สกู๊ปพิเศษ

ไกด์แนะนำดันเจี้ยนแต่ละประเภทใน Diablo IV

แตกต่างกันยังไง ลงอันไหนถึงจะคุ้ม

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว Diablo IV ทุกท่านครับ เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะกำลังเริ่มเล่นเกมนี้กันมาประมาณนึงแล้ว และหลายคนอาจจะกำลังสับสนอยู่ว่าดันเจี้ยนที่เราได้เล่นภายในเกมนี้ มีดันเจี้ยนกี่ประเภท อะไรที่เราควรลงไปเคลียร์ ลงอันไหนถึงจะคุ้ม แน่นอนว่าปลายทางถ้าเก็บได้หมดมันก็ดีที่สุดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราควรโฟกัสกับสิ่งไหนเป็นอันดับแรก มาชมกันครับ

Story Dungeon

image 2523

ดันเจี้ยนเนื้อเรื่องในเกมนี้จะมีสัญลักษณ์แปลก ๆ ปรากฎอยู่บนแผนที่ จะเป็นลักษณะรูปร่างไม่เหมือนสัญลักษณ์อื่น ๆ หรือบางอันก็เป็นสัญลักษณ์ดันเจี้ยนแต่มีสีเหลือง ซึ่งมักจะเป็นดันเจี้ยนที่เราจะได้เข้าไปก็ต่อเมื่อมีเนื้อเรื่องให้เล่นในนั้น บางอันก็เข้าได้ครั้งเดียว บางอันก็เข้าได้เรื่อย ๆ ด้านในมักจะมีกลุ่มมอนสเตอร์อยู่ และมี NPC เนื้อเรื่องอยู่จำนวนหนึ่ง ถ้าเป็นการเล่นครั้งแรกก็จะมีคัตซีนหรือบอสที่รอคุณอยู่ที่ปลายทาง แต่ถ้าคุณเคยผ่านมาแล้วรอบนึงแต่มาลงอีก ก็จะไม่มีบอสเนื้อเรื่องรออยู่เหมือนตอนครั้งแรกครับ ซึ่งแน่นอนว่าดันเจี้ยนชนิดนี้มักจะมีหลายชั้น ไม่จบเพียงแค่ชั้นเดียวเหมือนดันเจี้ยนทั่วไป หรืออาจจะถูกแทรกด้วยคัตซีนตลอดการเดินเรื่อง

Quest Dungeon

image 2522

เควสต์ดันเจี้ยนจะเป็นดันเจี้ยนที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปดันเจี้ยนสีฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่จะปรากฎไม่เยอะบนแผนที่ บางครั้งอาจหายไปหลังจากเควสต์จบลง มักจะสามารถเข้าไปได้เนื่องจากรับ Side Quest บางอย่างมา แล้วดันเจี้ยนจึงถูกเปิดออกให้เข้าไปเคลียร์ ส่วนมากจะเป็นการลงครั้งเดียวแล้วจบ ไม่สามารถลงซ้ำได้ จนกว่าจะมีเควสต์อะไรที่ส่งเรามาที่นี่อีกครั้งถึงจะลงได้ ด้านในมักจะเป็นดันเจี้ยนขนาดกลาง ใช้เวลาในการเคลียร์ไม่นานเท่าดันเจี้ยนปกติ แต่ก็จะเร็วกว่าพวกดันเจี้ยนห้องเดี่ยวที่โผล่มาให้เห็น รูปแบบของดันเจี้ยนมักจะเป็นการต่อสู้ฝ่าฝูงมอนสเตอร์ไปยังส่วนที่ลึกที่สุดเพื่อพบกับเควสต์ที่รับไว้ ส่วนใหญ่มักจะเป็นบอสในห้องสุดท้าย ถ้าเอาชนะบอสได้ก็เท่ากับว่าส่งเควสต์ได้ครับ

