เข้ามาในเมาส์ตระกูล Basilisk มันมีข้อดียังไง แน่นอนว่ามันถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานเวลาที่เราเล่นเกมได้ค่อนข้างดี คิดสภาพเวลาที่เรากำลังเล็งเป้าไปที่ศัตรูอยู่จากระยะไกล การกดปุ่มตัวนี้จะช่วยทำให้เมาส์เราลดอาการสะบัดที่จะเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจได้

image 648
image 649

แน่นอนว่าปุ่มต่าง ๆ เราสามารถที่จะปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานได้ภายในซอฟต์แวร์ อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าโปรไฟล์ที่ต้องการจะใช้งานในแต่ละเกมได้อีกด้วย

นอกจากนี้ภายใน Razer Basilisk V3 ยังคงมาพร้อมกับโหมดที่ทำให้เราสามารถปรับแต่งรูปแบบการทำงานของลูกกลิ้งที่เรียกว่า HyperScroll ซึ่งเราสามารถที่จะเปลี่ยนโหมดการทำงานระหว่าง Tactile ที่จะให้ความรู้สึกทุกครั้งที่มีการใช้งาน และแบบ Free-Spin ที่จะการใช้งานแบบไม่มีอะไรมาขัดสามารถที่จะเลื่อนได้อย่างลื่นไหล โดยเราสามารถที่จะเปลี่ยนโหมดการทำงานได้ผ่านปุ่มด้านล่างของ Scroll Wheel เลย

image 650

ขณะเดียวกันยังมีฟีเจอร์ Smart Reel ที่เราสามารถเปิดใช้งานได้ ซึ่งเจ้าสิ่งนี้จะช่วยทำให้เราไม่ต้องมากดเปลี่ยนสลับระหว่าง Tactile และ Free-Spin หลักการทำงานหากเรามีการเลื่อนลูกกลิ้งด้วยความเร็วที่มากกว่า Smart Reel จะสั่งให้เมาส์เปลี่ยนรูปแบบการทำงานไปใช้ Free-Spin แทน และเมื่อกลับสู่การใช้งานแบบปกติจะกลับมาที่โหมด Tactile

จากการลองใช้งานพบว่าการทำงานในโหมด Free-Spin หากใครที่ไม่คุ้นชินจะพบว่ามันให้ความรู้สึกเหมือนกับเมาส์เวลาที่ตัวล็อคเสีย คือใช้งานได้แต่ความรู้สึกมันดูจะไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่นัก ส่วนโหมด Tactle น่าจะถูกกับพฤติกรรมการใช้งานมากกว่า

image 651

ขณะเดียวกันตัว Scroll Wheel ยังสามารถที่จะใช้งานได้อีก 2 ทิศทางนอกจากขึ้นและลง ยังไปทางซ้ายและขวาได้ด้วย

สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างคือเรื่องของค่า DPI ที่ถูกปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม 20000 DPI กลายมาเป็น 26000 DPI อย่างไรก็ตามค่า IPS ยังอยู่ที่ 650 เช่นเดิม ขณะเดียวกันยังมาพร้อมกับการใช้งาน Razer Optical Mouse Switch รุ่นที่ 2 ที่มีค่าตอบสนองที่เร็วขึ้นกว่าเดิม พร้อมรองรับการใช้งานกดกว่า 70 ล้านครั้ง

image 652

สำหรับสายที่ใช้งานจะเป็นแบบสายถักที่ทำให้เวลาใช้งานไม่ติดกับพื้นที่ เก็บรักษาได้ง่ายโดยไม่มีอาการติดขัดให้เห็น เช่นเดียวกับพอร์ตการเชื่อมต่อที่ใช้งาน

image 653

ในส่วนของการปรับแต่งตัวเมาส์ให้เหมาะกับการใช้งานภายในเกม Razer Basilisk V3 ได้มีการปรับปรุงการทำงานของแต่ละปุ่มให้เข้ากับการใช้งานไม่ว่าจะเป็น CS:GO, VALORANT, APEX LEGENDS, R6, DOTA 2 และ LoL อีกทั้งยังมีการปรับปรุงให้ใช้งานกับ Excel ได้อีกด้วย เรียกว่ามอบทั้งประสบการณ์เล่นเกมและทำงานได้ในเวลาเดียวกัน

image 654

บทสรุปสำหรับ Razer Basilisk V3 คงต้องบอกว่าหากใครที่กำลังมองหาเมาส์สำหรับการเล่นเกมที่ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีไม่ควรมองข้าม ใครที่คุ้นเคยกับ Basilisk อยู่ก่อนแล้วสามารถที่จะเปลี่ยนมาใช้รุ่นล่าสุดเพื่อที่จะรับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน สำหรับราคาน่าสนใจไม่น้อยเพราะมีการปรับตัวลงมาเล็กน้อยเหลือเพียงแค่ 2,690 บาท เท่านั้น

ข้อดี

– ยังคงดีไซน์ที่เหมาะกับการใช้งาน จับได้ถนัดมือ

– ระบบ HyperScroll ลูกเล่นที่ช่วยเพิ่มให้การใช้งานไม่น่าเบื่อ

– Scroll Wheel ที่สามารถใช้งานได้ 4 ทิศทาง

– รูปแบบการแสดงผลไฟ RGB แบบใหม่

– ราคาที่ปรับลงมาจากเดิม

ข้อสังเกต

– ฟีเจอร์ Smart Reel ดูจะมีการตัดสินใจทำงานที่ยังไม่แม่นยำ

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ Razer แห่งประเทศไทยที่ได้ส่งอุปกรณ์ในครั้งนี้มาให้พวกเราได้ใช้งานกันหากใครที่สนใจ Razer Basilisk V3 สามารถหาซื้อได้แล้วในตอนนี้ทั้งช่องทางออนไลน์และตามร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

รายละเอียดเพิ่มและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : [คลิก]

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button