เทคโนโลยี

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

รุ่นล่าสุดที่ราคาจับต้องได้เหมือนมือโปร

iPad Air รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวมาในปี 2024 นั้นมาพร้อมดีไซน์ที่บางเบา พกพาสะดวก และมีพื้นที่จัดเก็บที่เพิ่มขึ้น ทำให้เป็นแท็บเล็ตที่ใช้งานได้หลากหลาย

ด้วยชิป M1 ที่ทรงพลัง iPad Air นั้นมีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปบนแท็บเล็ต เช่น การท่องเว็บ ดูหนัง เล่นเกมหรือวิดีโอคอล

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

ในขณะเดียวกัน ราคาของ iPad Air นั้นก็ถูกกว่า iPad Pro และแท็บเล็ต Android รุ่นเรือธงอื่น ๆ ด้วยราคาเริ่มต้น 23,900 บาท แม้จะดูเหมือนสูงแต่หากใครที่ติดตามวงการแท็บเล็ตมาโดยตลอดจะพบว่า นี่เป็นตัวเลขที่อยู่ในกลุ่มระดับเรือธงที่ทาง Android จะมอบให้ได้

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

แม้ว่า iPad Air รุ่นนี้จะไม่ใช่แท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด แต่ก็ไม่ได้ด้อยกว่า iPad Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับชิป M4

และในโอกาสที่เราได้ตัวเครื่องมาทดสอบกันแล้วจะรีวิวแบบทั่วไปคงจะจำเจไม่น้อย ฉะนั้นลองมาบอกเล่าประสบการณ์การใช้งาน iPad Air 11 นิ้ว 2024 กันดีกว่าว่ามีจุดไหนที่เราชื่นชอบ และจุดไหนที่มองแล้วอาจจะไม่เหมาะกันบ้างไปหาคำตอบกันเลย

iPad Air 11 นิ้ว (2024)
ราคาเริ่มต้น23,900 บาท
หน้าจอจอ Liquid Retina
น้ำหนัก462 กรัม
ชิปเซ็ตApple M2
RAM8 GB
ที่เก็บข้อมูล128 GB, 256 GB, 512 GB และ 1TB
แบตเตอรี่Li-Po 28.93Wh
กล้องหลัง 12MP และหน้า 12MP
สเปคเบื้องต้นของ iPad Air 11 นิ้ว (2024)

แนวทางการทดสอบ

สำหรับการทดสอบที่เราจะใช้กับ iPad Air ในครั้งนี้จะใช้งานในทุกวันโดยการนำไปใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน การใช้งานเล่นเกม ท่องเว็บไซต์และอื่น ๆ อีกมากมายที่เราจะใช้งานกัน

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

ในส่วนของการเปรียบเทียบเราจะใช้ iPad Air รุ่นใหม่เป็นตัวตั้ง และเทียบกับ iPad รุ่นที่ 9 ที่มีอยู่ก่อนแล้ว และเช่นเดียวกันเทียบกับ iPad Pro 13 นิ้ว รุ่นใหม่เพื่อให้เห็นความก้าวหน้าของตัวเครื่องและพัฒนาการของ Apple ในการปรับปรุงรุ่นที่ทุกคนสามารถเลือกจ่ายและได้รับความคุ้มค่ากันถ้วนหน้า

แน่นอนว่าปัจจัยเรื่องของสเปคตัวเครื่องย่อมแตกต่างกันไป ทำให้อาจจะไม่สามารถเทียบกันได้โดยตรง แต่ด้วยช่วงราคาที่ต่างกันน่าจะทำให้หลายคนสามารถเห็นภาพว่าตัวเองเหมาะกับแท็บเล็ตรุ่นไหน

สิ่งที่น่าสนใจใน iPad Air 2024

iPad Air 2024 นั้นมาพร้อมการอัปเกรดที่น่าประทับใจหลายประการ ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ใช้แท็บเล็ตที่หลากหลาย

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

จุดเด่นของ iPad Air รุ่นใหม่นี้คือชิป M2 ใหม่ ซึ่งเร็วกว่าชิป M1 ในรุ่นก่อนหน้า ชิป M2 นั้นแรงพอที่จะรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการมากที่สุด รวมถึงเกมที่ใช้กราฟิกหนักและซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอ

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

อีกหนึ่งการอัปเกรดที่สำคัญคือจอภาพ iPad Air มาพร้อมจอ Liquid Retina ขนาด 11 นิ้ว ซึ่งมีความสว่าง คมชัด และมีสีสันสดใส จอภาพนี้ยังรองรับเทคโนโลยี True Tone ซึ่งจะปรับสมดุลสีขาวของหน้าจอให้เหมาะกับสภาพแสงโดยรอบ

นอกจากนี้ iPad Air ยังมีพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่ารุ่นก่อนหน้า รุ่นพื้นฐานมาพร้อมพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB ซึ่งเป็นสองเท่าของรุ่นก่อนหน้า และมีตัวเลือกความจุ 256GB, 512GB และ 1TB

