
วงการพีซีกำลังร้อนระอุด้วยข่าวลือสุดชวนงงว่า Nvidia อาจยกเลิกซีรีส์ GeForce RTX 50 Super ทั้งหมด เนื่องจากปัญหาขาดแคลนหน่วยความจำ GDDR7 ซึ่งฟังดูทั้งน่าตกใจและไม่น่าเชื่อไปในตัว โดยรายงานจากแหล่งข่าวฮาร์ดแวร์ชื่อดังอย่าง BenchLife.info และ Videocardz ชี้ว่าปัญหานี้เกิดจากความต้องการชิปหน่วยความจำสำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI ที่พุ่งสูง จนทำให้การผลิต GDDR7 สำหรับการ์ดจอผู้บริโภคติดขัดไปหมด
สาเหตุหลักมาจากการผลิต DDR5 และ LPDDR5X ที่ถูกเร่งเพื่อรองรับกระแส AI ทำให้โรงงานของ Samsung Micron และ SK Hynix ต้องแบ่งกำลังการผลิตไปทางนั้น แม้ Samsung จะเริ่มผลิต GDDR7 ขนาด 3GB ในระดับแมสมวลแล้ว แต่ผู้ผลิตอื่นยังจำกัดที่ 2GB เท่านั้น ส่งผลให้ต้นทุนโมดูล GDDR7 พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะรุ่น 3GB ที่ RTX 50 Super ต้องการเพื่ออัปเกรดประสิทธิภาพจากรุ่นปกติ
หากข่าวลือนี้เป็นจริง Nvidia อาจต้องพิจารณาเลื่อนกำหนดการเปิดตัวที่เดิมวางไว้ช่วงต้นปี 2026 หรือเลวร้ายกว่านั้นคือยกเลิกทั้งซีรีส์ ซึ่งรวมถึงรุ่นอย่าง RTX 5080 Super และ 5070 Super ที่คาดว่าจะประกาศในงาน CES 2026 แต่จากประวัติศาสตร์ของ Nvidia ที่เคยเจอปัญหาสต็อกขาดใน RTX 40 Series แล้วยังขายทะลักได้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าการยกเลิกทั้งหมดไม่น่าเกิดขึ้นง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้อาจนำไปสู่ผลกระทบอื่น เช่น ราคาการ์ดจอ RTX 50 Series ปัจจุบันที่เพิ่งเปิดตัวไปอาจปรับขึ้นอีก โดย Tom’s Hardware สันนิษฐานว่าต้นทุน GDDR7 ที่สูงจะทำให้ราคา MSRP ของ Super Series เพิ่ม 30-50 ดอลลาร์ หากยังเดินหน้าผลิตต่อ ซึ่งจะยิ่งทำให้ตลาด GPU สีเขียวแพงขึ้นไปอีกท่ามกลางความต้องการจากเกมเมอร์และครีเอเตอร์
Nvidia ยังคงเงียบสนิทต่อข่าวลือนี้ ขณะที่ในชุมชน Reddit และ ResetEra ต่างถกเถียงกันว่าปัญหา GDDR7 จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนวงการหรือแค่ดราม่าชั่วคราว โดยบางคนมองว่าบริษัทอาจหันไปใช้ GDDR6X แบบเก่าแทน เพื่อเร่งสต็อกให้ทัน แต่สิ่งที่แน่นอนคือการขาดแคลนหน่วยความจำจาก AI กำลังกระทบห่วงโซ่อุปทาน GPU ทั่วโลก
สรุปแล้ว แม้การยกเลิก RTX 50 Super จะดูไกลตัว แต่เราน่าจะเห็นการปรับแผนจาก Nvidia ในไม่ช้า ไม่ว่าจะเลื่อนเปิดตัวหรือขึ้นราคาเพื่อชดเชยต้นทุน สุดท้ายแล้ว ในโลกพีซีที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ไว สิ่งเดียวที่ชัวร์สุดคือการ์ดจอระดับไฮเอนด์จาก Team Green จะแพงต่อไปอีกนาน







