[รีวิว] Huawei MatePad Pro 5G แท็บเล็ตเรือธงความหวังใหม่ที่พร้อมทุกการใช้งาน

ตลาดแท็บเล็ตในปัจจุบันหากเราไม่นับการมีอยู่ของ iPad จากทาง Apple ก็คงต้องบอกว่าตลาดฝั่ง Android ค่อนข้างที่จะหาตัวจับได้ยากเนื่องจากรุ่นที่ออกมามักจะไม่ค่อยตอยโจทย์การใช้งานที่ดีเท่าไหร่นัก แต่สำหรับแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Huawei อาจจะต้องทำให้เราคิดใหม่ก็เป็นได้เพราะมาพร้อมกับสเปคสุดแรงพร้อมการรองรับการใช้งาน 5G อย่าง Huawei MatePad Pro 5G ที่นำจุดเด่นต่าง ๆ เอามาไว้ในเครื่องเดียว

สำหรับ Huawei MatePad Pro 5G มาพร้อมกับการออกแบบที่นำข้อดีต่าง ๆ มารวมเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงด้านข้างที่เป็นขอบแบบโลหะทำให้มีความทนทานต่อการใช้งาน ด้านหลังที่เป็นการนำวัสดุอย่างหนังมาใช้งานทำให้จับถนัดมือและเกาะติดกับพื้นผิวต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

สีของตัวเครื่องที่ใช้งานจะเป็นสีเขียวที่ทาง Huawei เรียกว่า Forest Green ซึ่งจะเป็นสีที่ค่อนข้างออกไปในโทนทึบที่ซ่อนความทรงพลังเอาไว้ด้านใน ให้ความรู้สึกที่ดูพรีเมี่ยมและเรียบหรูเอาไว้เมื่อครั้งแรกเจอ

หน้าจอที่มาพร้อมกับขนาด 10.8 นิ้วอาจจะเป็นขนาดที่ใหญ่กว่าแท็บเล็ตขนาด 10 นิ้วที่เราเคยได้ใช้งานกัน แต่ก็ถือว่าทำออกมาให้ถือใช้งานได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง น้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 492 กรัมเท่านั้น เรียกได้ว่าเบากว่า iPad Pro 2020 ที่เป็นเจ้าตลาดแท็บเล็ตจอใหญ่เสียอีก 

การออกแบบบนหน้าจอมาพร้อมกับการเลือกใช้งานกล้องหน้าที่เป็นแบบ Punch Hole ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างที่จะดี โดยมีตำแหน่งอยู่ที่บริเวณมุมซ้ายบนของตัวเครื่อง ทำให้เราได้พื้นที่ในการแสดงผลบนหน้าจอที่เต็มพื้นที่การใช้งาน

อย่างที่ได้บอกไปว่าการเลือกใช้งานกล้องแบบ Punch Hole ทำให้ได้พื้นที่การแสดงผลที่มากยิ่งขึ้นและดูเหมือนว่าจะเป็นพื้นที่การแสดงผลที่มากที่สุดสำหรับแท็บเล็ตหน้าจอขนาด 10 นิ้วก็ว่าได้ โดยที่มีอัตราส่วนในการแสดงผลเมื่อเทียบกับตัวเครื่องแล้วอยู่ที่ 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

นอกจากนี้หน้าจอที่ใช้งานยังเป็นแบบ FullView LCD ที่มีหน้าจอที่สามารถแสดงผลความละเอียดได้ในระดับ QHD (2560 x 1600) ที่ให้ความสว่างที่น่าประทับใจสามารถใช้งานได้ในที่แสงจ้าอย่างไม่มีปัญหา ขณะที่การแสดงผลของหน้าจอสีต่าง ๆ ก็แสดงออกมาได้ถูกต้องไม่แพ้เจ้าตลาดด้านจอภาพอื่น ๆ เลย

แต่เมื่อเรามองรอบตัวเครื่องแล้วก็พบว่า Huawei MatePad Pro 5G ไม่ได้มาพร้อมกับพื้นที่สำหรับการสแกนลายนิ้วมือแต่อย่างใด ฉะนั้นทางเลือกของผู้ใช้งานคงจะต้องเป็นการใช้งานการปลดล็อคด้วยใบหน้าหรือใช้รหัสผ่านแทนนั่นเอง แต่ก็ทดแทนด้วยความรวดเร็วที่สูงขึ้นตามไปด้วย

สเปคภายในของ Huawei MatePad Pro 5G มาพร้อมกับการใช้งานชิปเซ็ตเรือธงที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ของทาง Huawei อย่าง Kirin 990 ที่มาพร้อมกับชิป NPU ภายในจับคู่กับแรมที่ให้มาถึง 8GB แค่สองอย่างนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เราได้รับประสบการณ์ในการใช้งานที่ไม่มีสะดุด และการขาดหายไปของ GMS ยังช่วยทำให้ลดการใช้ทรัพยากรเบื้องหลังที่ไม่จำเป็นออกไปได้เช่นกัน

