เทคโนโลยี

[รีวิว] EPOS H3 Hybrid

หูฟังเล่นเกมอเนกประสงค์รองรับการเชื่อมต่อกับหลากหลายอุปกรณ์

หูฟังเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่อยู่คู่กับใครหลาย ๆ คนในตอนนี้ ไม่จำกัดเพียงแค่เฉพาะเกมเมอร์อีกต่อไป เพราะในปัจจุบันเราแทบจะเรียกว่ามันเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ขาดไปไม่ได้เสียแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องเดินทางไปไหนมาไหน ซึ่งอุปกรณ์แต่ละอย่างที่จะใช้งานร่วมก็มักจะมีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไปทำให้หูฟังอันเดียวอาจจะเอาไม่อยู่ แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่เป็นปัญหาสำหรับ EPOS H3 Hybrid หูฟังที่มาพร้อมกับการปลดล็อคข้อจำกัดด้านการเชื่อมต่อไปทั้งหมด

Design

สำหรับหูฟัง EPOS H3 Hybrid จะเป็นหูฟังในรูปแบบของ Headphone ซึ่งถูกออกแบบมาให้ลงตัวกับการใช้งาน รูปลักษณ์ภายนอกหากเราจะมองว่าถูกออกแบบมาให้เอาใจเกมเมอร์โดยเฉพาะก็คงไม่ผิดนัก เนื่องจากมีสัดส่วนและมุมตัดต่าง ๆ ที่ดูเป็นเอกลักษณ์

image 1141
image 1142

สำหรับส่วนที่จะสัมผัสกับเราโดยตรงจะใช้งานเป็นวัสดุจำพวก memory foam แน่นอนว่าประโยชน์ที่เราจะได้คือหลังใช้งานแล้วจะมีการคืนรูปได้ตลอด ส่วนที่สัมผัสกับหูของเราจะให้ผิวสัมผัสจำพวกแบบผ้ากํามะหยี่ ใช้งานแล้วไม่รู้สึกระคายบริเวณหู

image 1143
image 1144
image 1145

ด้านบนเป็น memory foam แบบปกติขณะที่ด้านนอกมีการถักลายมาแทนการใช้หนังล้วน ในระยะยาวหมดปัญหาเรื่องของผิวลอกไปได้

image 1146

ในส่วนของระดับหูฟังสามารถที่จะปรับได้ทั้งหมด 10 ระดับ ความคมชัดในการมองเห็นของเลขกำกับบริเวณโครงภายในถือว่าทำออกมาได้ดี

image 1147
image 1148
image 1149

จุดที่น่าสนใจของ EPOS H3 Hybrid คือเรื่องของไมโครโฟนซึ่งสามารถที่จะทำการถอดออกมาเก็บไว้ได้เมื่อไม่ใช่งาน แต่ใช่ว่าการถอดไมโครโฟนออกมาแล้วจะไม่สามารถใช้งานพูดคุยได้ เพราะหูฟังรุ่นนี้มาพร้อมกับไมโครโฟนติดตั้งมาภายในตัวด้วย

image 1150
image 1152

หากใครที่จะถอดไมโครโฟนออกเพื่อใช้งานในระยะยาวก็สามารถที่จะนำแผ่นที่ทาง EPOS ให้มาภายในกล่องเพื่อติดลงไปปิดไม่ให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้

image 1153
image 1154

ซึ่งเจ้าไมโครโฟนที่ติดตั้งมาอยู่บริเวณด้านซ้ายมือของ earcup ใช้ทดแทนกันได้อย่างไม่มีอะไรติดขัด

image 1155

บริเวณ earcup ด้านซ้ายมือมาพร้อมกับปุ่มเปิด/ปิดหูฟัง แถบสำหรับแสดงไฟสถานะ LED พอร์ต USB-C สำหรับต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับและชาร์จหูฟังในตัว  และรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

image 1156

ย้ายไปที่ earcup ด้านขวามาพร้อมกับปุ่มสำหรับใช้งานเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ผ่าน Bluetooth 5.2 โดยที่ด้านนอกเป็นพื้นที่สำหรับการเพิ่ม/ลดเสียงด้วยการหมุนแบบฟรี

image 1157

ในภาพรวมแล้วการออกแบบของ EPOS H3 Hybrid เป็นหูฟังที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ในแต่ละวันอย่างแท้จริง ด้วยอิสระที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นในส่วนของการสามารถถอดหูฟังออกได้ ส่งผลให้การใส่ออกไปใช้งานข้างนอกไม่มีอะไรที่สะดุดสายตาผู้อื่นอีกต่อไป เช่นเดียวกับน้ำหนักของหูฟังที่อยู่ที่ 

