Google ดัน Opal สู่ Gemini เปลี่ยนผู้ใช้ทั่วไปให้เป็นนักพัฒนาแอป
Vibe-coding แบบไม่ต้องเขียนโค้ด
Google ประกาศนำ Opal เครื่องมือสร้างแอปพลิเคชันแนวใหม่ที่เน้นการใช้ความรู้สึกหรือคำสั่งภาษาธรรมชาติ (Vibe-coding) เข้ามาผสานการทำงานโดยตรงใน Gemini เวอร์ชันเว็บ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถสร้างมินิแอปที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้เองอย่างง่ายดาย โดยแอปเหล่านี้จะถูกเรียกว่า Gems ซึ่งเปรียบเสมือนผู้ช่วย AI เฉพาะทางที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อตอบโจทย์งานบางอย่างโดยเฉพาะ
สำหรับ Gems นั้นถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2024 เพื่อเป็น AI ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น โค้ชการเรียนรู้ หรือที่ปรึกษาด้านอาชีพ แต่การมาของ Opal จะช่วยยกระดับ Gems ให้กลายเป็นมินิแอปที่ซับซ้อนขึ้น ผู้ใช้เพียงแค่อธิบายสิ่งที่ต้องการเป็นภาษาพูดง่ายๆ เช่น สร้างแอปช่วยสรุปคลิป YouTube และเขียนโพสต์ลงโซเชียลให้ด้วย ระบบ Opal จะสั่งการให้โมเดล Gemini ต่างๆ ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโครงสร้างแอปขึ้นมาให้ทันที
การผสาน Opal เข้ากับ Gemini ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเครื่องมือนี้ได้ผ่านหน้า Gems manager บนเว็บ Gemini โดยจะมี Visual Editor ที่แสดงขั้นตอนการทำงาน (Workflow) ของแอปออกมาเป็นลำดับภาพอย่างชัดเจน ช่วยให้เราเห็นว่า AI ทำงานอย่างไรเป็นขั้นเป็นตอน และสามารถขยับ จัดเรียง หรือเชื่อมโยงส่วนต่างๆ ได้ตามใจชอบโดยไม่ต้องแตะโค้ดแม้แต่บรรทัดเดียว
นอกจากความง่ายแล้ว Google ยังเพิ่มความฉลาดให้กับ Visual Editor ด้วยมุมมองใหม่ที่สามารถแปลง คำสั่งข้อความ (Prompt) ของเราให้กลายเป็นรายการขั้นตอนการทำงานที่เข้าใจง่าย ช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีพื้นฐานด้านเทคนิคเห็นภาพรวมและโครงสร้างของแอปได้ชัดเจนขึ้น ลดอุปสรรคสำหรับผู้ที่เริ่มต้นอยากจะมีแอป AI เป็นของตัวเองเพื่อช่วยประหยัดเวลาในชีวิตประจำวัน
สำหรับใครที่ต้องการปรับแต่งฟังก์ชันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น Google ยังเปิดทางให้ไปใช้งานที่ Advanced Editor ผ่านเว็บไซต์ opal.google.com ได้ด้วย ซึ่งมินิแอปที่เราสร้างขึ้นไม่เพียงแต่จะช่วยทำงานซ้ำๆ ได้อย่างแม่นยำ แต่ยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือแชร์ให้คนอื่นได้อีกด้วย ถือเป็นการเปลี่ยนจากการแชตถามตอบธรรมดา ไปสู่การสร้างเครื่องมือถาวร ที่ใช้งานได้จริง
การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนถึงกระแส Vibe-coding ที่กำลังมาแรงในปี 2025 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนบทบาทของมนุษย์จากคนเขียนโค้ดไปเป็นผู้ออกแบบและควบคุม (Orchestrator) แทน ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของเจ้าตลาด AI ทั่วโลกที่ต่างพยายามทำให้เทคโนโลยีเข้าถึงง่ายที่สุด เพื่อให้ทุกคนสามารถเป็น Doer หรือผู้ที่ลงมือสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้ด้วยตัวเอง
