คน 8 ประเภทที่ไม่ควรเล่นเกมแนว Among Us เพราะเดี๋ยวจะเครียดเกินไป
เกมแนวโกหกและจับผิดกลายเป็นเกมละลายพฤติกรรมบนโลกออนไลน์ แต่อาจไม่เหมาะกับบางคน

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เกม Among Us กลายเป็นกระแสที่โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยรูปแบบการเล่นที่ทั้งง่ายและสนุก ทุกคนสามารถเข้าไปสวมบทบาทในทีมลูกเรือหรือ Impostor คอยหลอกลวงและจับผิดกันได้แบบตึงเครียด แต่ก็แฝงด้วยเสียงหัวเราะให้คนมากมาย อย่างไรก็ตาม เกมแนวนี้ยังมีอีกหลายเกม และเกมแนวนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป เพราะถึงแม้มันจะถูกออกแบบมาเพื่อความบันเทิง แต่ความกดดันจากการโกหกหรือการถูกเพื่อนใส่ร้าย อาจทำให้บางคนรู้สึกเครียดเกินกว่าจะสนุกไปกับเกมได้ วันนี้เราจะพามาดูกันว่า “คนแบบไหนที่ไม่ควรเล่นเกมแนวนี้” เพื่อที่คุณจะได้เช็กตัวเองหรือเพื่อน ๆ ก่อนกดปุ่ม Start ครับ
1. คนจริงจังกับความถูกต้องเกินไป

สำหรับบางคน ความจริงคือสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในชีวิตจริงหรือในเกม เมื่อมาเล่น Among Us ที่เน้นการโกหกเพื่อเอาตัวรอด คนประเภทนี้มักจะรับไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าการโกหกในเกมเป็นเรื่องที่ทำให้เสียอารมณ์ ยิ่งถ้าเห็นเพื่อนพูดไม่ตรงกับความจริง หรือหักล้างข้อมูลที่ตนเองมั่นใจ ก็อาจทำให้โกรธและไม่อยากเล่นต่อเลย ซึ่งแทนที่จะได้หัวเราะไปกับมุกแถเกรียน ๆ ของเพื่อน ก็กลับกลายเป็นบ่อเกิดของความเครียดแทนไปซะอย่างนั้น
2. คนหัวร้อนง่าย

เกมแนวจับผิดและโหวตไล่คนออกย่อมเต็มไปด้วยความเข้าใจผิดเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเป็นคนที่หัวร้อนง่าย แค่ถูกใส่ร้ายหรือโดนโหวตออกทั้งที่บริสุทธิ์ใจก็สามารถกลายเป็นประเด็นใหญ่ได้ทันทีในกลุ่มเพื่อน ผู้เล่นสายนี้มักพาอารมณ์จริงมาใส่กับเกม จนบรรยากาศการเล่นที่ควรจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะกลับกลายเป็นสนามประลองด่าทอกันแทน ซึ่งสุดท้ายไม่เพียงแต่ตัวเองจะไม่สนุก เพื่อน ๆ รอบวงก็จะเหนื่อยใจกันไปด้วยครับ
3. คนที่แพนิคกับการถูกหักหลัง

เกมแนว Among Us คือเกมแห่งการหักหลังโดยตรง เพราะบทบาทของ Impostor คือการแทงข้างหลังเพื่อน ๆ ให้ได้มากที่สุด คนที่มีนิสัยไม่ชอบถูกหลอก หรือรับไม่ได้กับการถูกหักหลัง หรือเคยมีประสบการณ์ที่ฝังใจในอดีตเกี่ยวกับประเด็นนี้ ถึงแม้จะเป็นแค่ในเกม มักจะเครียดจนเล่นไม่ไหว บางคนมีอาการใจสั่น เหงื่อแตก แพนิค ความรู้สึกไม่สบายใจเหล่านี้อาจลามไปถึงชีวิตจริง จนกลายเป็นว่า แค่เกมเบาสมองกลับทำให้รู้สึกเหมือนถูกทำร้ายจิตใจอย่างหนักแทนครับ
4. คนขี้กังวล คิดมาก

การถูกสงสัยว่าเป็น Impostor หรือการต้องโกหกเพื่อปกปิดตัวเอง เป็นเรื่องที่ต้องใช้ไหวพริบและการสื่อสาร แต่สำหรับคนที่ขี้กังวลหรือคิดมากเกินไป มักจะเอาแต่พะวงว่า “ถ้าฉันเถียงเพื่อนเขาจะโกรธไหมนะ” หรือ “ถ้าฉันฆ่าคนนี้เป็นคนแรก เขาจะโกรธไหมนะ” ทำให้ไม่สามารถสนุกไปกับการเล่นได้จริง ๆ ยิ่งคิดมากก็ยิ่งกดดัน และสุดท้ายอาจหมดแรงใจในการเล่นเกมแบบนี้ไปเลย เพราะมัวแต่กลัวเพื่อนโกรธแล้วไม่สามารถเล่นได้เต็มที่ครับ
5. คนพูดไม่เก่งหรือไม่ชอบสื่อสาร