Cellar Dungeon

image 2521

ดันเจี้ยนชนิดนี้น่าจะเรียกเป็นภาษาไทยว่า “ห้องใต้ดิน” ซึ่งเป็นดันเจี้ยนขนาดเล็ก ปรากฎเป็นสัญลักษณ์รูปฝาประตูห้องใต้ดินบนแผนที่ เมื่อเราเข้าไปด้านในก็จะปรากฎเป็นพื้นที่หลายรูปแบบ อาจจะเป็นบ้านหรืออาจจะเป็นถ้ำก็เป็นไปได้เช่นกัน ด้านในไม่มีอะไรมาก แค่ห้องแคบ ๆ ที่มีฝูงมอนสเตอร์อยู่เต็มไปหมด เมื่อเราสามารถกำจัดมอนสเตอร์บอสภายในห้องได้ก็จะปรากฎหีบสมบัติออกมาให้เราเปิดรับไอเทม ถือว่าเป็นดันเจี้ยนสั้น ๆ ที่มีอยู่ห้องเดียว บางครั้ง Cellar Dungeon อาจจะมาพร้อมกับเนื้อเรื่องย่อยในตัวของมันเอง เช่น มีลัทธิบูชาปีศาจกำลังทำพิธีกรรมอัญเชิญปีศาจอยู่ หรือบางครั้งเราอาจจะเจอกลุ่มคนที่กำลังตกอยู่ในอันตรายแล้วเราเข้าไปช่วยพอดีก็มี ดันเจี้ยนประเภทห้องใต้ดินนี้สามารถรีเซ็ตได้ตลอดเวลา แค่ออกเข้าเกมใหม่ก็รีเซ็ตเรียบร้อยแล้ว เพราะงั้นเราสามารถฟาร์มโดยการเข้าออกเกมได้เรื่อย ๆ เช่นกัน

Normal Dungeon

image 2520

ดันเจี้ยนปกติจะมีให้พบเห็นโดยทั่วไปบนแผนที่ โดยจะมีสัญลักษณ์รูปกรงเหล็กสีขาวปรากฎอยู่บนแผนที่เต็มไปหมด เมื่อเข้าสู่ดันเจี้ยนชนิดนี้จะกินเวลานานประมาณหนึ่ง อย่างเร็วหน่อยก็อาจจะสัก 15-20 นาที ถ้าไปคนเดียวแล้วยากหน่อยก็อาจจะเกิน 30 นาทีได้เหมือนกัน ด้านในจะเป็นพื้นที่แคบแต่มีทางยาว อาจเป็นคุกใต้ดิน ปราสาท ถ้ำ หรือโบราณสถานบางอย่าง ด้านในจะแออัดไปด้วยฝูงมอนสเตอร์และมีบอสหรือตัว Elite อยู่จำนวนมาก โดยเป้าหมายของดันเจี้ยนมักจะเป็นการเอาชนะบอสที่อยู่ปลายทาง หรืออาจจะเป็นการทำลายรังมอนสเตอร์ หรืออาจจะช่วยเหลือผู้รอดชีวิตก็ได้เช่นกัน เมื่อเคลียร์เสร็จแล้วก็จะถือว่าดันเจี้ยนนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี สามารถรีใหม่ได้ทุกครั้งเมื่อเข้าออกเกม

image 2519

Normal Dungeon ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือสิ่งที่เรียกว่า Aspect ซึ่งจะเป็นโบนัสพลังเสริมที่เอาไว้ติดตั้งลงบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเรา ซึ่งแต่ละดันเจี้ยนจะมี Aspect แตกต่างกันไปตามอาชีพ ถ้าคุณเคลียร์ดันจี้ยนสำเร็จ Aspect ประจำดันเจี้ยนนี้ก็จะอยู่ติดตัวคุณตลอดไป ดังนั้นคุณควรจะโฟกัสไปที่ดันเจี้ยนที่มี Aspect ประจำอาชีพคุณให้ครบ ถ้ารีบก็อย่าเพิ่งไปฟาร์มดันเจี้ยนอาชีพอื่น เก็บเฉพาะอาชีพที่เราเล่นเพื่อนำ Aspect ไปใช้งานก่อน แล้วพออยากเก็บเลเวลหรือฟาร์มกับเพื่อนค่อยไปลงดันเจี้ยนอาชีพอื่นก็ยังไม่สายครับ

