7 เหตุการณ์สุดเซ็งที่เวลาเล่นเป็นผู้รอดชีวิตใน Dead by Daylight

Dead by Daylight อีกหนึ่งเกมที่มีรูปแบบการเล่นเฉพาะตัวและกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับการสร้างเกมแนว 4 vs 1 อีกหลาย ๆ เกม คิดว่าหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักเกมนี้กันเป็นอย่างดีเลยใช่มั้ยล่ะครับ? ความสนุกและลุ้นระทึกตอนเล่นเป็นผู้รอดชีวิตเพื่อหาทางหนีในเกม หรือการเล่นเป็นฆาตกรก็ได้ความสนุกในการตามล่าผู้รอดชีวิตเช่นกัน ทั้งสองบทบาทต่างก็มีจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ในการเล่นที่แตกต่างกัน หากเล่นเป็นฆาตกรก็ต้องตามล่าผู้รอดชีวิตให้ครบทั้งหมดก่อนที่จะหนีออกไปได้ หากเล่นเป็นผู้รอดชีวิตก็ต้องร่วมมือกันซ่อมเครื่องปั่นไฟ เพื่อให้ทางออกสามารถใช้งานได้และเป็นเส้นทางสำหรับหลบหนีออกไป

สำหรับคนที่เล่นในบทบาท ‘ผู้รอดชีวิต’ เคยเจอเหตุการณ์แบบที่รู้สึก ‘ไม่อยากเจอ’ กันบ้างมั้ยครับ? เหตุการณ์แบบที่ต้องอุทานออกมาว่า “อะไรวะเนี่ย!?” ซึ่งบางครั้งในการเล่นเกมเราอาจจะได้เจอพฤติกรรมการเล่นของผู้เล่นคนอื่นที่ชวนให้รู้สึกปวดหัว หงุดหงิด ไม่ว่าจะจากทางฆาตกรหรือไม่ก็เพื่อนร่วมทีมเอง ซึ่งเป็นประสบการณ์ชวนให้รู้สึกไม่อยากเจอและร่วมเล่นกับผู้เล่นแบบนี้อีก ลองมาดูกันครับว่าเพื่อน ๆ เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กันบ้างมั้ย?

1. ฆาตกรไล่ล่าแต่เราคนเดียว

เหตุการณ์แบบ ‘ฆาตกรไล่ล่าแต่เราคนเดียว’ หรือการไล่ล่าแต่ผู้เล่นคนเดียว ก็คือการที่ฆาตกรตามเก็บผู้เล่นทีละคนนั่นแหละครับ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในการเล่นแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าการที่เราถูกตามล่าแบบไม่ได้หยุดพักหรือแม้แต่จะหาที่หลบซ่อน หากเป็นผู้เล่นคนแรก ๆ ที่ถูกฆาตกรเจอก็มีโอกาสถูกฆ่าได้เร็วสุด ๆ จนอาจไม่ได้มีเวลาไปซ่อมเครื่องปั่นไฟหรือทำอย่างอื่น (เช่น การทำเควส) ยิ่งถ้าหากเป็นมือใหม่ หนีไม่เก่ง หาจังหวะหลบหลีกไม่เป็น คงได้ถูกแขวนหรือถูกฆ่าตั้งแต่ต้นเกมกันเลย มาเจอฆาตกรไล่ล่าเหยื่อทีละคนแบบไม่ปล่อยอย่างนี้ คนโดนก็อาจจะได้รู้สึกเซ็ง ๆ กันบ้างแหละครับ

2. เพื่อนร่วมทีมพาฆาตกรมาฝาก

เหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะด้วยความบังเอิญหรือไม่ก็ด้วยความตั้งใจ เช่น กรณีที่เราทำการซ่อมเครื่องปั่นไฟอยู่ แต่จู่ ๆ เพื่อนร่วมทีมก็วิ่งเข้ามาหาทางเราและพาฆาตกรมาหาด้วย! ซึ่งแน่นอนว่าตามปกติเราคงต้องหาที่หลบหรือไม่ก็หนีไปทางอื่นเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการปล่อยเครื่องปั่นไฟ ซึ่งทำให้เสียเวลาในการที่จะซ่อมให้เสร็จ หรือหากเราไม่ยอมปล่อยเครื่องปั่นไฟแล้วฆาตกรมาพบ ก็เสี่ยงที่จะถูกตามล่าแทนเพื่อนคนนั้นได้ ในกรณีที่เป็นความบังเอิญคงพอให้อภัยได้ แต่ก็มีผู้เล่นบางคนที่จงใจลากมาหาเพื่อนร่วมทีม เพราะต้องการให้ตัวเองหนีฆาตกรพ้นด้วยเช่นกัน หากเพื่อนยอมช่วยวิ่งถ่วงเวลาบางทีเครื่องปั่นไฟอาจซ่อมเสร็จไปแล้วอีกหนึ่งเครื่องก็ได้ ถ้าเจอผู้เล่นประเภทแบบ ‘ฉันต้องรอด’ แล้วให้คนอื่นมารับเคราะห์แทนนี่ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ

