สกู๊ปพิเศษ

7 ปัญหาชวนปวดตับใน League of Legends: Wild Rift

เจอกี่ครั้งก็กุมขมับจนต้องปิดเกมหนี

หลังจากที่เกมเปิด Open Beta มาได้สักพัก League of Legends: Wild Rift หรือ LOL มือถือก็อาจพูดได้เต็มปากว่ามันได้สร้างกระแสในหมู่ผู้เล่นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนเราก็เริ่มเห็นใครหลายคนที่กำลังอินกับเกมนี้ ด้วยความที่ League of Legends มีฐานแฟนเกมหนาแน่นอยู่แล้ว ยิ่งพอมาเป็นเกมมือถือที่พกพาสะดวกบวกกับการเป็นเกมเล่นฟรี ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายอดผู้เล่นของ League of Legends: Wild Rift จะพุ่งสูงจนเป็นปัญหาเซิร์ฟล่มในช่วงแรกๆ แต่ถึงแม้ว่าในปัจจุบันปัญหาเรื่องเซิร์ฟเวอร์จะมีน้อยลง แต่ผมเชื่อเลยว่าหากคุณเป็นคนที่เล่นเกมนี้เป็นประจำ คุณจะต้องพบเจอกับปัญหาอีกหลายอย่างมากกว่านี้แน่ๆ และนี่ก็คือ 7 ปัญหาชวนปวดตับใน League of Legends: Wild Rift จะมีอะไรบ้างนั้นมาเริ่มกันเลย

1. ไม่ใช้ภาษาอังกฤษคุยกัน

image 4818

โดยปกติเกมแล้ว Lol wild rift ก็ไม่ต่างจากเกมแนว MOBA ทั่วไปที่การเล่นเป็นทีมและการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้ความสามารถในการเล่น แต่ด้วยความที่คนส่วนใหญ่มักจะเล่นแบบทีมไม่ครบ 5 หรือบางทีก็กด Solo ซึ่งปัญหาอย่างแรกที่หลายคนจะต้องเจอ (โดยเฉพาะเกมนี้) ก็คือชาวต่างชาติที่บางทีมา 4 คนก็คุยกันคนละภาษาเลยก็มี ไม่ว่าจะเป็นจีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น, เวียดนาม หรือแม้กระทั่งคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งประเด็นมันก็อยู่ตรงที่หลายๆ ครั้งผู้เล่นที่ร่วมทีมกับเรา มักจะไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางในการสื่อสารและใช้ภาษาของตัวเองซะส่วนใหญ่ เป็นผลให้คนอื่นๆ เกิดอาการงงว่าเขากำลังพูดอะไร ทำให้การเล่นที่เดิมก็ยากอยู่แล้วก็ยากขึ้นไปอีก

2. เลือกตัวตามใจฉัน

image 4814

สำหรับเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปในเกมแนว MOBA ที่คนส่วนใหญ่มักจะแย่งตำแหน่งที่เป็นทำเกมหรือตัวทำดาเมจซึ่งใน League of Legends: Wild Rift ก็เช่นกันที่ผู้เล่นส่วนมากมักจะพากันแย่งตำแหน่งตัวแครี่หรือ ADC, ตัวป่าหรือ Jungle และที่สำคัญ Mid lane ก็เป็นอีกตำแหน่งยอดฮิตที่มักจะแย่งกันเป็นประจำและก็แน่นอนว่าในหลายๆ ครั้งเราก็มักจะเจอกับเหตุการณ์ผู้เล่นแย่งตำแหน่งกันเองเพราะต่างคนต่างอยากเล่น ทำให้บางทีทีมของเราก็อาจจะมี ADC สองตัว (หรือ 3 ตัว) , Mid Lane สองตัว หรือจะเป็นป่าที่ควบสองเลยก็มี ซึ่งหากเราได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ใน Rank มันก็เป็นเรื่องที่ชวนให้ปวดหัวไม่น้อยเลยล่ะ