ที่เก็บข้อมูลของตัวเครื่องมาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลขนาด 256GB ซึ่งประเภทของที่เก็บข้อมูลจะเป็นตัวของ UFS 3.0 ทำให้การเขียนและอ่านข้อมูลภายในตัวเครื่องทำออกมาได้อย่างรวดเร็วทันใจ ส่วนการเพิ่มที่เก็บข้อมูลภายนอกก็สามารถที่จะทำได้ผ่านตัวของ NM การ์ดที่เพิ่มได้สูงสุด 256GB

จุดเด่นที่น่าประทับใจของ Huawei MatePad Pro 5G คือเรื่องของแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 7250mAh ซึ่งถือว่ามากพอสมควร และที่บอกว่าน่าประทับใจก็เนื่องมาจากว่าการที่ชิปเซ็ตภายในอย่าง Kirin 990 ที่มีชิปสำหรับการจัดการอย่าง NPU ทำให้การจัดการในส่วนของการใช้พลังงานดียิ่งขึ้น ประกอบกับการใช้งานหน้าแบบ LCD ที่ไม่ได้กินแบตเตอรี่มากนัก ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานตลอดทั้งวัน หรือใครที่ใช้วันละ 3 – 4 ชั่วโมงก็สามารถที่จะลากยาวได้แบบข้ามวันกันไปเลย

แน่นอนว่าด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ทำให้หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าต้องใช้ระยะเวลาในการชาร์จที่นานตามไปด้วย แต่ต้องบอกว่าคุณอาจจะคิดผิดก็ได้เนื่องจากว่าตัวเครื่องมาพร้อมกับการรองรับการชาร์จไว 40W นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน Reverse Charging ได้อีกด้วยโดยสามารถส่งได้สูงสุด 7.5W แน่นอนว่าในเรื่องของ Wireless Charging ก็มีมาให้และรองรับที่ 27W เรียกว่าชาร์จเพียงแค่ชั่วโมงนิด ๆ ก็เต็มแล้ว

ด้วยความที่เป็นแท็บเล็ตระดับเรือธงที่ชูจุดเด่นในเรื่องของความทันสมัยทำให้ทาง Huawei ได้ทำการตัดรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรออกไปจาก Huawei MatePad Pro 5G อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราจะได้มาทดแทนคือในส่วนของลำโพงของตัวเครื่องที่มีถึง 4 ตัวด้วยกันโดยเป็นระบบเสียงแบบ Stereo ของทาง Harman Kardon หากได้ใช้งานแล้วจะต้องติดใจกับระบบเสียงที่ดังกังวานและรายละเอียดที่ชัดเจน ส่วนเรื่องของหูฟังได้มีการแถมตัวแปลงมาให้ผู้ใช้งานเรียบร้อยแล้วก็ไม่ต้องกังวลไปหากไม่มีหูฟังแบบไร้สายนั่นเอง

การถ่ายภาพก็ต้องยอมรับว่าด้วยความที่เป็นแท็บเล็ตเราคงจะไม่ได้คาดหวังอะไรมากแต่สำหรับกล้องที่ให้มาในตัวเครื่องที่มีกล้องหลังความละเอียด 13MP f/1.8 ทำออกมาได้น่าประทับใจเกินกว่ามาตรฐานของแท็บเล็ตที่มี แต่จุดตายของแท็บเล็ตก็ยังคงเป็นรายละเอียดของภาพที่อาจจะเก็บได้ไม่ครบและหากจะนำไปถ่ายในที่อับแสงก็คงต้องหลีกเลี่ยงกันเสียหน่อย

กล้องหน้าถือว่าทำออกมาได้ดีในเรื่องของคุณภาพที่ได้รับแต่อาจจะสอบตกในเรื่องของตำแหน่งการวางกล้องที่ดันไปอยู่บริเวณมุมซ้าย ทำให้เวลาที่ทำการวิดีโอคอลอาจจะได้มุมมองที่่แปลกไปเสียหน่อยนั่นเอง

ระบบภายในตัวเครื่องที่มีการเลือกใช้งานยังคงเป็น Android ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่ถูกครอบด้วย EMUI 10 ที่มีการปรับแต่งออกมาให้เหมาะกับผู้ใช้งานในทุก ๆ วัยอีกทั้งยังมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เป็นการนำข้อดีที่มีบนสมาร์ตโฟนและโน้ตบุ๊คของตัวเองมาให้ใช้งานภายในเครื่องอีกด้วย

