เทคโนโลยี

[รีวิว] HUAWEI nova 9 SE

หนึ่งในรุ่นสุดคุ้มสำหรับเหล่าครีเอเตอร์ แถมยังเล่นเกมได้ลื่นๆ

หลังจากที่เปิดตัวรุ่นพี่อย่าง HUAWEI nova 9 ไปในช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว ผ่านมา 6 เดือนในที่สุดทาง HUAWEI ได้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล nova ออกมาอีกครั้งนั่นก็คือ HUAWEI nova 9 SE สมาร์ทโฟนรุ่นน้องที่มาพร้อมกับสเปคด้านการถ่ายภาพแซงหน้ารุ่นพี่อย่างเห็นได้ชัด ด้วยกล้องหลังความละเอียด 108MP พร้อมฟีเจอร์สำหรับสาย Vlog ใช้งานได้จบภายในเครื่องเดียว นอกเหนือจากนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างเราไปหาคำตอบกันเลย

Design

ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าตาโดยรวมที่อาจจะดูคล้ายคลึงกันกับรุ่นพี่ แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างแรกคือเรื่องของขอบหน้าจอ ที่ภายใน HUAWEI nova 9 SE จะไม่ได้เป็นแบบจอโค้งอีกต่อไป จะเป็นเพียงหน้าจอแบบแบนราบเท่านั้น ซึ่งในจุดนี้น่าจะเป็นมิตรกับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ได้มากกว่า

image 218
image 219

วัสดุโดยรอบของตัวเครื่องยังใช้งานเป็นพลาสติกที่เคลือบด้วยกระจกอีกชั้น สีที่เราได้มาทดสอบในครั้งนี้เป็นสี Crystal Blue เมื่อกระทบกับแสงหรือถือด้วยองศาที่แตกต่างกันก็จะมีการแสดงออกของสีที่ต่างกันไปด้วย

image 220

แต่จุดที่ยังคงเป็นเรื่องที่กวนใจสำหรับการใช้งานพื้นผิวในลักษณะนี้ และเป็นผิวแบบมันวาวไม่ใช่แบบด้าน นั่นก็คือเรื่องของรอยนิ้วมือและรอยต่าง ๆ ที่เมื่อไปสัมผัสกับฝาหลังเมื่อไหร่ ก็จะมีการทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้เราได้เห็น

แน่นอนว่าทาง HUAWEI เองได้มีการแถมเคสใสมาให้ภายในกล่องด้วยเช่นกัน แม้ว่าอาจจะไม่ได้ถูกใจทุกคนแต่ก็ช่วยตัดปัญหาเรื่องรอยด้านหลังได้เป็นอย่างดี มีมาให้ย่อมดีกว่าไม่มีอยู่แล้ว

image 221

ในส่วนของกล้องหลังที่ให้มามีการวางตำแหน่งของกล้องเอาไว้แบบเดียวกับรุ่นพี่ แต่รายละเอียดภายในและเลนส์มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนรายละเอียดของเลนส์กล้องแต่ละตัวมีดังนี้

• กล้องหลักความละเอียด 108MP f/1.9 พร้อมเทคโนโลยี Multi-Frame Fusion Technology ที่จะช่วยจัดการรายละเอียดการถ่ายภาพให้คมชัดเก็บครบทุกรายละเอียด

• Ultra Wide ความละเอียด 8MP f/2/2 รองรับมุมมองของภาพได้มากถึง 112 องศา

• Depth ความละเอียด 2MP f/2.4 ช่วยในเรื่องของการเพิ่มมิติของภาพ อย่างเช่นการใช้งานฟีเจอร์หน้าชัดหลังเบลอ

• Macro ความละเอียด 2MP f/2.4 รองรับการถ่ายด้วยความใกล้ในระยะ 4 เซนติเมตร

โดยที่ไฟแฟลชจะอยู่บริเวณตรงกลางของตัวกลาง

image 222

อย่างไรก็ตามสิ่งที่หายอย่างเรื่องของน้ำหนักของตัวเครื่องที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 191 กรัม จากเดิมที่รุ่นพี่อย่าง nova 9 มีน้ำหนักเพียงแค่ 175 กรัมเท่านั้น เรื่องนี้เป็นเพราะการที่ตัวเครื่องเองก็มาพร้อมกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าเดิมด้วยเช่นกัน ขณะที่ความบางของตัวเครื่องอยู่ที่ 7.94 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้นมา 0.17 มิลลิเมตร