นอกจากนี้ Normal Dungeon ยังเป็นแหล่งฟาร์มชั้นยอด เนื่องจากรางวัลจบดันเจี้ยนนั้นจะได้รับ EXP จำนวนหนึ่ง และถ้าเราสามารถหาดันเจี้ยนที่สามารถเคลียร์มอนสเตอร์ได้เร็ว ดันเจี้ยนไม่ยาวมาก และเล่นกันเป็นปาร์ตี้ มากับเพื่อน 4 คน ฝ่าตะลุยเหมือนล้างบางดันเจี้ยนก็จะผ่านได้อย่างรวดเร็ว แถมคุณสามารถใช้กลยุทธ์เข้าออกเกมใหม่หน้าดันเจี้ยนเพื่อรีดันเจี้ยนแล้วลงใหม่ซ้ำอีกครั้งเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ ได้ทั้งไอเทม ได้ทั้ง EXP ระหว่างทาง และ EXP หลังเคลียร์ดันเจี้ยน การเก็บเลเวลและฟาร์มของจะเป็นอะไรที่รวดเร็วขึ้นมาก

Stronghold

image 2518

Stronghold จะมีสัญลักษณ์รูปบ้านหัวกระโหลกสีแดง โดยส่วนใหญ่ Stronghold มักจะมีเลเวลที่สูงกว่าตัวละครผู้เล่นประมาณ 2-3 เลเวลเสมอ นั่นหมายความว่าเป็นดันเจี้ยนแบบยากที่ควรร่วมงานกันเป็นปาร์ตี้จะเกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า (แต่ก็สามารถผ่านคนเดียวได้นะ) โดย Stronghold นั้นจะเป็นดันเจี้ยนกึ่งเนื้อเรื่อง เมื่อเข้าสู่ Stronghold เราจะได้พบกับเรื่องราวต่าง ๆ ภายในพื้นที่แห่งนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีประวัติศาสตร์ยังไง ถูกรุกรานยังไง และก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องปลดปล่อยสถานที่แห่งนี้จากการถูกพวกปีศาจกลืนกิน โดยการต่อสู้จะเป็นเหมือนเควสต์เล็ก ๆ ให้เดินวนไปตามจุดต่าง ๆ ภายในบริเวณนั้นแล้วสังหารมอนสเตอร์ไปเรื่อย ๆ เมื่อจัดการบอสและจบเควสต์ Stronghold แล้ว พื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดจะกลายเป็น Safe Zone และมี Waypoint ปรากฎขึ้นให้เราเซฟวาร์ปได้ครับ ซึ่งบอกเลยว่าการเล่น Stronghold สนุกไม่แพ้เล่น Story Quest เลยครับ แต่ Stronghold จะเป็นเควสต์ที่ทำหมดแล้วหมดเลยนะ ไม่สามารถรีเซ็ตได้เหมือนดันเจี้ยนทั่วไปครับ

และนี่ก็คือไกด์แนะนำดันเจี้ยนแต่ละประเภทใน Diablo IV หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ที่เล่นเกมนี้อยู่ทุกท่านนะครับ การเข้าใจในดันเจี้ยนแต่ละชนิดจะเป็นเรื่องง่ายในการเลือกลงดันเจี้ยนว่าเราจะฟาร์มตรงจุดไหน หรือจะชวนเพื่อนที่เล่นเกมนี้ด้วยกันมาลงดันเจี้ยนไหนบ้าง โดยส่วนตัวแล้วชอบ Stronghold ที่สุดเพราะเนื้อเรื่องในนั้นมันน่าตื่นเต้นดี แต่ดันเจี้ยนที่เราจะได้คลุกคลีมากที่สุดก็น่าจะเป็น Normal Dungeon และลงวนยาว ๆ ไปครับ

MakinoJou

คนธรรมดาผู้ชื่นชอบ Japanese Culture, Games, Anime และ Vtuber
Back to top button