แอปพลิเคชันส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกปรับปรุงให้เหมาะกับการแสดงผลใน Vision Pro
ใช้การแสดงผลเดียวกันกับที่อยู่ใน iPhone และ iPad แทน
การมาถึงของ Vision Pro เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย อย่างไรก็ตามในแง่ของสถานการณ์แอปพลิเคชันที่รองรับก่อให้เกิดคำถามมากมายขึ้น รายงานล่าสุดจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg ได้เผยว่ามีแอปพลิเคชันที่รองรับมากกว่า 1 ล้านแอปพลิเคชัน อย่างไรก็ตามเกือบทั้งหมดจะแสดงผลในรูปแบบเดียวกันกับที่มีอยู่ใน iPad หรือ iPhone รวมไปถึงแอปพลิเคชันจาก Apple โดยตรงอย่าง Podcasts และ Calendar
การตัดสินใจในครั้งนี้ของบริษัทเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจไม่น้อยว่าทำไม Apple ถึงไม่ยอมปรับปรุงการทำงานของแอปพลิเคชันที่ตัวเองเป็นผู้ดูแลให้เหมาะสมกับประสบการณ์ใช้งานในโลกเสมือน แต่แทนที่ด้วยการใช้งานระบบสัมผัสทั่วไปมาแสดงผลกับอุปกรณ์ที่มีลูกเล่นและรองรับการทำงานในราคากว่า $3,500
ขณะเดียวกันทาง Gurman ให้ความเห็นว่าการที่แอปพลิเคชันในภาพรวมของ Vision Pro ไม่ได้ออกมารองรับทั้งหมดเนื่องจากนักพัฒนาไม่ค่อยพอใจนักกับส่วนที่ต้องเสียให้กับ App Store 30 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับการที่ทาง Apple จำกัดผู้ใช้งานกลุ่มแรกสำหรับอุปกรณ์เอาไว้ที่ 80,000 ราย ตามจำนวนการผลิตที่ถูกผลิตออกมาเท่านั้น จึงอาจเป็นเรื่องยากที่นักพัฒนาจะให้ความสนใจกับกลุ่มผู้ใช้งานที่มีอยู่อย่างจำกัดและไม่คุ้มกับเวลาที่ต้องเสียไป
เช่นเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง YouTube และ Netflix ที่ไม่ปรับปรุงแอปพลิเคชันของตัวเองใหม่เพื่อที่จะรองรับการทำงานร่วมกับ Vision Pro ทำให้ต้องไปเรียกการใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ Safari ที่รองรับการใช้งานตัวเล่นสื่อ 4K ภายในตัวแทน ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าทาง Apple จะสามารถดึงดูดนักพัฒนาให้หันมาปรับปรุงแอปพลิเคชันของตัวเองให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ได้หรือไม่