หัวใจหลักของเกมแนว Among Us คือการพูดคุยและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าใครไม่ถนัดการสื่อสาร ไม่ชอบเถียง หรือพูดไม่เก่ง การป้องกันตัวเองจากข้อกล่าวหาแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย คนกลุ่มนี้มักจะกลายเป็นแพะรับบาปง่าย ๆ โดนโหวตออกไปทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด สุดท้ายก็จะรู้สึกอึดอัดและเครียดมากกว่าจะสนุกครับ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปในกลุ่มเพื่อน ที่เวลาโดนสงสัยก็จะไม่แก้ตัว บางทีเพื่อนไม่เชื่อก็ไม่อธิบายเพิ่ม เพราะไม่อยากจะปะทะความรู้สึกหรือเหนื่อยที่จะพูด ถ้าโดนบ่อย ๆ คนพูดไม่เก่งมักจะไม่เล่นต่อในครั้งถัด ๆ ไป เพราะรู้สึกว่าไม่จอยกับเกมครับ
7. คนที่เล่นเอาชนะ แพ้แล้วรับไม่ได้

แม้จะเป็นเพียงเกมที่ออกแบบมาเพื่อความสนุก แต่ก็มีหลายคนที่ยึดติดกับชัยชนะมากเกินไป คนประเภทนี้เมื่อแพ้แล้วจะรู้สึกหงุดหงิด ที่ไม่สามารถจัดการความคิดของคนในเกมได้ โกรธที่ทำไมเพื่อนถึงไม่เชื่อเรา โกรธที่ทำไมทุกคนถึงสงสัยเรา ทั้งที่จริง ๆ แล้ว Among Us เป็นเกมที่เน้นความวุ่นวายและเสียงหัวเราะมากกว่าผลแพ้ชนะ ผู้เล่นคนไหนที่มองเกมแนว Among Us เหมือนเกมการแข่งขันที่ต้องเอาชนะอย่างเดียว เกมนี้อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีนักครับ
7. คนที่อยากให้เกมแฟร์ตลอดเวลา

ในโลกของเกมแนว Among Us ที่เน้นโกหก หลอกลวง หักหลัง ความแฟร์แทบจะไม่มีอยู่จริง เพราะ Impostor ถูกสร้างมาเพื่อโกงตั้งแต่ต้น ทั้งการฆ่าแบบลับ ๆ หรือใส่ร้ายคนอื่นเพื่อเอาตัวรอด คนที่คาดหวังความยุติธรรมทุกวินาทีจะรู้สึกหงุดหงิด เพราะเกมนี้คือการยอมรับว่าทุกอย่างมัน “ไม่แฟร์” นั่นแหละที่ทำให้สนุก ถ้าคิดว่าเกมต้องเที่ยงตรงเสมอก็เตรียมเครียดได้เลยครับ เพราะบางทีเพื่อน ๆ ยังรวมหัวกันโหวตเป็นศาลเตี้ยซะด้วยซ้ำ
8. คนที่โกรธเพื่อนนอกจอเกมได้

ในการเล่นเกมแนว Among Us หรือเกมแนวโกหกนั้น หนึ่งในปัญหาคลาสสิกคือ คนที่เล่นแล้วอินเกินไปจนโกรธเพื่อนจริง ๆ นอกจอ แค่ถูกหักหลังในเกมก็เอาไปเก็บมาเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าเจอเพื่อนแบบนี้บ่อย ๆ อาจทำให้ความสัมพันธ์ในชีวิตจริงสั่นคลอนได้ เพราะเกมแนวนี้มันเต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่ทำให้โกรธได้ ทั้งพูดแล้วไม่เชื่อ ไม่มีหลักฐานก็ไม่เชื่อ กลั่นแกล้งกันในเกม โยนความผิด นู่นนี่นั่นเต็มไปหมด แทนที่จะได้เล่นเกมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ ก็กลายเป็นการสร้างรอยร้าวโดยไม่ตั้งใจครับ

แม้ว่าเกม Among Us และเกมแนวโกหกจับผิดเกมอื่น ๆ จะเป็นกิจกรรมที่สนุกของใครหลายคน ใช้คลายเครียด และช่วยสร้างเสียงหัวเราะให้กับกลุ่มเพื่อน แต่ก็ใช่ว่าจะเหมาะกับทุกคนเสมอไป เพราะบางคนอาจไม่ถนัดกับการโกหก ไม่ชอบการหักหลัง หรือจริงจังกับเกมมากเกินไปจนบรรยากาศเสียไปทั้งหมด ดังนั้นก่อนจะชวนใครมาเล่น ลองเช็กกันก่อนสักนิดว่าเพื่อน ๆ ของคุณเข้าข่าย “คนที่ไม่ควรเล่น” หรือเปล่า เพื่อให้เกมยังคงเป็นพื้นที่แห่งความสนุก และไม่กลายเป็นต้นเหตุของดราม่าโดยไม่จำเป็นครับ