
Elon Musk ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเขาออกจากตำแหน่งหัวหน้า Department of Government Efficiency (DOGE) องค์กรภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Donald Trump ที่มีจุดประสงค์เพื่อลดการใช้จ่ายส่วนเกิน, อัปเกรดระบบ IT ของรัฐบาล และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในสหรัฐฯ
ในโพสต์บน X Musk เขียนไว้ว่า เมื่อเวลาที่ผมได้รับในฐานะ Special Government Employee สิ้นสุดลงแล้ว ผมขอขอบคุณประธานาธิบดี @realDonaldTrump สำหรับโอกาสในการช่วยลดงบประมาณที่ไร้ประโยชน์ ภารกิจของ DOGE จะเติบโตไปเรื่อย ๆ เพราะมันจะกลายเป็นวัฒนธรรมการทำงานของรัฐบาล
แม้ Musk จะดำรงตำแหน่งแค่ 130 วันตามกฎหมายกำหนด แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา DOGE ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง ปลดพนักงานรัฐหลายแสนคน ยกเลิกสัญญาที่ถูกมองว่าไม่จำเป็นและเข้าไปแทรกแซงภายในหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อปรับโครงสร้างการทำงาน
อย่างไรก็ตาม แนวทางของเขาและ Vivek Ramaswamy ซึ่งเคยเป็น Co-Chairman ก่อนลาออกเพื่อแข่งเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ ถูกมองว่าเป็นแบบ slashing and burning คล้ายสไตล์การบริหารของเขาเองที่เคยใช้กับ X
ผลลัพธ์ของการตัดงบและการปลดพนักงานบางส่วนกลับกลายเป็นความโกลาหล เช่น พนักงานที่ถูกปลดมีบทบาทสำคัญโดยไม่คาดคิด บางคนต้องถูกเรียกกลับเข้าทำงานใหม่และในบางกรณี ศาลต้องเข้ามาสั่งให้ฟื้นฟูตำแหน่งเดิมของพนักงานที่ถูกไล่ออก
DOGE ยังได้รับการอนุญาตจากศาลให้เข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อมูลพนักงานรัฐบาลกลาง เอกสารการเงินจากกระทรวงการคลัง
แม้จะมีเสียงคัดค้านจากอัยการสูงสุดของ 19 รัฐ แต่ศาลยังคงอนุมัติคำร้องของ DOGE ไว้ แม้จะมีคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและกฎหมายที่ยังคาใจอยู่
DOGE ยังมีแผนนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในกระบวนการบริหาร เช่น VAGPT แชทบอทแบบ custom บน ChatGPT เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้บริการของ Veterans Affairs การตรวจสอบการสื่อสารภายในหน่วยงานรัฐเพื่อหาเนื้อหาที่วิพากษ์วิจารณ์ Musk หรือประธานาธิบดี Trump และเมื่อเดือนที่แล้ว มีรายงานว่า Social Security Administration กำลังย้ายการสื่อสารสาธารณะไปใช้ X ทั้งหมด ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของ Musk เอง
Musk เป็น Special Government Employee ซึ่งสามารถดำรงตำแหน่งได้เพียง 130 วันในหนึ่งปี และเขามาถึงขีดจำกัดนี้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แม้เขาจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป แต่ DOGE จะยังคงดำเนินการต่อไปจนถึง 4 กรกฎาคม 2026
ขณะที่ Musk ออกจาก DOGE เขาเผชิญกับความท้าทายในบริษัทของตนเอง โดยเฉพาะ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla ในยุโรปลดลงถึง 50% ระหว่างเดือนเมษายน 2024 ถึงปัจจุบัน แม้ตลาด EV จะเติบโตถึง 28% ในควิเบก ตลาดที่เป็นมิตรกับ EV มากที่สุดในแคนาดายอดขาย Tesla ลดลงถึง 87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน
หลายคนเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้อาจเชื่อมโยงกับ ภาพลักษณ์ของ Elon Musk และความเกี่ยวข้องกับ Trump และ DOGE
ปฏิกิริยาจากเจ้าของรถ Tesla ก็หลากหลาย บางคนติดสติกเกอร์บนรถเพื่อแยกตัวออกจาก Musk บางคนขายรถออกไป แม้จะขาดทุนจากการลดลงของมูลค่า บางรายออกมาประท้วงที่โชว์รูม และแน่นอน Cybertruck ถูกวิจารณ์หนักทั้งในเรื่องการออกแบบและประสบการณ์การใช้งาน
แม้จะไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง แต่ SpaceX ของ Musk ก็เจอปัญหาในช่วงทดสอบ Starship ครั้งล่าสุด ยานไปถึงอวกาศได้ แต่ payload door ติดขัด Super Heavy Booster ที่เพิ่งถูกใช้งานซ้ำหลังทดสอบสำเร็จครั้งที่ 7 ก็เกิดระเบิดหลังจาก launch ได้เพียง 6 นาที
เหตุการณ์นี้ถูกเรียกว่า rapid unscheduled disassembly แทนคำว่าระเบิดซึ่งสะท้อนความพยายามของบริษัทในการนำเสนอปัญหาอย่างตรงไปตรงมา แต่ยังคงความเป็นมืออาชีพ
ในช่วงเวลาที่เตรียมออกจาก DOGE Musk ยังแสดงความไม่พอใจต่อ One Big Beautiful Bill Act ที่เพิ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรสหรับสหรัฐฯ เขาให้สัมภาษณ์ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ทำลายความพยายามของ DOGE
เพราะมันจะยกเลิกส่วนลดด้านพลังงานสะอาด, รวมถึงสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla เองเคยออกแถลงการณ์ว่า การยกเลิกเครดิตภาษีพลังงานจะทำให้สหรัฐฯ ชะลอความมั่นคงด้านพลังงานและเสถียรภาพของระบบไฟฟ้า