Apple Cinemas ตอบโต้คดี Apple ฟ้องละเมิดเครื่องหมายการค้า

Apple Cinemas โรงภาพยนตร์ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Apple Inc. ออกมาประกาศจุดยืนในการปกป้องแบรนด์ของตน หลังถูก Apple ฟ้องร้องในข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้า จากรายงานของ The Verge และโพสต์บน X Apple อ้างว่า ชื่อ Apple Cinemas ทำให้ผู้บริโภคสับสน คิดว่าโรงภาพยนตร์แห่งนี้มีความเชื่อมโยงกับบริษัทเทคโนโลยี โดยเฉพาะเมื่อ Apple Cinemas มีแผนขยายสาขาไปถึง 100 แห่ง รวมถึงที่ตั้งใกล้สำนักงานใหญ่ของ Apple ในคูเปอร์ติโน

Apple ยื่นฟ้อง Sand Media เจ้าของ Apple Cinemas ในเดือนสิงหาคม 2025 โดยระบุว่า การใช้ชื่อ Apple อาจทำให้ลูกค้าคิดว่าบริการโรงภาพยนตร์มีความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Apple เช่น Apple TV+ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์แบรนด์ Apple ยังชี้ว่า การขยายสาขาของ Apple Cinemas โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้คูเปอร์ติโน เป็นการจงใจใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงของ Apple

ในแถลงการณ์ตอบโต้ Apple Cinemas ระบุว่า พวกเขามุ่งมั่นปกป้องแบรนด์และจะต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ โดยยืนยันว่า ชื่อ Apple Cinemas ไม่ได้มีเจตนาทำให้เกิดความสับสน และเน้นย้ำถึงความแตกต่างในอุตสาหกรรมระหว่างโรงภาพยนตร์กับเทคโนโลยี ทางโรงภาพยนตร์ยังชี้ว่า ได้ใช้ชื่อนี้มานานโดยไม่เคยมีปัญหากับ Apple มาก่อน จนกระทั่งมีการขยายสาขา

การฟ้องร้องครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการที่ Apple เองก็เผชิญกับข้อกล่าวหาเรื่องพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขันในกรณีอื่น ๆ เช่น คดีกับ Epic Games ที่เกี่ยวกับการควบคุม App Store ซึ่งอาจทำให้การฟ้องร้อง Apple Cinemas ถูกมองว่าเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางกฎหมายของ Apple บางฝ่ายใน X มองว่า Apple พยายามผูกขาดการใช้คำว่า Apple ซึ่งอาจถูกมองว่าเกินกว่าเหตุ

Apple Cinemas ซึ่งดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา มีสาขาในหลายรัฐ เช่น แมสซาชูเซตส์ และคอนเนตทิคัต โดยมีจุดเด่นที่การนำเสนอภาพยนตร์หลากหลาย รวมถึงภาพยนตร์อินเดียและภาพยนตร์อิสระ ซึ่งแตกต่างจากบริการสตรีมมิ่งของ Apple การฟ้องร้องนี้จึงถูกมองว่าเป็นความพยายามของ Apple ในการปกป้องแบรนด์ในวงกว้างมากกว่าการแข่งขันโดยตรง

คดีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น และยังไม่มีการตัดสินอย่างเป็นทางการ คาดว่าการต่อสู้ทางกฎหมายจะยืดเยื้อ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยืนกรานในจุดยืนของตน Apple Cinemas อาจใช้กลยุทธ์เน้นความแตกต่างของธุรกิจเพื่อต่อสู้ในชั้นศาล ขณะที่ Apple อาจพยายามพิสูจน์ว่าชื่อดังกล่าวส่งผลกระทบต่อแบรนด์ของตนจริง การพัฒนาคดีนี้จะเป็นที่จับตาในวงการธุรกิจและกฎหมายเครื่องหมายการค้า