ตัวเครื่องรองรับการใช้งานโหมดสองหน้าจอแบบเต็มรูปแบบและยังรองรับการใช้งานแบบ Multi-Window ที่สามารถย่อแอปพลิเคชันให้อยู่ในรูปแบบของหน้าต่างไปแสดงผลขณะใช้งานแอปอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อย่าง App Multiplier ที่จะช่วยทำให้เราสามารถใช้งานแอปพลิเคชันเดียวกันได้พร้อมกัน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อย่าง Huawei Share ที่สามารถส่งไฟล์ต่าง ๆ กับอุปกรณ์ของ Huawei ได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ Huawei MatePad Pro 5G ยังมาพร้อมกับโหมดสำหรับการแสดงผลในรูปแบบพีซีได้ด้วย ทำให้เราได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงกับที่เราใช้บนพีซีและโน้ตบุีคได้อีกด้วย โดยการใช้งานโหมดนี้ก็จะทำให้เราสามารถเปิดแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานพร้อมกันได้มากยิ่งขึ้นตามไป

การใช้งานด้านความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหนัก ๆ หรือแอปพลิเคชันยอดฮิตในปัจจุบันตัวของ Huawei MatePad Pro 5G ตอบโจทย์ในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี สามารถที่จะเปิดเกมค้างเอาไว้ 2 เกมและไปใช้งานสิ่งอื่น ๆ ต่อได้โดยที่กลับมาเปิดเกมอีกครั้งจะไม่มีการโหลดเข้าเกมใหม่อย่างแน่นอน สามารถปรับกราฟิกทุกอย่างได้สุดเท่าที่ตัวเกมจะมีได้ในทุก ๆ เกมเท่านี้ก็น่าจะตอบโจทย์เกมเมอร์ที่อยากจะได้เครื่องจอใหญ่มาเล่นเกมแบบจุใจกันถ้วนหน้า

และทุกครั้งที่เราพูดถึงอุปกรณ์พกพาของทาง Huawei ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตในรุ่นหลัง ๆ ก็คงต้องบอกว่าการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่าง ๆ จะเป็นการดาวน์โหลดผ่าน App Gallery ของทาง Huawei ที่มาแทนที่ Play Store ที่หายไป แน่นอนว่าแอปพลิเคชันอาจจะไม่มากเท่าแต่ก็ได้ถูกคัดสรรค์มาเป็นอย่างดีว่าใช้งานได้จริง หรือใครที่อยากได้แอปพลิเคชันอื่น ๆ ก็สามารถที่จะหาและติดตั้งผ่านไฟล์ APK ได้เช่นกัน

Huawei MatePad Pro 5G รองรับการใช้งานเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดที่เป็นอุปกรณ์เสริมของทาง Huawei ได้โดยตรง ทำให้สะดวกในการใช้งานแทนโน้ตบุ๊คได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับ M-Pen สำหรับใครที่ชอบวาดหรือจดบันทึกสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วย

บทสรุปของ Huawei MatePad Pro 5G คงต้องบอกว่ามันเป็นแท็บเล็ตที่ครบเครื่องจากฝั่ง Android เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นขนาดของหน้าจอที่เหมาะสม สเปคภายในที่ตอบสนองกับการใช้งานได้ในทุก ๆ รูปแบบจะเล่นเกม โซเขียล ตัดต่อ จดบันทึก สร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ก็สามารถที่จะใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้วยราคา 29,990 บาทถือว่าเป็นราคาที่สมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่จะได้เป็นอย่างดี

จุดเด่น

– การออกแบบที่ดูพรีเมี่ยมและเรียบหรู

– สเปคภายในที่ตอบสนองกับการใช้งานทุกรูปแบบ

– หน้าจอที่ให้ความคมชัดและใช้พลังงานที่น้อยไปในตัว

– การจัดการระบบภายในที่ทำออกมาได้เป็นอย่างดี

– แบตเตอรี่ที่อึดสามารถอยู่ได้ข้ามวัน

– รองรับระบบชาร์จไว 40W

– คุณภาพของเสียงจากลำโพง 4 ตัวที่ชัดเจนในทุก ๆ รายละเอียดของเสียง

– ฟีเจอร์ที่รองรับการใช้งานร่วมกับสิ่งต่าง ๆ ได้

– รองรับการใช้งาน 5G

จุดสังเกต

– จำนวนแอปพลิเคชันที่ไม่สามารถใช้งานได้เทียบเท่ากับเครื่องที่มาพร้อม GMS 

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Huawei แห่งประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง Huawei MatePad Pro 5G มาให้เราได้ทำการทดสอบในครั้งนี้ หากใครที่สนใจแท็บเล็ตเรือธงที่มาพร้อมกับความเป็นที่สุดในการใช้งานก็สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไปหรือทางช่องทางออนไลน์

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : คลิก