3. เลือกฮีโร่ผิดจุดประสงค์

image 4816

อาจจะเพราะว่าในตอนนี้ตัวเกมยังมีความใหม่อยู่ ทำให้ผู้เล่นหลายๆ คนที่ไม่คุ้นเคยกับเกมยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับตัวฮีโร่มากเท่าไหร่ ซึ่งปัญหาเลือกฮีโร่ผิดจุดประสงค์นี้ก็น่าจะมีให้เห็นในโหมดปกติหรือระดับแรงค์ล่างๆ อยู่บ้างอย่างเช่นการเลือกตัว Nasus ที่จริงๆ แล้วเป็นตัว Top Lane เน้นฟาร์มหนักเพื่อมาแบกท้ายเกมมาเล่นในตำแหน่ง Support เพราะตัวผู้เล่นคนนั้นอาจจะเข้าใจผิดเพราะ Nasus มีสกิล Slow, การเลือก Yasuo ที่เป็นตัวเก่งในเลนมาเล่นป่า ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะเล่นได้แต่กว่าจะฟาร์มเสร็จก็ต้องใช้เวลานานมากๆ หรือจะเป็นการหยิบ Gragas ที่จริงๆ เป็นได้เพิ่งเริ่ม Mid และ Top มาเล่นในตำแหน่ง Support ทำให้ตัวละครไม่สามารถรีดศักยภาพออกมาได้เท่าที่ควร

4. Support ลาสครีปแครี่

image 4816

อีกหนึ่งความพิเศษของ League of Legends: Wild Rift  ที่แตกต่างจากเกม MOBA มือถือเกมอื่นๆ อีกอย่างเลยก็คือการที่ตัวเกมเน้นการลาสครีปเป็นหัวใจสำคัญในช่วง laning phase ที่จะเป็นช่วงต้นของเกม และก็แน่นอนว่าการลาสครีปจะส่งผลถึงการเงินของเราโดยตรง ยิ่งถ้าเป็นในตำแหน่ง ADC ที่เป็นตัวแครี่ทำดาเมจหลักให้กับทีม ผมก็ขอบอกเลยว่าการเงินของตำแหน่งนี้ (โคตรจะ) สำคัญมากๆ ทำให้การลาสครีปแต่ละตัวผู้เล่น AD จะต้องบรรจงเก็บให้ครบและพลาดน้อยที่สุด แต่ประเด็นมันก็มีอยู่ว่าในบางครั้ง Support ที่มายืนด้วยที่อาจจะไม่รู้หรือเพิ่งหัดเล่นมาใหม่ๆ มาเดินแย่งครีปเราแบบงงๆ ทำให้ในตอนเล่นแทนที่จะต้องระวังฝั่งศัตรู ก็ต้องมานั่งปวดหัวกับทีมตัวเองอย่างเลี่ยงไม่ได้

5. ระบบ Matchmaking ที่ผีเข้าผีออก

image 4819

สำหรับใครที่เล่นเกมนี้มาหลายตาก็อาจจะเคยเจอกับปัญหาเรื่อง Matchmaking ของเกมอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งส่วนตัวผมเล่นมาแล้วประมาณ 150 ตารวมทั้งโหมดปกติและแร้งค์มักจะมีปัญหานึงที่ผมจะเจอตลอดก็คือการแบ่งทีมที่ไม่สมดุลสุดๆ เช่นหากเราสุ่มเจอทีมดีบางทีเพียงแค่ 10 นาทีก็รู้ผลแพ้ชนะได้แบบง่ายๆ แต่บางครั้ง (หรือส่วนใหญ่) เราก็อาจจะได้อยู่กับทีมที่เล่นได้ไม่ดีเท่าที่ควร ตรงกันข้ามกับฝ่ายศัตรูที่เล่นเหมือนมากันครบทีม ทำให้การต่อสู้กับพวกเขาเป็นไปได้อย่างยากลำบาก และยิ่งเจอเหตุการณ์ทรงนี้บ่อยๆ ผมก็ขอบอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่ไม่สนุกมากๆ (ผมเจอหนักสุดก็คือฝั่งเราตายฉลี่ยนาทีละตัวเลย) 

