Microsoft กระตุ้นให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเกรดเป็น Windows 11 ก่อนสิ้นสุดการสนับสนุน
ขึ้นแจ้งเตือนให้ทำการซื้อเครื่องใหม่แทน

Microsoft กำลังเร่งรัดให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเกรดเป็น Windows 11 ด้วยการส่งการแจ้งเตือนแบบเต็มหน้าจอที่บ่อยขึ้นและดุดันมากขึ้น โดยเน้นย้ำถึงประโยชน์ของ Windows 11 และความจำเป็นในการอัปเกรดเพื่อรับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
การแจ้งเตือนเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การขายพีซีเครื่องใหม่ มากกว่าการอัปเกรดระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์ที่มีอยู่ เนื่องจาก Windows 11 มีข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ที่เข้มงวดกว่า ทำให้พีซีหลายเครื่องไม่สามารถอัปเกรดได้ Microsoft จึงพยายามผลักดันให้ผู้ใช้ซื้ออุปกรณ์ใหม่เพื่อสัมผัสกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Windows 11
แม้ว่า Microsoft จะเสนอการอัปเดตความปลอดภัยแบบขยายเวลาสำหรับ Windows 10 แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และการสนับสนุนก็จะไม่ครอบคลุมเท่ากับระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่จำเป็นต้องพิจารณาอัปเกรดเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
:format(webp)/cdn.vox-cdn.com/uploads/chorus_asset/file/25745083/copilotplusprompt.jpeg)
อย่างไรก็ตาม การกระทำของ Microsoft สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้ เนื่องจากบริษัทยังคงพัฒนาและอัปเดต Windows 10 อยู่ ซึ่งขัดแย้งกับข้อความที่ว่า Windows 10 จะสิ้นสุดการสนับสนุนในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ การกำหนดข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ที่เข้มงวดสำหรับ Windows 11 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากไม่สามารถอัปเกรดได้ตามที่ต้องการ
การตัดสินใจของ Microsoft สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการผลักดันยอดขายฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้บางส่วนที่ยังคงต้องการใช้งาน Windows 10 ต่อไป
ผู้ใช้ Windows 10 ควรพิจารณาข้อดีข้อเสียของการอัปเกรดอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจว่าจะอัปเกรดเป็น Windows 11 หรือเลือกที่จะใช้ Windows 10 ต่อไปพร้อมกับการอัปเดตความปลอดภัยแบบขยายเวลา