หากถามว่ามันเป็นเรื่องที่แย่ขนาดที่ต้องนำมาเป็นประเด็นหรือไม่ ก็คงต้องตอบว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่กว่า การที่จะบีบน้ำหนักของตัวเครื่องให้เท่ากันคงเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และกับช่วงราคาด้วยแล้วนับว่าเป็นอะไรที่ไม่ได้แย่เลย

image 223

ปุ่มกดต่าง ๆ ของตัวเครื่องจะอยู่ที่บริเวณขอบด้านขวาทั้งหมด โดยมีปุ่มให้ใช้งานคือ ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่ม Power ที่ทำหน้าที่เป็นพื้นที่สำหรับการสแกนลายนิ้มือไปในตัว

image 224

ด้านล่างเป็นช่อง USB-C ช่องไมโครโฟนและลำโพง

image 225

ด้านบนเป็นช่องสำหรับการใช้งานซิมรองรับการใช้งาน 2 ซิมแต่ว่าไม่ได้มาพร้อมกับการรองรับการใช้งานสัญญาณ 5G ซึ่งก็สมเหตุสมผลเพราะว่ารุ่นพี่เองก็ไม่ได้มีมาให้เช่นกัน ถัดไปเป็นช่องสำหรับลำโพงใช้ในการสนทนาเวลาโทรศัพท์ และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนอีกหนึ่งจุด

ใช่แล้วสิ่งที่ขาดหายไปคือช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรที่ในตอนนี้หากต้องการจะใช้งานต้องหาเป็นตัวแปลงผ่าน USB-C อีกต่อ หรือเปลี่ยนไปใช้งานแบบหูฟังไร้สายแทน

image 226

สิ่งที่ให้มาภายในกล่องประกอบไปด้วยเคส ที่ชาร์จซึ่งรองรับการชาร์จแบบ HUAWEI SuperCharge 66W พร้อมสาย USB-C

Display

ในส่วนของหน้าจอ HUAWEI nova 9 SE มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2K แบบ FullView Display สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นพี่นอกเหนือจากขนาดหน้าจอแล้ว ยังมีเรื่องของพาเนลหน้าจอที่ต่างกัน เนื่องจากรุ่นนี้มีการเลือกใช้งานหน้าจอแบบ IPS LCD แต่รุ่นพี่จะเป็นแบบ OLED นั่นเอง

image 227

อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นคือเรื่องของขอบของหน้าจอที่มีความบางเพียง 1.05 มิลลิเมตร รองรับการแสดงผล refresh rate 90Hz พร้อมค่า touch sampling 270Hz พร้อมโหมดการใช้งานเพื่อการถนอมดวงตาอย่าง Eye Protection ลดแสงสีฟ้าบนหน้าจอเพื่อการใช้งานในระยะยาว

image 228

ส่วนเรื่องของการออกแบบหน้าจอเป็นแบบ punch hole โดยเรื่องของการแสดงผลหากใครที่ไม่ชอบสามารถที่จะปรับแบบการแสดงผลให้เป็นแบบไม่ยื่นไปถึงบริเวณกล้องหน้าได้เช่นกัน

image 229

โทนสีของหน้าจอค่าพื้นฐานที่ตัวเครื่องเลือกให้จะเป็นแบบ Vivid ซึ่งโทนสีที่เราจะได้จะเป็นแบบปกติทั่วไปของสมาร์ทโฟน ที่จะออกในโทนอมฟ้าหน่อย ๆ แต่หากเลือกเป็นแบบ Normal จะแสดงผลแบบอมเหลืองนิด ๆ ในส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าชื่นชอบแบบใดมากกว่ากัน

image 230

โหมดด้านการแสดงผลอื่น ๆ อย่าง Eye Comfort และ Dark Mode มีมาให้ใช้งานครบครัน

image 231
image 232

Performance

อาจจะบอกได้ว่าเรื่องของประสิทธิภาพของตัวเครื่องอาจจะไม่ได้เป็นจุดเด่นของ HUAWEI nova 9 SE เท่าไหร่นัก ชิปเซ็ตที่เลือกใช้งานเป็น Snapdragon 680 4G แรมที่ให้มามีทั้งหมด 8GB ที่เก็บข้อมูลขนาด 128GB

image 233

สำหรับผลการทดสอบในส่วนของ AnTuTu อาจจะทำให้หลาย ๆ คนตกใจกันเล็กน้อยเพราะคะแนนที่ออกมาเรียกว่าหายไปครึ่งจากรุ่นพี่ ซึ่งการใช้งานจริงจะสอดคล้องกับคะแนนหรือไม่เดี๋ยวเราจะให้คำตอบกันในช่วงท้าย

image 234

ถัดมาที่การทดสอบของ Geekbench 5 เราจะเริ่มเห็นความต่างกันในการทดสอบนี้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่การทดสอบ Vulkan หลังจากที่ลองทดสอบอยู่หลายรอบก็พบว่าไม่สามารถทดสอบให้ผ่านได้