3. ฆาตกรใช้ตัวปิดทางเดินและการเคลื่อนไหว (Body Blocking)

กรณีนี้คงไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่เราอาจจะได้เจอกันบ้าง คือ การที่เราเข้าไปหลบซ่อนในมุมอับสายตาจากฆาตกร เช่น บริเวณพุ่มไม้ที่ติดกับต้นไม้ หรือมุมแคบ ๆ ตามด่านต่าง ๆ บางครั้งถ้าฆาตกรเดินมาเจอเราอาจถูกกลั่นแกล้งจากฆาตกรได้ โดยการที่ฆาตกรใช้ร่างกายของเขาบังทางเดิน ทำให้ตัวเราไม่สามารถเคลื่อนไหวและเดินออกไปได้ (สภาพจนมุมของแท้) หากเป็นฆาตกรที่ชอบแกล้งคนอื่นก็อาจจะยืนอยู่อย่างนั้นและไม่ยอมตีเราให้ล้ม ซึ่งก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างชวนให้รู้สึกหงุดหงิดเลยทีเดียวล่ะครับ

นอกจากนี้ก็ยังมีกรณีอื่นอยู่อีกด้วยเช่นกัน เช่น ฆาตกร The Pig ที่มีความสามารถใส่หมวกกับดักหมีให้ผู้รอดชีวิตได้ และเมื่อหมวกนับเวลาถอยหลังจนหมด ผู้เล่นคนนั้นก็จะต้องตายเพราะหัวระเบิดทันที แต่ผู้รอดชีวิตก็สามารถที่จะปลดหมวกกับดักหมีก่อนเวลาหมดได้เช่นกัน โดยการใช้งาน ‘กล่องจิ๊กซอว์’ ที่ตั้งอยู่ภายในด่านครับ และก็นั่นแหละครับ! มีผู้เล่น The Pig บางคนที่ใช้ตัวบังอยู่ด้านหน้ากล่องจิ๊กซอว์เพื่อไม่ให้ผู้รอดชีวิตสามารถปลดกับดักออกได้นั่นเอง!! คงพูดได้ว่าเป็นวิธีเล่นเกมที่เกรียนมากวิธีหนึ่งเลยนะครับเนี่ย

4. ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายบนตะขอ โดนปล่อยทิ้งหรือมาช่วยก็เหมือนไม่ช่วย

เวลาเราถูกฆาตกรอุ้มมาแขวนบนตะขอ แน่นอนว่าหนทางที่จะหลุดออกมาได้ก็ต้องให้เพื่อนมาช่วย (หรือตอนโดนแขวนครั้งแรกเสี่ยงปลดตัวเองออกมาจากตะขอก็ได้) ถ้าหากไม่ได้มากับกลุ่มเพื่อนของเราเอง มาเล่นแบบคนเดียวเดี่ยว ๆ แล้วสุ่มหาเพื่อน ถ้าคุณโชคไม่ดีบางทีอาจจะได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้ก็ได้นะ ซึ่งเหตุการณ์ที่ว่านั่นก็คือเราถูกแขวนอยู่บนตะขอแล้วถูกปล่อยทิ้งไว้ ไม่มีใครมาช่วยเลยสักคน โอ้โห!? ถึงจะมาเล่นกันแบบสุ่มหาเพื่อน แต่ถ้าเจอเพื่อนพฤติกรรมแปลก ๆ เล่นไม่เป็นทีมเวิร์ก และไม่ช่วยอะไรกันเลย เรียกได้ว่างานนี้ต้องมีเคืองกันเลยล่ะครับ หากเป็นช่วงที่ตึงมือแล้วถูกปล่อยทิ้งไว้ในการแขวนครั้งที่สอง ก็ยังพอจะเข้าใจได้อยู่ แต่ก็มีเหตุการณ์ที่โดนแขวนบนตะขอครั้งแรกแล้วโดนทิ้งไว้เลยก็มี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเพราะอยู่กันไกล เพื่อนเอาแต่ซ่อมเครื่องปั่นไฟ หรือไม่ยอมมาเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือ ก็ถ้าได้เจอเพื่อนร่วมทีมแบบนี้คงได้แต่เศร้าเลยนะครับ

