ตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัว เราต่างใช้มันเป็นทั้งเครื่องมือเขียนบทความ เครื่องแปลภาษา หรือแม้กระทั่งเพื่อนคุย สิ่งนี้เปลี่ยนวิธีการสื่อสารของเราทั้งกับคนและกับเทคโนโลยีเอง ล่าสุดงานวิจัยใหม่ชี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ AI ได้เปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เราคือฝ่ายเริ่มพูดและเขียนเหมือน AI ไม่ใช่แค่ AI ที่เลียนแบบเรา
นักวิจัยจากสถาบัน Max Planck Institute for Human Development ในเยอรมนี พบว่าภายใน 18 เดือนหลัง ChatGPT เปิดตัวคำเฉพาะของ GPT เช่น delve, realm และ meticulous มีการใช้งานมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในงานเขียนและบทพูดของมนุษย์ พวกเขาเรียกคำเหล่านี้ว่า GPT words และพบว่าปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจริงในทั้งบทความวิชาการ อีเมล และแม้แต่คลิป YouTube
ในการทดลอง ทีมวิจัยให้ ChatGPT ช่วยปรับแต่งข้อความจากแหล่งต่าง ๆ แล้ววิเคราะห์ว่า AI มีคำไหนที่ชอบใช้ซ้ำ ๆ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ จากนั้นจึงตรวจสอบความถี่ของการใช้คำเหล่านี้ในเนื้อหาของมนุษย์ก่อนและหลังการเปิดตัว ChatGPT ผลลัพธ์คือมนุษย์เริ่มใช้คำเหล่านี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
Levin Brinkmann หนึ่งในผู้เขียนงานวิจัยกล่าวว่ารูปแบบที่อยู่ในเทคโนโลยี AI กำลังไหลย้อนกลับเข้าสู่จิตใจของมนุษย์เขาเสริมว่า มนุษย์โดยธรรมชาติชอบเลียนแบบกันเอง โดยเฉพาะจากคนที่เรามองว่ามีความรู้หรือสำคัญ และตอนนี้ AI อาจกลายเป็นหนึ่งในแหล่งแรงบันดาลใจทางภาษาของมนุษย์ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมีข้อจำกัด เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลจากโมเดล GPT บางเวอร์ชันเท่านั้น ซึ่ง OpenAI จะยังคงพัฒนา AI ต่อไป และอาจสร้างรูปแบบการใช้ภาษาใหม่ ๆ ที่แตกต่างออกไป นอกจากนี้ ข้อมูลที่ใช้ส่วนใหญ่มาจากแหล่งที่ค่อนข้างเป็นทางการ เช่น บทความวิชาการ อาจไม่สะท้อนภาษาปากที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้เต็มที่
แต่แนวคิดนี้ก็ชวนให้คิดว่า AI ไม่ได้แค่ตอบคำถามหรือช่วยเขียนรายงาน แต่กำลังเปลี่ยนวิธีที่เราสื่อสารกัน และหากไม่ระวัง เราอาจเผลอปล่อยให้ AI กำหนดรสนิยมทางภาษาโดยที่เราไม่รู้ตัว
นักวิจัยหลายคนเตือนว่าเราควรจับตาผลกระทบของ AI ต่อวัฒนธรรมและการสื่อสาร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อการสื่อสารของมนุษย์ในระยะยาว ทั้งในแวดวงวิชาการ การศึกษา และแม้กระทั่งบทสนทนาในชีวิตประจำวัน
