Intel และ Nvidia ร่วมพัฒนางานกันมากว่า 1 ปี

Intel และ Nvidia ได้ร่วมกันพัฒนาโปรเซสเซอร์สำหรับผลิตภัณฑ์ client และ data center มาเป็นเวลาประมาณ 1 ปี โดยมุ่งเน้นไปที่ Intel x86 RTX SoCs และโปรเซสเซอร์ Nvidia x86 ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับศูนย์ข้อมูล ความร่วมมือนี้เริ่มต้นจากข้อตกลงเบื้องต้นระหว่าง Pat Gelsinger อดีต CEO ของ Intel และ Jensen Huang CEO ของ Nvidia โดยทั้งสองบริษัทมองเห็นโอกาสมหาศาลในโปรเซสเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยี NVLink เป็นอินเทอร์เฟซ I/O การพัฒนานี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นสมัยประธานาธิบดี Joe Biden หรือ Donald Trump

ปัจจุบันมีสามทีมที่ทำงานร่วมกันในโครงการนี้ ประกอบด้วยทีมด้านสถาปัตยกรรม CPU และทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับเซิร์ฟเวอร์และพีซี Jensen Huang กล่าวว่า “ทั้งสองทีมด้านเทคโนโลยีได้หารือและออกแบบโซลูชันร่วมกันมาเกือบหนึ่งปีแล้ว ทีมงานทั้งสามด้านกำลังพัฒนาสถาปัตยกรรม CPU และผลิตภัณฑ์สำหรับเซิร์ฟเวอร์และพีซี ซึ่งเป็นงานที่ค่อนข้างยาก และทีมงานรู้สึกตื่นเต้นกับสถาปัตยกรรมใหม่นี้” การพัฒนานี้แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งของความร่วมมือ โดย Intel ได้ปรับแต่งโปรเซสเซอร์ Xeon ให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์ม AI ของ Nvidia

ในส่วนของศูนย์ข้อมูล Nvidia มุ่งเน้นการปรับแต่งโปรเซสเซอร์ Intel Xeon เพื่อตอบสนองความต้องการของแพลตฟอร์ม AI รุ่นถัดไป เช่น Rubin และ Feynman โดยคาดว่าจะมีการปรับโครงสร้างแคช หน่วยความจำ I/O และโปรโตคอลความสอดคล้องให้เหมาะสม การทำงานร่วมกันนี้บ่งชี้ว่าโปรเซสเซอร์ Intel แบบกำหนดเองจะถูกใช้ในแพลตฟอร์มของ Nvidia ในยุค post-Vera Rubin ซึ่งอาจรวมถึงการออกแบบระบบระดับ data center และ client CPU

สำหรับโครงการ client Intel และ Nvidia กำลังพัฒนา CPU ที่รวม GPU chiplet ของ Nvidia ซึ่งต้องใช้เวลา 3-4 ปีตั้งแต่การออกแบบจนถึงการผลิตในปริมาณมาก โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์แรกจะวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2027 หรือต้นปี 2028

Jensen Huang ระบุถึงเป้าหมายของความร่วมมือว่า “ตลาดโน้ตบุ๊กเพียงอย่างเดียวมีการจำหน่าย 150 ล้านเครื่องต่อปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงขนาดของงานที่เราจะทำ เราจะมุ่งเน้นไปที่ตลาดผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดโน้ตบุ๊กพีซีส่วนใหญ่” ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่โน้ตบุ๊กไปจนถึงศูนย์ข้อมูล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพีซีในวงกว้าง

ความร่วมมือระหว่าง Intel และ Nvidia ถือเป็นก้าวสำคัญในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะในยุคที่ AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูงกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การพัฒนาโปรเซสเซอร์ที่ออกแบบร่วมกันนี้ไม่เพียงแต่เสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งสองบริษัท แต่ยังอาจเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของตลาดพีซีและศูนย์ข้อมูลในอนาคต