เทคโนโลยี

Amazon เปิดตัวฟีเจอร์ Video Recaps ใน Prime Video

นำ AI มาช่วยสรุปเนื้อหาที่ได้รับชม

Amazon นำเสนอฟีเจอร์ Video Recaps ใน Prime Video ที่ใช้ generative AI สร้างคลิปสรุปเนื้อหาแบบวิดีโอคุณภาพสูง โดยรวมการเล่าเรื่อง เสียงบรรยาย ตัวอย่างบทสนทนา และดนตรีประกอบ เพื่อช่วยผู้ชมทบทวนเหตุการณ์สำคัญก่อนดูซีซันใหม่ ฟีเจอร์นี้เริ่มทดสอบแบบเบต้าในสหรัฐอเมริกาบนอุปกรณ์ทีวีเชื่อมต่อ โดยครอบคลุมซีรีส์ออริจินัลภาษาอังกฤษชุดแรกอย่าง Fallout, Tom Clancy’s Jack Ryan, Upload, Bosch และ The Rig ผู้ใช้เข้าถึงได้ผ่านปุ่ม Recap บนหน้าข้อมูลซีรีส์ ซึ่งนำเสนอตัวเลือกสรุปทั้งแบบวิดีโอและข้อความ

Video Recaps ถือเป็นก้าวสำคัญจาก X-Ray Recaps ที่เปิดตัวปี 2024 ซึ่งเป็นสรุปแบบข้อความปราศจากสปอยล์ โดย AI วิเคราะห์พล็อตหลักและเส้นเรื่องตัวละครเพื่อเลือกฉากเด่นและสร้างคลิปสั้น ๆ ที่เหมือนเทรลเลอร์มินิ Amazon ระบุว่าการผลิตแต่ละคลิปผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน เพื่อให้เนื้อหา resonate กับผู้ชม โดยเริ่มต้นจากอุปกรณ์ในห้องนั่งเล่น และจะขยายสู่แพลตฟอร์มอื่น ๆ ในเดือนข้างหน้า ฟีเจอร์นี้ตอบโจทย์ผู้ชมที่ลืมเนื้อเรื่องหลังเว้นช่วงนาน โดยไม่ต้องเสี่ยงสปอยล์จากอินเทอร์เน็ต

การขยับจากสรุปข้อความสู่รูปแบบวิดีโออาจเพิ่มความสะดวก แต่ก็ทำให้บางคนมองว่านวัตกรรมนี้รุกล้ำประสบการณ์การดูมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ AI เข้าถึงเนื้อหาลึกซึ้งเพื่อสร้างคลิปใหม่ ผู้บริโภคคุ้นเคยกับสรุป AI จากมือถือหรือผลค้นหา แต่ Video Recaps อาจกลายเป็นเครื่องมือหลักสำหรับซีรีส์ยาวอย่าง Bosch ที่ผู้ชมมักลืมจุดเชื่อมโยง อย่างไรก็ตาม Amazon ย้ำว่าฟีเจอร์นี้เน้น personalization เพื่อให้เหมาะกับจุดที่ผู้ชมหยุดดูครั้งล่าสุด

amazon-video-recaps-features-on-prime

คู่แข่งอย่าง YouTube TV ก็ใช้ AI ในฟีเจอร์ Key Plays เพื่อสรุปเหตุการณ์สำคัญในกีฬาแบบเรียลไทม์ ช่วยผู้ชมไล่ตามแม้เริ่มดูช้า โดยได้รับรางวัล Technical Emmy สาขา AI-ML Curation of Sports Highlights ในปี 2023 ฟีเจอร์นี้ถูกใช้งานกว่า 10 ล้านครั้งในปีนั้น โดยครอบคลุม NFL, Premier League และ World Cup แม้ยังมีจุดอ่อนอย่างการจับเบสบอลไม่แม่นยำ แต่ก็แสดงให้เห็นศักยภาพ AI ในการยกระดับการรับชมสด โดยขยายสู่ข่าวสารและแฟนตาซีฟุตบอล

Netflix เดินหน้าทดลอง AI ในโปรดักชันจริงจัง โดยใช้ generative AI สร้างฉากอาคารถล่มใน The Eternaut ลดเวลาผลิตลง 10 เท่าและประหยัดต้นทุน หรือย้อนวัยตัวละครใน Happy Gilmore 2 เพื่อฉากเปิดเรื่องที่สมจริง ขณะที่ Billionaires’ Bunker ใช้ AI ในขั้น pre-production เพื่อวางแผนเสื้อผ้าและฉาก Netflix มองว่าเทคนิคเหล่านี้ช่วยเสริม creativity ภายใต้การควบคุม โดยไม่แทนที่มนุษย์ แต่ยังคงเป็นเครื่องมือจำกัดเพื่องานซับซ้อน

การรุกของ AI ในสตรีมมิงจุดถกเถียงรุนแรง โดยศิลปินกังวลว่าผลงานถูกใช้ฝึกโมเดลโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลกระทบรายได้และอาชีพระยะยาว ตัวอย่างเช่น Spotify เผชิญ boycott จากวงอย่าง King Gizzard & the Lizard Wizard และ Deerhoof เนื่องจาก CEO ลงทุนใน AI ทหาร และปัญหา AI-generated bands ที่แย่ง royalties จนศิลปิน indie ถูกแบนโดยพลการ แม้บางฝ่ายมองว่า AI ลดงาน routine เพื่อให้ศิลปินโฟกัส creativity แต่หลายคนเรียกร้องกฎระเบียบเพื่อปกป้องสิทธิ์ โดย Spotify เพิ่มการตรวจจับ fraud และ labeling AI content เพื่อสร้างความโปร่งใส

ที่มา
Techcrunch

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button