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

นอกจากนี้กล้องหน้าได้ถูกย้ายมาอยู่ในตำแหน่งที่ผู้ใช้งานหลายคนต้องการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อใช้งานในแนวนอน เมื่อเทียบกับ iPad รุ่นก่อนจะพบว่ามีความแตกต่างกันชัดเจน

iPad Air ใหม่มาพร้อมกับชิป M2 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญจากชิป M1 ในรุ่นก่อนหน้า

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

แต่ชิป M2 นั้นดีขึ้นแค่ไหน ? Apple อ้างว่าชิป M2 นั้นช่วยให้ iPad Air ใหม่มีประสิทธิภาพเร็วขึ้น 50% เมื่อเทียบกับรุ่น M1 และเร็วกว่าชิป A13 Bionic ถึง 3 เท่า

แม้ว่าเราจะไม่มี iPad รุ่น M1 ที่ใช้เพื่อทดสอบการเคลมเหล่านี้ แต่ผมมี iPad รุ่น 9 ซึ่งทำให้เห็นว่าเครื่องรู้สึกช้าลงและตอบสนองน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ iPad Air ใหม่ที่ลองใช้มาในสัปดาห์ที่ผ่านมา

จากการทดสอบประสิทธิภาพ พบว่า iPad Air ใหม่นั้นมีประสิทธิภาพเหนือกว่าชิป A13 Bionic รุ่นเก่าอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่เทียบกับ iPad Pro เราจะเห็นข้อแตกต่างที่สามารถเข้าใจได้

Geekbench 6Single-CoreMulti-CoreGPU
iPad Air (2024)26031007841714
iPad 91777406313869
iPad Pro (2024)37291466153201
ตารางเปรียบเทียบตัวเลขการทดสอบ Geekbench 6

อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามที่น่าสนใจอีกเรื่องนั่นคือ iPad Air ใหม่นั้นเปรียบเทียบกับ iPad Pro รุ่นใหม่ด้วยกันแล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นเช่นไร ?

Geekbench MLCPUGPUNeural
Engine
iPad Air (2024)344646096912
iPad 918639331730
iPad Pro (2024)471068529345
ตารางเปรียบเทียบตัวเลขการทดสอบ Geekbench ML

จากการทดสอบด้วยการใช้งานทั่วไปพบว่าไม่ได้เห็นความแตกต่างใด ๆ จากทั้งสองรุ่น แน่นอนว่าบางคนอาจพบความแตกต่างในการใช้งานบางส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการตัดต่อที่ต้องยอมรับว่าชิป M4 มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า แต่ในการเล่นเกมหนัก ๆ ตอนนี้อย่าง Honkai Star Rails หรือ Wuthering Waves แทบจะไม่เห็นความแตกต่างใด ๆ อย่างที่สังเกตได้

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

ในแง่ของความร้อนจากการใช้งานหากให้เราบอกกันตามตรงคงต้องบอกว่าแทบจะไม่แตกต่างกัน ขณะที่เปิดเกมและใช้งานกราฟิกสูงสุดทั้งสองรุ่นมีความร้อนที่ถูกส่งออกมาให้รู้สึกได้ชัดเจน แต่ถามว่าถึงขนาดถือเล่นไม่ได้หรือไม่คงไม่ขนาดนั้น และเอาตามตรงแล้วหากใช้งานเล่นเกมกับหน้าจอที่ใหญ่ขนาดนี้ เราคงมีอุปกรณ์เสริมอย่างจอยมาเป็นตัวกลางในการใช้งาน

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

การเล่นเกมอย่าง Resident Evil Village สามารถที่จะทำได้เช่นกัน เนื่องจากตัวเกมได้ถูกปรับแต่งมาให้กับตัวเครื่องเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กราฟิกเมื่อเทียบกันสองเครื่อง เราพบว่าในแง่ของการเก็บรายละเอียดและความคมไม่ได้ต่างกันขนาดนั้น

แน่นอนว่าการเทียบว่าใครเหมาะกับอะไรมากกว่ากันต้องขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ทางที่ดีควรที่จะไปลองสัมผัสตัวเครื่องตามร้านที่มีให้ได้ทดสอบกันก่อน เพื่อที่จะตอบตัวเองให้ได้ว่าหน้าจอขนาด 11 นิ้วหรือ 13 นิ้ว เหมาะกับตัวเองมากที่สุด เพราะหากซื้อมาผิดแล้วไม่ถูกใจการจะปรับตัวให้ใช้งานอาจจะไม่ได้เป็นคำตอบสำหรับทุกคน

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

ส่วนตัวแล้วยังมองว่าหน้าจอขนาด 11 นิ้วยังเหมาะกับการเป็นแท็บเล็ตสำหรับการใช้งานสำหรับคนส่วนใหญ่มากกว่า หากขยับเป็น 13 นิ้วน่าจะเหมาะกับบรรดาครีเตอร์หรือศิลปินที่ต้องการหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ และมีงานที่ต้องใช้งานโดยเฉพาะ

