สมาร์ทโฟนราคาพุ่งรับศึก AI ผู้ผลิตจีนเผชิญวิกฤตต้นทุนชิปหน่วยความจำ

รายงานล่าสุดชี้ว่าสมาร์ทโฟนอาจแพงขึ้นในอนาคตอันใกล้ หลังผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Xiaomi OPPO และ Vivo เผชิญต้นทุนชิปหน่วยความจำที่พุ่งสูง จากกระแส AI ที่ผลักดันให้ผู้ผลิตชิปอย่าง Samsung และ Micron หันไปทุ่มกำลังผลิตให้ลูกค้าดาต้าเซ็นเตอร์มากขึ้น ส่งผลให้ราคา RAM และ Storage สำหรับมือถือปรับตัวสูงต่อเนื่อง ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายแพงกว่าหรือได้สเปกลดลง

ตาม Jiemian News ที่อ้างผ่านแหล่งข่าว ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนหลายรายหยุดสั่งซื้อหน่วยความจำจาก Samsung และ Micron ชั่วคราว เนื่องจากราคาที่ปรับขึ้นแรงเกินรับไหว ตัวแทนจากบริษัทหนึ่งระบุว่าตอนนี้ต้องเลือกระหว่างลดสเปกหรือขึ้นราคาสำหรับรุ่นใหม่ ซึ่งทั้งสองทางล้วนกระทบผู้ใช้โดยตรง โดยเฉพาะในตลาดที่แข่งขันดุเดือด

สาเหตุหลักมาจากดีมานด์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่โตทะลุเพดาน โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ต้องการ RAM ปริมาณมหาศาล ขณะที่กำลังผลิตของผู้ผลิตหน่วยความจำมีจำกัด เมื่ออุปสงค์เกินอุปทาน ราคาจึงพุ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยรายงานจาก Digitimes คาดการณ์ว่าต้นทุน NAND และ DRAM จะเพิ่มขึ้น 15-20% ในไตรมาสสี่ปี 2025

ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ยอมจ่ายแพงกว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ส่งผลให้ซัพพลายเออร์เสนอราคาให้ลูกค้าดาต้าเซ็นเตอร์สูงกว่าราคาเดิมถึง 30% หรือมากกว่า ธุรกิจจึงหันไปขายให้ลูกค้าที่จ่ายสูงกว่า ทำให้ผู้ผลิตมือถือยิ่งกดดันหนัก โดย Xiaomi เองยอมรับว่าต้นทุนชิปหน่วยความจำที่พุ่งสูงกำลังผลักดันราคาสมาร์ทโฟนให้แพงขึ้น

ผลกระทบต่อตลาดสมาร์ทโฟนอาจเห็นชัดในปี 2026 โดยเฉพาะรุ่นเรือธงที่ใช้ LPDDR5X RAM ซึ่งอาจขาดแคลนจากดีมานด์ HBM สำหรับ AI ผู้ผลิตจีนอย่าง Xiaomi ได้ปรับราคาลดลงชั่วคราวสำหรับรุ่น K90 เพื่อดึงดูดลูกค้า แต่แนวโน้มโดยรวมชี้ว่าผู้ใช้หลีกเลี่ยงผลกระทบได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นราคาแพงขึ้นหรือสเปกที่ถูกลดทอน

สถานการณ์นี้สะท้อนความท้าทายในอุตสาหกรรมที่ AI กำลังครอบงำ โดยผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต้องหาทางปรับตัว เช่น ลดการพึ่งพาชิปจากซัพพลายเออร์รายเดียว หรือเร่งพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ เพื่อบรรเทาความเสี่ยง แต่ในระยะสั้น ผู้บริโภคคงต้องเตรียมใจรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจทำให้การอัปเกรดมือถือแพงกว่าที่เคย