Experience

เหตุผลแรกที่จะทำให้เราตัดสินใจเลือกซื้อ EPOS H3 Hybrid อย่างเห็นได้ชัดคงหนีไม่พ้นความหลากหลายในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นพีซี โน้ตบุ๊ค เครื่องเล่นคอนโซลอย่าง PS5, PS4, Xbox Series X, Xbox Series S, Nintendo Switch ล้วนใช้งานได้ทั้งหมด เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ขอเพียงแค่อุปกรณ์ที่จะใช้งานรองรับการเชื่อมต่อผ่านรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร พอร์ต USB-C หรือ Bluetooth หากตรงตามเงื่อนไขสามารถที่จะใช้งานได้ทั้งหมด

image 1158

รายละเอียดของเสียงที่เราได้จากการทดสอบใช้งานพบว่าความคมชัดและรายละเอียดของเสียงที่ได้ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ EPOS ไว้ใจได้ในการเล่นเกม ลองเล่นเกม FPS จำพวก Apex Legends และ Valorant พบว่ารายละเอียดเสียงแม้จะเล็กน้อยก็ยังได้ยินชัด

image 1159

สำหรับการใช้งานร่วมกับพีซีตามคู่มือที่เราได้จากภายในกล่องจะบอกว่าให้เราทำการเชื่อมต่อผ่านสาย USB-C (ไม่ต้องห่วงอีกด้านเป็น USB-A ปกติสามารถต่อเข้ากับด้านหน้าหรือด้านหลังเคสได้ไม่มีปัญหา) หรือถ้าเกิดว่าพีซีใครมีตัวรับสัญญาณ Bluetooth ก็สามารถที่จะเชื่อมต่อผ่านทางนี้ได้เช่นกัน

ในขณะที่อุปกรณ์จำพวกเครื่องเล่นเกมคอนโซลอย่าง PS5, Xbox Series X หรือ Nintendo Switch จะเป็นการเชื่อมต่อผ่านสายหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรที่ติดมากับตัวหูฟัง ส่วนสมาร์ทโฟนจะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth

image 1160

วิธีการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ไม่มีความยุ่งยากใด ๆ เพียงแค่กดปุ่มที่ด้านซ้ายของ earcup เพื่อที่จะเริ่มทำการจับคู่อุปกรณ์จากนั้นสามารถเลือกชื่อหูฟังในรายชื่ออุปกรณ์ Bluetooth บนสมาร์ทโฟนเพื่อเริ่มใช้งานได้ทันที (หรือใครอยากจะเชื่อมต่อผ่านรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรบนสมาร์ทโฟนที่ยังมีอยู่ก็ได้เช่นกัน)

image 1161
image 1162

ในส่วนของลักษณะเสียงที่จะได้เมื่อใช้งานทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเกมถูกออกแบบมาให้อยู่ในจุดตรงกลาง ไม่ได้โดดไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือเราอาจจะเรียกว่าเสียง flat ตามความเข้าใจของหลาย ๆ คนก็ได้ เป็นหูฟังที่ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้งานไม่รู้สึกหนักไปทางใดทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่อยากปรับแต่งก็สามารถที่จะทำได้ผ่านโปรแกรม EPOS Gaming Suite

image 1163
image 1164
image 1165

ภายในโปรแกรมเราสามารถที่จะปรับโทนเสียงต่าง ๆ ได้ค่อนข้างที่จะอิสระ มีโหมด preset ที่เตรียมมาให้คร่าว ๆ แล้ว นอกจากนี้ยังเลือกปรับโหมดการแสดงผลของเสียงระหว่าง 2.0 และ 7.1 ได้อีกด้วย รวมไปถึงการปรับแต่งโทนเสียงที่ต้องการผ่านไมโครโฟนได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามหากเป็นการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนหรือคอนโซลจะไม่ได้มีตัวเลือกในการปรับเสียงตรงนี้เข้ามาให้ใช้งาน แต่ในภาพรวมแล้วก็ถือว่ามีการออกแบบโทนเสียงที่อยู่ตรงกลางเหมาะสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว

