Microsoft เผยผู้ใช้งาน Windows 10 กำลังเปลี่ยนมาใช้ Windows 11 มากขึ้น
ยังคงเปิดให้สามารถอัปเกรดได้ฟรี

Microsoft กำลังเร่งให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนจาก Windows 10 มาเป็น Windows 11 มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อการสนับสนุน Windows 10 จะสิ้นสุดในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ซึ่งหมายความว่าหลังจากวันนั้น เครื่องที่ยังใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเก่ายังคงใช้งานได้ตามปกติ แต่จะไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยอีกต่อไป และอาจกลายเป็นช่องโหว่เสี่ยงภัยไซเบอร์ในอนาคต
ในช่วงการประชุมผลประกอบการไตรมาสที่สามของ Microsoft ในปีงบประมาณ 2025 Satya Nadella ซีอีโอของบริษัทได้กล่าวถึงสถานการณ์การเปลี่ยนผ่านระบบปฏิบัติการครั้งสำคัญ โดยระบุว่า Windows 11 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 75% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
คำว่า commercial deployment ที่ Nadella ใช้นั้น หมายถึงจำนวนเครื่องที่ถูกขายและเริ่มใช้งานจริง แปลว่าองค์กรต่าง ๆ และผู้ใช้งานทั่วไปกำลังหันมาใช้ Windows 11 กันมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าการเปลี่ยนผ่านนี้จะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ เพราะหลายคนยังรู้สึกว่า Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้งานได้ดีพอแล้วและไม่รู้สึกจำเป็นต้องเปลี่ยน
ข้อมูลจากแบบสำรวจเมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่า ในเดือนเมษายน 2024 ผู้ใช้ Windows 10 ยังคงเป็นส่วนใหญ่ คิดเป็นประมาณ 70% ของผู้ใช้ Windows ทั้งหมด แต่ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างรวดเร็วภายในปีนี้ จนตอนนี้เหลือเพียง 54% เท่านั้น

ในทางตรงกันข้าม สัดส่วนผู้ใช้ Windows 11 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ Microsoft ทยอยปล่อยออกมา เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพ UI ที่เรียบง่ายขึ้น และความสามารถในการรองรับ AI Tools ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
แม้ Microsoft จะพยายามผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 แต่หลายคนยังลังเล เพราะมีเงื่อนไขด้านฮาร์ดแวร์ที่เข้มงวดกว่า Windows 10 อย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของ RAM และโปรเซสเซอร์ ที่ทำให้เครื่องหลายเครื่องที่ยังใช้ได้ดีบน Windows 10 ไม่สามารถอัปเกรดขึ้น Windows 11 ได้โดยตรง
นอกจากนี้ บางคนยังรู้สึกว่า Windows 11 ยังไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนเพียงพอให้ต้องเปลี่ยนระบบ แม้จะมีการปรับปรุงหลายรอบแล้วก็ตาม
สำหรับใครที่ยังใช้ Windows 10 อยู่ยังสามารถ อัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ฟรี หากเครื่องตรงตามข้อกำหนดทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ เช่น ความต้องการ TPM 2.0 และ RAM อย่างน้อย 4GB ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากไม่สามารถอัปเกรดได้
แม้ว่ารายได้จาก Windows จะคิดเป็นเพียง 9% ของรายได้รวมทั้งปีของ Microsoft ในปีงบประมาณ 2024 แต่ระบบปฏิบัติการนี้ยังคงเป็นพื้นฐานสำคัญของระบบ Microsoft โดยเฉพาะสำหรับองค์กรธุรกิจและการศึกษา