Google เปิดตัว Tensor G5 ชิปเรือธงขุมพลัง Pixel 10 Series
TPU แรงขึ้น 60% เปลี่ยนไปใช้ TSMC ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร

Google เปิดตัวชิป Tensor G5 อย่างเป็นทางการในงาน Made by Google 2025 ซึ่งเป็นชิปที่ขับเคลื่อนสมาร์ตโฟนตระกูล Pixel 10 Series โดย Google ระบุว่านี่คือการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชิป Tensor ด้วยประสิทธิภาพ TPU ที่เพิ่มขึ้น 60% และ CPU ทรงพลังกว่าเดิม 34% พร้อมเปลี่ยนผู้ผลิตจาก Samsung มาเป็น TSMC ตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ชิปมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากขึ้น
Tensor G5 ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร (N3E) จาก TSMC ใช้ CPU 8 แกนในสูตร 1+5+2 (Cortex-X4, Cortex-A725, Cortex-A520) รองรับ RAM LPDDR5X และที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 ช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลและการถ่ายโอนข้อมูล การออกแบบชิปเน้นการจัดการความร้อนที่ดีขึ้นผ่านการทำงานร่วมกันของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ทำให้รันงานหนักได้นานโดยไม่ลดประสิทธิภาพ
ด้าน AI ชิป Tensor G5 ได้รับการปรับแต่งร่วมกับทีม Google DeepMind ทำให้รันโมเดล Gemini Nano ได้เร็วขึ้น 2.6 เท่า และประหยัดพลังงานมากขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับ Tensor G4 ฟีเจอร์ AI ใหม่ เช่น Pixel Screenshots, Recorder, และ Voice Translate ทำงานได้ราบรื่นและตอบสนองรวดเร็ว แม้ในอุปกรณ์ที่มี RAM จำกัด การประมวลผล AI บนอุปกรณ์โดยตรงยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้

Tensor G5 มาพร้อม GPU ใหม่ IMG DXT-48-1536 จาก Imagination Technologies ความเร็ว 1.1 GHz รองรับ Ray Tracing และ GPU Virtualization เป็นครั้งแรก ช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมและการทำงานบนเครื่องเสมือน นอกจากนี้ยังใช้ ISP ที่ Google ออกแบบเองทั้งหมด แทนที่การใช้ ISP ที่ปรับแต่งจาก Samsung เพื่อประสิทธิภาพกล้องที่ดีขึ้น
ชิปนี้เลิกใช้ codec วิดีโอ BigWave (AV1) และ MFC ของ Samsung หันมาใช้ WAVE677DV จาก Chips&Media รองรับการเข้ารหัสและถอดรหัสวิดีโอ 4K120 ในรูปแบบ AV1, VP9, HEVC และ H.264 รวมถึงเปลี่ยนไปใช้ส่วนประกอบจากบุคคลที่สาม เช่น VeriSilicon DC9000 สำหรับตัวควบคุมจอภาพ และโมเด็ม MediaTek T900 ที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพื่อประสิทธิภาพการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น
Tensor G5 ถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการพัฒนาชิปแบบ in-house อย่างสมบูรณ์ ช่วยลดข้อจำกัดจากชิป Exynos ของ Samsung และแก้ปัญหาความร้อนและการใช้พลังงานที่เคยเป็นจุดอ่อน ด้วยต้นทุนการผลิตที่คาดว่าอยู่ที่ 65 ดอลลาร์ ชิปนี้ช่วยให้ Pixel 10 Series มีราคาที่แข่งขันได้ พร้อมประสิทธิภาพที่เทียบชั้นชิปเรือธงจากค่ายอื่น