Google แจ้งเปลี่ยนนโยบายส่วนความเป็นส่วนตัวสำหรับ Gemini
เริ่มกระบวนการแทนที่ Google Assistant

Google ส่งอีเมลแจ้งผู้ใช้ Gemini ว่าภายในไม่กี่วันนี้ Gemini จะสามารถช่วยใช้งานแอปต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์, Messages, WhatsApp และ Utilities ได้แม้จะปิดประวัติการสนทนาไว้ ข้อความนี้ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์และคำถามมากมายในวงการโดยเฉพาะเมื่ออีเมลมีประโยคว่า whether your Gemini Apps Activity is on or off ซึ่งฟังดูเหมือน AI กำลังส่องข้อความของคุณแบบไม่ขออนุญาต!
แน่นอนว่าหลายคนตกใจ เพราะดูเหมือนว่า Google อาจเปลี่ยนนโยบายโดยให้ Gemini เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้มากขึ้น แต่พอตรวจสอบจริง พบว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก แค่ปรับการทำงานเล็กน้อยเพื่อให้ Gemini ทำงานแทน Google Assistant ในอนาคตได้สะดวกขึ้น
ก่อนหน้านี้ หากอยากให้ Gemini โทรออกหรือส่งข้อความให้ ต้องเปิด Apps Activity Setting บนบัญชีไว้เสมอ ซึ่งแปลว่าต้องยอมให้ Google เก็บข้อมูลไว้บนเซิร์ฟเวอร์เพื่อฝึกโมเดล AI ด้วย แต่ตอนนี้สามารถใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ได้แม้จะปิดการบันทึกประวัติไว้ และข้อมูลจะถูกเก็บแค่ 3 วันเท่านั้น
Google ยืนยันว่าหากปิดฟีเจอร์นี้ไว้ ข้อมูลจะไม่ถูกนำไปใช้ในการฝึก AI หรือตรวจสอบโดยทีมงาน รวมถึงสามารถปิดการเชื่อมต่อแอปใด ๆ ได้ผ่านเว็บไซต์ gemini.google.com/apps แปลว่าผู้ใช้ยังคงควบคุมได้เอง ไม่โดนบังคับให้แชร์ข้อมูล
สรุปแล้ว ฟีเจอร์ใหม่นี้ไม่ได้เป็นภัยเงียบที่ใครกลัว แต่เป็นการเตรียมทางสำหรับ Gemini แทนที่ Google Assistant บน Android ซึ่งจำเป็นต้องมีความสามารถในการทำงานแทนผู้ใช้ เช่น การตั้งเวลา ส่งข้อความ หรือแม้แต่ค้นหาข้อมูลจากแอปที่ติดตั้งไว้
สำหรับใครที่ใช้ Pixel หรือสมาร์ทโฟน Android ที่มี Gemini อยู่แล้ว ตอนนี้อาจสังเกตได้ว่ามันเริ่มทำแทนหลายอย่างมากขึ้น แต่ก็ยังสามารถเลือกได้ว่าจะเปิดหรือปิดการเชื่อมต่อนั้น