image 235

ตามมาด้วยการทดสอบ Geekbench ML ซึ่งจะเน้นไปที่เรื่องของการประมวลผลการทำงานของบรรดา Machin Learning ต่าง ๆ การทดสอบเป็นไปตามภาพที่เราได้นำมาให้ได้รับทราบกัน

image 236

สุดท้ายเป็นการทดสอบด้วย 3DMark คะแนนที่ได้ยังคงสะท้อนให้เราได้เห็นว่าตัวเครื่องของ HUAWEI nova 9 SE อาจจะดูไม่ได้มีจุดเด่นในเรื่องของกราฟิกมากนัก

image 237
image 238
image 239

เรื่องของการทดสอบจบกันไปเรามาเข้าเรื่องของการเล่นเกมในโลกของความเป็นจริงกันบ้าง ในการทดสอบเราได้ทำการเล่นในเกมอย่าง PUBG และ RoV พบว่าในการเล่นเกมแรก ในหน้าของการตั้งค่าภาพสามารถที่จะตั้งได้เฉพาะกราฟิกความละเอียดระดับเริ่มต้นเท่านั้น สามารถที่จะเปิดโหมดเฟรมเรทสูงได้ แต่ในการเข้าไปเล่นจริงพบปัญหาการแสดงผลที่ค่อนข้างที่จะโหลดสักระยะหนึ่งกว่าที่จะขึ้นรายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกมถึงจะมาครบ ส่วนเรื่องอาการกระตุกในระหว่างการเล่นไม่พบปัญหาเฟรมเรทตกเท่าไหร่นัก

image 240

ขณะที่การเล่นเกม RoV ไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น สามารถที่จะเปิดกราฟิกสูงสุดและเล่นได้ที่เฟรมเรท 60FPS ได้อย่างไม่มีเรื่องให้กวนใจ ถูกใจสายตีป้อมแน่นอน

image 241

ในเรื่องของความร้อนตัวเครื่องขณะที่เล่นถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะว่าตัวเครื่องไม่ค่อยที่จะมีความร้อนสะสมมากนัก แม้ว่าจะเปิดโหมดการแสดงผลหน้าจอแบบ 90Hz ก็ตาม ถือว่าจัดการกับความร้อนในตัวเครื่องได้อย่างดี

image 242

ที่แอบสงสัยอยู่หนึ่งอย่างคือเรื่องของเซนเซอร์ภายในตัวเครื่องที่ดันไม่ได้มี Gyroscope มาให้ใช้งานเฉยเลยแบบงง ๆ

Software

ระบบการทำงานที่ใช้งานภายในตัวเครื่องเป็นระบบ Android 11 ที่ครอบด้วย EMUI 12 แน่นอนว่าบริการของทาง Google ต่าง ๆ ไม่มีให้ใช้งาน แต่ในปัจจุบันการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนของทาง HUAWEI ก็แทบจะไม่มีช่องว่างที่ห่างเหมือนกับช่วงแรกที่บริการดังกล่าวหายไปแล้ว

image 243

แน่นอนว่าร้านค้าหลักที่เราจะได้ใช้งานก่อนใครเพื่อนคือ AppGallery ที่ในตอนนี้มีตัวเลือกในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่เพิ่มยิ่งขึ้น และแม้ว่าจะไม่มีให้เลือกดาวน์โหลดจากตัวร้านค้าโดยตรง ก็ยังมีตัวช่วยที่จะพาเราไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ต้องการจากร้านค้าอื่นได้ง่าย ๆ (แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้มีทุกแอปพลิเคชันที่จะมีตัวเลือกแบบนี้)

image 244

นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับบรรดาครีเอเตอร์ HUAWEI nova 9 SE จึงมาพร้อมกับแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า Petal Clip ที่มีตัวเลือกในการตัดต่อค่อนข้างมากพอที่จะจบได้ภายในแอปเดียว จากที่ได้ลองเล่นดูมีฟีเจอร์ที่ไม่แตกต่างจากแอปตัดต่อยอดนิยมในตลาดตอนนี้เลย

image 245

สำหรับใครที่เป็นกังวลว่าแล้วเราจะใช้งานแอปที่ต้องพี่งพา GMS ยังไง ทางเลือกที่ได้รับการยอมรับและนิยมกันมากที่สุดในหมู่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน HUAWEI คงหนีไม่พ้นแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Gspace ซึ่งสามารถที่จะทำการดาวน์โหลดและติดตั้งได้โดยตรงผ่าน AppGallery ซึ่งหากจะบอกว่าเป็นการยอมรับหรือปิดตาข้างหนึ่งของทาง HUAWEI เองก็ว่าได้ ภายในจะเป็นการจำลองสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับการทำงานอยู่มาให้เราได้ใช้งาน สามารถที่จะติดตั้งแอปอย่าง YouTube, Google Maps, Photos และอื่น ๆ มาใช้งานได้ครบครัน