แน่นอนว่าตัวเลือกขนาดหน้าจอ 13 นิ้วเป็นครั้งแรกที่ถูกนำเสนอออกมาใน iPad Air บางกลุ่มอาจมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ดูแปลก แต่หากบริษัทอย่าง Apple ตัดสินใจเพิ่มตัวเลือกดังกล่าว เชื่อว่าน่าจะมีเหตุผลและการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้งานมาพอสมควรจนมองเห็นช่องในการทำตลาดออกมา

  • [รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2
  • [รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2
  • [รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

หากพูดในแง่ของการพกพาไปใช้งานขนาด 11 นิ้วเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่หากใครที่พบว่าตัวเองมีการใช้งานอยู่กับสถานที่เดียวเป็นหลัก หรือนำไปใช้งานยามพักผ่อนตัวเลือก 13 นิ้วที่ได้ขนาดพื้นที่แสดงผลมากเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

สิ่งที่ชวนสงสัยใน iPad Air 2024

ไม่รู้ว่าทาง Apple คิดยังไงที่ตัดสินใจเปิดตัว iPad Air และ iPad Pro ออกมาพร้อมกัน แต่ดันทำให้ชื่อห้อยท้ายอย่าง Air ขาดจุดเด่นที่ควรจะเป็น เพราะการมาถึงของ iPad Air รุ่นล่าสุดให้ความรู้สึกที่หนักและมีความหนากว่า iPad Pro อย่างชัดเจน

แน่นอนว่าหากเราไปดูที่ตัวเลขของน้ำหนักเครื่องเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนจะพบว่าไม่ได้มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้น แต่การตัดสินใจทำให้ iPad Pro มีความบางและเบากว่าส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของชื่อ iPad Air โดยตรง ส่งผลให้ผู้ที่สนใจเห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจน

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

น้ำหนักของ iPad Air 11 นิ้วอยู่ที่ 462 กรัม หากนำไปเทียบกับ iPad Pro 13 นิ้วมีตัวเลขน้ำหนัก 579 กรัม แต่ความรู้สึกที่เราได้จากการเทียบของทั้งสองดันรู้สึกว่าอย่างหลัง ให้ความสบายในการถือใช้งานมากกว่า สิ่งนี้อาจเป็นเพราะการออกแบบเครื่องให้กระจายน้ำหนักที่ทำได้ไม่ดีนักใน iPad Air

ฉะนั้นเราพอจะสรุปได้ว่าความตั้งใจของ Apple ในการใช้ชื่อ Air ใน iPad Air ของปีนี้ไม่ได้โดดเด่นในเรื่องของน้ำหนัก แต่เป็นประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับสิ่งที่จ่ายไปแล้วได้กลับมาครบครัน

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

น่าเสียดายที่ Apple ยังไม่ใส่ Face ID มาให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสงสัยว่าต้องรอกันอีกนานแค่ไหนกว่าที่จะได้ใช้กัน แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะยังสามารถใช้งาน Touch ID ที่มีความแม่นยำได้ดีผ่านปุ่ม Power แต่คงจะดีไม่น้อยหากสามารถใช้งาน Face ID โดยไม่ต้องไปยุ่งกับปุ่มใด ๆ

บทสรุป

[รีวิว] ความคิดเห็นหลังได้ลองใช้ iPad Air 11 นิ้ว 2024 M2

หลังจากใช้งาน iPad Air รุ่นล่าสุดมาสักระยะพบว่าสิ่งที่จะเป็นตัวตัดสินใจการอัปเกรดมากที่สุดสำหรับผู้ใช้งานที่มีรุ่นเดิมอยู่แล้ว คงหนีไม่พ้นประสิทธิภาพโดยรวมที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการมีตัวเลือก 13 นิ้ว ที่เคยมีเฉพาะใน iPad Pro ตอนนี้ได้มาสู่ตระกูล Air เรียบร้อยแล้ว จะเป็นเหตุผลหลักในตัวตัดสิน แต่สำหรับใครที่เป็นเจ้าของ iPad Air รุ่นก่อนหน้าอาจยังไม่มีเหตุผลมากพอในการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

ข้อดี:

  • ตัวเลือกหน้าจอขนาด 13 นิ้วใหม่
  • ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นจากชิป M2
  • จอแสดงผลที่ดีขึ้น
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
  • กล้องระดับใช้งานได้จริง
  • Touch ID ตอบสนองทันใจ
  • ราคาจับต้องได้

ข้อเสีย:

  • ยังไม่มี Face ID ให้ใช้งาน
  • การกระจายน้ำหนักเครื่องขาดความเป็น Air ไป

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Apple ประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง iPad Air 11 นิ้ว 2024 มาให้เราทำการทดสอบกันใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตาม Apple Store, ช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

สั่งซื้อสินค้าได้ที่ [คลิก]

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button