และอีกรูปแบบหนึ่งคือ เพื่อนร่วมทีมประเภทที่จ้องจะมาช่วยเราแบบตั้งใจ.. ตั้งใจจะเอาคะแนน! คือเป็นผู้เล่นที่ต้องการคะแนนตอนช่วยเพื่อนลงจากตะขอ รีบช่วยเราแบบไม่ดูสถานการณ์ แล้วพอเราลงมาจากตะขอในจังหวะที่ฆาตกรยังป้วนเปี้ยนอยู่ ก็ปล่อยให้ฆาตกรไล่ล่าเราต่อ ถ้าหากเราไม่มีเปิร์กในการเอาชีวิตรอดก็ต้องล้มลงอย่างแน่นอน หรือบางคนไม่ได้บาดเจ็บแล้วมาช่วยเราลงจากตะขอ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเปิร์ก Borrowed Time ตอนช่วย พอฆาตกรเดินกลับมาหาก็ดันวิ่งหนีไม่ยอมช่วยปกป้องเราให้อีก ปล่อยให้เราถูกไล่ตีล้มต่ออีกครั้งหน้าตาเฉย ได้มาเจอเหตุการณ์อย่างนี้เรียกได้ว่าหัวร้อนกันไปเลยล่ะครับ

5. เพื่อนร่วมทีมโยนเกม

อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าเวลาเล่นเป็นผู้รอดชีวิตแล้วเซ็งสุด ๆ นั่นก็คือ ‘เพื่อนร่วมทีมโยนเกม’ ครับ ซึ่งก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ และเป็นเรื่องของพฤติกรรมส่วนตัวของผู้เล่นบางคนอีกเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น พอถูกฆาตกรแขวนตะขอแรกแล้วเกิดความรู้สึกไม่พอใจ ก็กดออกจากเกมไปซะอย่างนั้น!? หรือบางคนก็เล่นในลักษณะยอมให้ฆาตกรฆ่าตายอย่างง่าย ๆ แบบจงใจ ส่วนที่หนักที่สุดก็อาจจะเป็นเรื่องของการ AFK ครับ (กรณีอินเตอร์เน็ตหลุดไม่ขอนับรวมนะ) แน่นอนว่าหากเพื่อนร่วมทีมสักคนโยนเกมแล้ว ในเกมนั้น ๆ เพื่อนที่เหลือต้องลำบากแน่นอน เพราะต้องเสียเวลาในการซ่อมเครื่องปั่นไฟมากขึ้น และมีโอกาสที่ฆาตกรจะชนะได้มากขึ้นอีก ถึงจะเจอกับฆาตกรฝีมือเก่ง ๆ ก็ลองเล่นกันก่อนสิ อย่าเพิ่งรีบยอมแพ้แล้วโยนเกมสิพวก!

6. ฆาตกรเฝ้าเราไม่ยอมห่างอย่างห่วง ๆ

อีกหนึ่งพฤติกรรมของฆาตกรที่สามารถพบเจอได้บ่อยครั้ง นั่นก็คือ ‘ฆาตกรยืนเฝ้า’ ครับ ถ้าเป็นชาวเกม DBD ก็จะเรียกโดยใช้คำศัพท์ว่า “แคมป์” ที่มาจาก Camper ตามที่ชาวต่างชาติเรียกกัน แน่นอนว่านี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เวลาเล่นเป็นผู้รอดชีวิตแล้วไม่อยากเจอที่สุดครับ เพราะว่าในกรณีนี้ทางฝั่งผู้รอดชีวิตค่อนข้างจะเสียเปรียบ หากจะช่วยเพื่อนก็ต้องปรากฏตัวออกมาต่อหน้าฆาตกรและเสี่ยงให้โดนไล่ล่า ยิ่งถ้าฆาตกรมีความสามารถที่ตีให้ล้มได้ในครั้งเดียวอยู่นี่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ หรือถ้าทำใจปล่อยให้เพื่อนตายก็ต้องเสียกำลังพลไปอีกหนึ่งอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นเกมที่ทางฝั่งผู้รอดชีวิตเล่นได้ยากครับ ถึงแม้ว่าการที่ฆาตกรยืนเฝ้านั้นจะไม่ได้ผิดกฎกติกาของเกมแต่อย่างใด และเรียกได้ว่าเป็นสไตล์การเล่นฆาตกรในรูปแบบหนึ่ง แต่หากมองในมุมของคนเล่นผู้รอดชีวิตแล้ว ถ้าถูกแขวนคนแรกและตายคนแรกทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เล่นอะไรเลยเนี่ย มันจะเป็นอะไรที่เซ็งสุด ๆ เลยนะครับ

