เทคโนโลยี

iPhone 17 Pro Max ถูกดัดแปลงด้วยฮีตซิงก์ SSD

ช่วยถ่ายวิดีโอ ProRes นานขึ้นโดยไม่ร้อนจัด

ผู้ใช้ Reddit ชื่อ T-K-Tronix ได้โชว์ผลงานดัดแปลง iPhone 17 Pro Max โดยนำฮีตซิงก์แบบ Passive จาก SSD หลายชิ้นมาติดตั้งรวมกันที่ด้านหลังเครื่อง ผลจากการทดสอบ 3DMark Steel Nomad Light Stress Test พบว่าคะแนนพุ่งสูงเกิน 90% ซึ่งถือเป็นการยกระดับประสิทธิภาพที่ชัดเจนสำหรับการใช้งานหนักต่อเนื่อง

การปรับแต่งนี้เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความร้อนสูงขณะบันทึกวิดีโอ Apple ProRes ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ใช้พลังประมวลผลสูงมาก หากใช้งานนาน ๆ โดยไม่ระบายความร้อนให้ดี เครื่องจะร้อนจัดและลดประสิทธิภาพลง T-K-Tronix ใช้ฮีตซิงก์และท่อทองแดงจาก SSD M.2 หลายตัว เพื่อช่วยกระจายความร้อนผ่านโครงอลูมิเนียมของเครื่องให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แม้เจ้าของโพสต์จะไม่ได้เผยผลทดสอบก่อนติดตั้ง แต่มีการอ้างอิงข้อมูลจากช่อง Max Tech บน YouTube ที่ทดสอบ iPhone 17 Pro Max ได้คะแนนเสถียรภาพเพียง 69.4% ในทดสอบเดียวกัน โดยคะแนนสูงสุดอยู่ที่ 2,318 และต่ำสุด 1,608 แสดงให้เห็นว่าการโมดิฟายครั้งนี้ช่วยเพิ่มคะแนนสูงสุดเป็น 2,712 หรือดีขึ้นกว่า 21% เลยทีเดียว

apple-iphone-17-pro-max-clock-stable

เมื่อเทียบกันชัด ๆ ชุดระบายความร้อน SSD ของ T-K-Tronix ช่วยยกระดับเสถียรภาพจาก 69.4% เป็น 90.5% ทำให้ iPhone 17 Pro Max ทำงานลื่นไหลยาวนานขึ้นทั้งการถ่ายวิดีโอ ProRes หรือเล่นเกมกราฟิกหนัก โดยไม่เกิด thermal throttling ที่รบกวนประสิทธิภาพ

iPhone 17 Pro Max รุ่นล่าสุดของ Apple มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่เปลี่ยนฝาหลังจากแก้วทั้งแผ่นเป็นโครงอลูมิเนียมแบบ Unibody เหลือกระจกเฉพาะส่วนสำหรับ MagSafe และ Wireless Charging ภายในขับเคลื่อนด้วยชิป A19 Pro ที่แรงเทียบชั้น CPU เดสก์ท็อป AMD Ryzen 9 9950X และเพิ่มระบบ Vapor Chamber ครั้งแรก โดยใช้น้ำดีไอออไนซ์กระจายความร้อนผ่านโครงอลูมิเนียม ซึ่ง Apple เคลมว่าเย็นกว่ารุ่นไทเทเนียม (iPhone 15 Pro และ 16 Pro) ถึง 20 เท่า

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักโมดิฟายตัวยงอย่าง T-K-Tronix ระบบ Vapor Chamber ยังไม่เพียงพอ การติดฮีตซิงก์ SSD เพิ่มจึงช่วยผลักดันเสถียรภาพได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในงานถ่ายวิดีโอโปร แม้ผลทดสอบจะน่าประทับใจ แต่ชุดระบายความร้อนขนาดใหญ่ทำให้เครื่องดูเทอะทะและใช้งานในชีวิตประจำวันได้ลำบาก หากออกแบบให้ถอดเข้าออกง่าย เช่น แบบ MagSafe อาจได้รับความนิยมมากขึ้น

T-K-Tronix เองย้ำในกระทู้ Reddit ว่า “มันมีประโยชน์จริงก็ต่อเมื่อคุณใช้ iPhone ถ่ายวิดีโอระดับโปรและใส่ใน Cage ไม่ใช่เคสทั่วไป” ชี้ให้เห็นว่านวัตกรรมนี้ยังคงเป็นของเล่นสำหรับมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป แม้จะพิสูจน์ศักยภาพของ A19 Pro แต่ก็สะท้อนข้อจำกัดด้านความร้อนในสมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่ยังต้องพึ่งพาการโมดิฟายเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ที่มา
Tomshardware

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button