image 1166

ไมโครโฟนเป็นอีกเรื่องที่ต้องพูดถึงแน่นอนว่าเวลาที่ใช้งานไมโครโฟนที่ให้กับหูฟังซึ่งเป็นแบบบูมไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องกังวล เสียงที่ได้ออกมาชัดเจนอีกฝ่ายที่สนทนาล้วนการันตีว่าชัดไม่มีอะไรติดขัด (เว้นแต่สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดีแล้วเสียงขาดหายไปเอง) ในทางกลับกันไมโครโฟนที่เป็นแบบติดมากับตัวหูฟังเลยค่อนข้างที่จะให้เสียงที่อยู่ในระดับทั่ว ๆ ไป หากสามารถที่จะใช้งานไมโครโฟนแบบบูมได้ก็ควรที่จะใช้งานเสียดีกว่า

image 1167

หนึ่งในฟีเจอร์ที่ EPOS H3 Hybrid สามารถทำได้อีกอย่างคือเราสามารถที่จะเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์สองเครื่องได้และสามารถที่จะใช้งานตัวหูฟังให้รับเสียงจากทั้งสองอุปกรณ์ได้ โดยที่จะมีการแยกระดับเสียงออกมาแล้วแต่เครื่องได้ทันที อย่างเช่นหากเราทำการเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับพีซีและสมาร์ทโฟน การปรับเสียงเราสามารถที่จะปรับระดับเสียงของหูฟังได้ผ่านการหมุนที่แถบด้านข้างของหูฟังได้เลย แต่บนสมาร์ทโฟนจำเป็นที่จะต้องปรับผ่านตัวเครื่องแทน

ซึ่งการมีฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยทำให้การเล่นและพูดคุยใด ๆ สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องคอยสลับไปมาระหว่างสองเครื่องและเชื่อมต่อสัญญาณใหม่ แต่สามารถใช้งานควบคู่กันไปได้เลย

แบตเตอรี่ของ EPOS H3 Hybrid สามารถที่จะใช้งานได้นานพอสมควร จากการทดสอบด้วยการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth อย่างเดียวใช้งานวันละ 3-4 ชั่วโมง พบว่าสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งสัปดาห์โดยที่ไม่ต้องชาร์จ ซึ่งแม้จะผ่านไปสัปดาห์แบตเตอรี่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่ต้องชาร์จแต่อย่างใด เหลือสบาย ๆ ราว 50 เปอร์เซ็นต์ให้ใช้งานได้ต่ออีกสัปดาห์หากเทียบบัญญัติไตรยางค์ เป็นหูฟังสำหรับใครที่ไม่ชอบการชาร์จบ่อย ๆ

Conclusion

image 1168

บทสรุปของ EPOS H3 Hybrid ถือว่าเป็นหูฟังที่ตอบโจทย์คนที่อยากได้หูฟังคุณภาพสักตัวที่รองรับการใช้งานร่วมกับหลากหลายอุปกรณ์ได้อย่างอิสระ มาพร้อมโหมดการทำงานที่ถูกออกแบบมาแล้วให้สามารถทำงานเข้ากันอย่างลงตัว ด้วยราคาวางจำหน่าย 6,999 บาท

ข้อดี

• ออกแบบมาให้มีภาพลักษณ์ไม่เป็นทรงเกมมิ่งมากจนเกินไป

• ใช้งานได้กับหลากหลายอุปกรณ์

• ไมโครโฟนสามารถถอดออกได้ พร้อมตัวปิดช่องว่างทำให้ใส่ใช้งานภายนอกได้

• คุณภาพเสียงถูกปรับมาให้เหมาะกับการใช้งานรอบด้าน

• มาพร้อมโปรแกรมปรับแต่งลักษณะเสียงให้หลากหลายยิ่งขึ้น

• รองรับการใช้งานการเชื่อมต่อเข้ากับ 2 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน

• แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 40 ชั่วโมง

ข้อสังเกต

• ราคาแอบสูงไปเสียหน่อยแต่หากเทียบกับสิ่งที่ได้มาถือว่าน่าสนใจ

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางบริษัท ซินเน็ค ประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง EPOS H3 Hybrid มาให้เราได้ทดสอบ ใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามช่องทางออนไลน์หรือร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button