6. ถูกส่งไปอยู่เซิร์ฟนอกแบบงงๆ

image 4815

ผมเชื่อเลยว่าเพื่อนๆ จะต้องเคยเจอกับปัญหานี้แน่นอนไม่ว่าจะเล่นมามากน้อยแค่ไหน นั่นก็คือการที่เราถูกส่งไปเล่นในเซิร์ฟต่างชาตินั่นเอง โดยสาเหตุจากปัญหาดังกล่าวก็อาจมาจากในตอนนี้ตัวเกมยังมีจำนวนเซิร์ฟไม่มากนัก ทำให้ในระหว่างจับคู่เราก็อาจถูกจับไปปนกับผู้เล่นจากภูมิภาคอื่นอยู่หลายครั้ง อย่างตัวผมเองก็เคยโดนลากไปรวมกับคนเกาหลี, จีน และญี่ปุ่นซึ่งเรื่องปิงก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะมันแดงแปร๊ดจนแสบตา จะกดทำอะไรก็ช้าแบบสุดๆ แถมในบางครั้งที่ผมเจอมันก็เป็นในเกม Ranked ซะด้วยเรียกได้ว่าหัวอุ่นตั้งแต่เกมเพิ่งเริ่มไปหมาดๆ ซึ่งผมก็หวังว่ามันจะเป็นปัญหาแรกๆ ที่ทาง Riot จะรีบแก้ไขโดยเร็ว

7. ฝึกเล่นตัวท่ายากในโหมด Ranked

image 4817

หนึ่งในเสน่ห์ของ League of Legends นอกจากจะมีระบบการเล่นที่ซับซ้อนไม่แพ้เกม MOBA อื่นๆ มันก็มีเรื่องของฮีโร่ที่สามารถเล่น outplay หรือการชิงไหวชิงพริบได้แบบเท่ๆ อย่างเช่น Yasuo ฮีโร่ยอดฮิตขวัญใจผู้เล่น lol (และก็เป็นตัวที่คนเกลียดด้วย) ที่เป็นตัวละครที่มีความสามารถในการต่อสู้และ outplay สูงอันดับต้นๆ ของเกมซึ่งหากเล่นดีๆ จะสามารถสร้างจังหวะในการฆ่าได้หลายรูปแบบ แต่ประเด็นมันก็อยู่ว่าการจะเล่นเจ้ายาโอะให้ดี มันก็จำเป็นต้องใช้เวลาฝึกสักพักเพราะนอกจากมันจะตายง่าย สกิลของมันก็ยังมีวิธีการใช้ที่ต้องพลิกแพลงอยู่พอสมควร และใช่ครับผู้เล่นส่วนมากก็มักจะหยิบเจ้ายาโอะมาฝึกในเกมจริงๆ ซึ่งมันก็รวมถึงเกมในโหมด Ranked ด้วย…. (ตายเยอะกว่าฆ่านี่ไม่แปลกเลย) 

ถึงแม้ในตอนนี้ lol wild rift จะเป็นเกมที่ยังไม่สมบูรณ์เนื่องด้วยปัญหาและองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่ยังขาดไป แต่เอาเข้าจริงด้วยระบบเกมการเล่นตามสไตล์ League of Legends ความสนุกของมันก็ไม่น้อยหน้าเกมอื่นๆ ในตลาดเลยแม้แต่นิดและหากเพื่อนๆ เป็นคนที่ชื่นชอบในเกมแนว MOBA เป็นทุนเดิมอยู่แล้วบวกกับอยากหาเกมใหม่ๆ ที่น่าลอง League of Legends: Wild Rift ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกน่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับและมันจะสนุกยิ่งขึ้นไปอีกถ้าคุณชวนเพื่อนๆ มาเล่นด้วยนะเออ

>> คลิกที่รูปเพื่ออ่านบทความ <<

image 4813
Back to top button