Camera

เรื่องของการถ่ายภาพเป็นจุดเด่นที่ HUAWEI nova 9 SE ได้หยิบยกขึ้นมาเป็นจุดเด่น ด้วยความที่มาพร้อมกับกล้องหลังที่มีความละเอียดถึง 108MP และเลนส์อื่น ๆ แบบครบครัน มาพร้อมกับการซูม 3 ระดับ สูงสุดที่ 10 เท่า พร้อมฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพให้ได้เล่นอย่างเช่น Super Night Shot ที่จะช่วยทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น ลด noise ที่จะเกิดภายในภาพ โหมด AI ที่ค่อนข้างจะฉลาดสามารถที่จะแยกประเภทของวัตถุได้

image 246
image 247
image 248
image 249

กล้องหน้าความละเอียด 16MP มีฟีเจอร์ต่าง ๆ มาให้ใช้งานได้ตามมาตรฐาน การถ่ายวิดีโอสามารถทำได้ที่ความละเอียด FHD พร้อมโหมดการทำงานไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนการถ่ายคลิประหว่างกล้องหน้าและหลังได้ในระหว่างการใช้งาน การถ่ายด้วยกล้องหน้าและหลังพร้อมกัน หรือจะเป็นการใช้งานกล้องหลังถ่ายคลิปแบบมุมมองปกติและมุมกว้างได้พร้อมกัน

Battery

ขนาดของแบตเตอรี่ที่ให้มาภายในเครื่องมีขนาด 4000mAh พร้อมรองรับการชาร์จไวแบบ HUAWEI SuperCharge 66W สามารถที่จะชาร์จได้เต็มในระยะเวลาไม่ถึง 40 นาที ด้วยกำลังไฟที่มากขนาดนั้นส่งผลให้มันเหมาะกับการใช้งานของผู้ที่ต้องเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา เมื่อจำเป็นที่จะต้องใช้งานก็สามารถทำได้สะดวก

image 250
image 251

ส่วนการกินแบตพบว่าค่อนข้างที่จะจุกเอาเรื่องหากเปิดการใช้งานโหมด 90Hz ตลอดเวลา แต่ถามว่าอยู่ได้ถึงเย็นแบบอยู่รอดปลอดภัยหรือไม่ก็ต้องบอกว่าอยู่ได้ แต่อาจจะแอบเสียวเล็กน้อย แต่หากเปิดการแสดงผลแบบ Dynamic ให้ระบบเป็นตัวเลือกก็จะสะดวกและไร้กังวลกว่าเดิม

Conclusion

image 252

บทสรุปของ HUAWEI nova 9 SE ต้องยอมรับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพเป็นหลัก ในด้านประสิทธิภาพการทำงานอาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไปได้ไม่มีสะดุด แต่สำหรับสายเกมเมอร์ตัวยงอาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่นัก ด้วยราคา XXXX บาท ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนต่ำกว่าหมื่นที่ดูคุ้มอีกหนึ่งรุ่น

จุดเด่น

• การออกแบบตัวเครื่องที่ดูโดดเด่นดึงดูดสายตา

• หน้าจอใหญ่ขนาด 6.78 นิ้ว แสดงผลได้เต็มตา

• รองรับการแสดงผล 90Hz

• กล้องหลังที่ตอบโจทย์บรรดาครีเอเตอร์ได้เป็นอย่างดี

• ประสิทธิภาพภายในตัวเครื่องที่แม้ไม่เด่นสุด แต่ใช่งานได้ไม่มีสะดุด

• โหมดการถ่ายภาพที่มีให้เลือกใช้งานครบทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว

• แบตเตอรี่รองรับการชาร์จระดับ 66W รวดเร็วทันใจ

• แอปพลิเคชันสำหรับการขาดหายไปของ GMS ที่เกือบจะไร้รอยต่อแล้ว

จุดสังเกต

• หากใครที่เป็นสายเกมเมอร์ตัวยงอาจจะต้องมองข้ามไป

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ HUAWEI แห่งประเทศไทยที่ได้ส่งอุปกรณ์ในครั้งนี้มาให้พวกเราได้ทดสอบกันหากใครที่สนใจ HUAWEI nova 9 SE สามารถหาซื้อได้แล้วในตอนนี้ทั้งช่องทางออนไลน์และตามร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ [คลิก]

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button