7. ผู้เล่นที่มาพร้อมกับการใช้โปรแกรมโกงเกม

สำหรับเหตุการณ์สุดท้ายที่เวลาเล่นเกมแล้วไม่อยากเจอเลยนั่นก็คือพวกใช้ “โปร” ครับ ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งของผู้รอดชีวิตหรือทางฝั่งของฆาตกรก็ตาม ถ้าเจอคนพวกนี้ก็บอกได้เลยว่าเกมแมตช์นั้นหมดความสนุกไปเลยล่ะครับ หากเป็นทางฝั่งฆาตกรที่ใช้โปร แน่นอนว่าเกมจะจบลงที่เราโดนแขวนหรือถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็ว หรือบางคนก็มีการใช้โปรช่วยเล่นอย่างเนียน ๆ เพื่อไม่ให้คนอื่นจับได้ อย่างเช่น การมองเห็นออร่าของผู้รอดชีวิตอยู่ตลอดเวลา แต่ก็แน่นอนว่าคนเล่นเกมอย่างเรา ๆ ก็ต้องมีรู้สึกถึงความผิดปกติในเกมนั้น ๆ บ้างแหละ และบางครั้งก็เจอพวกใช้โปรแบบมาโปรโมทการขาย พอจบเกมปุ๊บก็มีแปะลิงก์โฆษณาปั๊บ (ขายตรงเกิ๊นน!)

นอกจากนี้หากมีทางฝั่งผู้รอดชีวิตในทีมใช้โปรเล่น ทางฆาตกรก็คงรู้สึกเซ็งเช่นกัน รวมถึงทางเราที่เป็นผู้รอดชีวิตในทีมก็ด้วย ยกตัวอย่างเช่น โปรแบบฮีลได้ทันที โดนฆาตกรตีไม่เจ็บ หรืออย่างในภาพข้างบนนี้คือผู้รอดชีวิตสามารถลอยอยู่กลางอากาศได้ (ลักษณะเหมือนตอนถูกฆาตกรอุ้ม) ซึ่งฆาตกรก็จะไม่สามารถนำตัวผู้เล่นคนนี้ไปแขวนบนตะขอได้ แถมคนโกงยังสามารถกดสลับไปนอนบนพื้นกับลอยขึ้นฟ้าได้อีก (อย่างเกรียน) พอผมเจอเกมนี้ก็พยายามเรียกให้ฆาตกรมาฆ่าฟรี ๆ เลยนะครับ แต่ฆาตกรเขาไม่ยอมฆ่าเรา ผมเลยกดออกจากเกมแล้วไปกดส่งรีพอร์ตคนโกงแทน เพราะรู้สึกว่าการใช้โปรในการเล่นเกมเนี่ยมันโคตรจะไม่โอเคเลยนะ

เพื่อน ๆ ที่เล่นเกม Dead by Daylight แล้วได้เจอประสบการณ์แบบนี้ คิดเหมือนกันหรือเปล่าครับว่าเวลาเจอผู้เล่นพฤติกรรมแบบนี้แล้ว เราไม่อยากจะเจอและร่วมเล่นเกมกันอีกเลย เพราะว่ารู้สึกบางจังหวะในการเล่นเกมมันไม่สนุกจริง ๆ หากใครที่เป็นผู้เล่นสายลุยเดี่ยวบ่อย ๆ อาจจะเคยได้เจอพฤติกรรมการเล่นแบบนี้กันมาไม่มากก็น้อยเลยใช่มั้ยล่ะครับ ถ้าสุ่มเจอเพื่อนร่วมทีมดี ๆ ก็เล่นเกมกันได้สบายใจไป หรือถ้าเจอฆาตกรเล่นดีหน่อย (หมายถึงไม่เล่นเกมแบบเกรียน ๆ) ถึงแม้เราจะเป็นฝ่ายแพ้แต่ก็ได้รู้สึกสนุกสนานกับการเล่นเกมจริง ๆ นะครับ