
กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้งาน X รายหนึ่งในอินเดียได้ออกมาแฉเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศูนย์บริการ Google ณ กรุงเดลี โดยเขาไปได้ยินพนักงานศูนย์พูดคุยกับลูกค้าที่นำเครื่อง Pixel มาซ่อมเนื่องจากอาการแบตเตอรี่บวม จนดันฝาหลังเผยอออกมา ซึ่งพนักงานได้สอบถามถึงอุปกรณ์ที่ใช้ชาร์จไฟเป็นอันดับแรก
เมื่อลูกค้าตอบความจริงว่าใช้อะแดปเตอร์ของ Samsung พนักงานกลับฟันธงทันทีว่าเป็นเพราะการใช้ที่ชาร์จผิดประเภท จึงส่งผลให้แบตเตอรี่บวมและเสื่อมสภาพ คำตอบนี้สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ที่ได้ยินและชาวเน็ตอย่างมาก เพราะในทางเทคนิคแล้ว อะแดปเตอร์จากแบรนด์มาตรฐานสากลอย่าง Samsung มักจะจ่ายไฟตามมาตรฐาน USB-PD ที่เป็นสากลและใช้ร่วมกันได้ทั่วโลก
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของพนักงานบางส่วนที่อาจจะปัดความรับผิดชอบ และโยนความผิดให้กับการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงภาระการเคลมประกันหรือการซ่อมฟรี ซึ่งในอินเดียที่ผู้บริโภคบางกลุ่มอาจยังไม่มีความรู้ด้านเทคนิคเชิงลึก การอ้างชื่อแบรนด์คู่แข่งมาเป็นสาเหตุของความเสียหายจึงเป็นวิธีที่พนักงานมักจะใช้เพื่อจบบทสนทนาให้ง่ายที่สุด
ความจริงที่น่าสนใจคือ หากการใช้ที่ชาร์จข้ามยี่ห้อ (Third-party) ทำให้แบตบวมได้จริง ปัญหานี้คงเกิดขึ้นกับคนนับล้านทั่วโลก เพราะปัจจุบันแบรนด์มือถือหลายค่ายเลิกแถมหัวชาร์จมาให้ในกล่อง บังคับให้ผู้ใช้ต้องหาซื้อเองหรือใช้ของเก่าที่มีอยู่ การที่ Google ออกมากล่าวโทษคู่แข่งแบบนี้จึงถูกมองว่าไม่สมเหตุสมผลและขาดความเป็นมืออาชีพอย่างรุนแรง
หากมองย้อนกลับไป มือถือตระกูล Pixel เองก็มีประวัติเรื่องความร้อนและแบตเตอรี่ มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุคที่เครื่องร้อนง่ายจนกล้องตัดการทำงาน ไปจนถึงกรณีรุนแรงถึงขั้นไฟไหม้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า Google ควรหันกลับไปตรวจสอบมาตรฐานการผลิตและคุณภาพของวัสดุภายในเครื่องตัวเอง มากกว่าจะมาคอยจับผิดอุปกรณ์เสริมของลูกค้า
บทเรียนนี้เตือนให้ผู้ใช้ Pixel (และสมาร์ทโฟนทุกแบรนด์) ต้องระวังมากขึ้นเวลาไปรับบริการที่ศูนย์ หากเจอการปฏิเสธการเคลมด้วยเหตุผลแปลกๆ ควรมีการสอบถามถึงมาตรฐานการจ่ายไฟและขอการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะประสบการณ์การบริการที่ย่ำแย่เพียงครั้งเดียว อาจทำให้ Google เสียฐานแฟนคลับไปให้คู่แข่งอย่าง iPhone หรือ Samsung ได้ถาวร







