บทเรียนราคาแพง! การเข้าซื้อกิจการ Nokia ของ Microsoft

การเข้าซื้อกิจการ Nokia ของ Microsoft ในปี 2013 ด้วยมูลค่า 7.2 พันล้านดอลลาร์ มักถูกมองว่าเป็นหนึ่งในดีลที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี เป้าหมายคือเพื่อให้ Microsoft เข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่กลับกลายเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่ส่งผลให้สูญเสียเงินมหาศาล

จุดเริ่มต้นของหายนะ

ในช่วงต้นทศวรรษ 2010 Nokia ยักษ์ใหญ่ในอดีตของโทรศัพท์มือถือ กำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อตามทันคู่แข่งอย่าง Apple และ Google ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนที่เหนือกว่าอย่าง iOS และ Android

เพื่อกอบกู้บริษัท Nokia ได้แต่งตั้ง Stephen Elop อดีตผู้บริหารจาก Microsoft เป็น CEO แทน Elop ตัดสินใจทิ้ง Symbian ระบบปฏิบัติการเก่าของ Nokia และหันไปใช้ Windows Phone ของ Microsoft แทน

เดิมพันที่ผิดพลาด

ในขณะนั้น Windows Phone ดูเหมือนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ Nokia มีความสามารถในการสร้างตัวเครื่อง และ Microsoft มีซอฟต์แวร์ที่ได้รับการยอมรับ

แต่ Windows Phone กลับล้มเหลวในการดึงดูดผู้ใช้และนักพัฒนาแอป หน้าตาการใช้งานของระบบที่ผู้ใช้ไม่เข้าใจและการขาดแอปพลิเคชั่นยอดนิยมทำให้แพลตฟอร์มเสียเปรียบคู่แข่งอย่างมาก

การเข้าซื้อกิจการและผลที่ตามมา

ในปี 2013 Microsoft ตัดสินใจซื้อธุรกิจโทรศัพท์มือถือของ Nokia ทั้งหมด มูลค่า 7.2 พันล้านดอลลาร์ หลายคนมองว่าเป็นการจ่ายเงินมากเกินไปสำหรับบริษัทที่กำลังอยู่ในจุดวิกฤต

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้ Elop กลับมาที่ Microsoft อีกครั้ง แต่เขาอยู่ได้ไม่นาน ภายใต้การนำของ Satya Nadella CEO คนใหม่ Microsoft ตระหนักดีว่ากลยุทธ์สำหรับมือถือนั้นล้มเหลว

ในปี 2015 Microsoft ตัดสินใจลดการสูญเสีย โดยตัดเงิน 7.6 พันล้านดอลลาร์จากการเข้าซื้อกิจการ Nokia และเลิกจ้างพนักงาน 7,800 คน

บทเรียนที่ได้

การเข้าซื้อกิจการ Nokia ของ Microsoft เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าแม้แต่บริษัทขนาดใหญ่ก็สามารถทำผิดพลาดได้ บริษัทประเมินความเสี่ยงต่ำเกินไปและล้มเหลวในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่รวดเร็ว

ปัจจุบัน Microsoft มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจคลาวด์มากขึ้น ภายใต้การนำของ Satya บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่การล่มสลายของ Nokia ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจว่าความประมาทในอดีตอาจส่งผลร้ายแรงต่ออนาคต