10 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด Fatal Fury: City of the Wolves
ภาคต่อเกมต่อสู้ระดับตำนานที่ต้องรอยาวถึง 25 ปี

นอกจาก The King of Fighters ที่เรารู้จักกันแล้ว ใครที่เป็นเด็กหนวดก็คงเติบโตมากับเกม Fatal Fury หรือตำนานกาโร่ กันเสียมากกว่า ซึ่งเกมนี้ก็จะมาพร้อมกับตัวละครสุดเท่อย่าง Terry พ่อหนุ่มผมทองหางม้าพร้อมหมวกแก๊ปสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ ก่อนต่อยอดมาเป็นภาคดังบน Dreamcast และหายไปยาวจนวันนี้ได้กลับมาในภาคใหม่กับ Fatal Fury: City of the Wolves ที่พวกเรา ThisIsGame Thailand ไม่พลาดจะมาขอแนะนำ 10 เหตุผลที่ขาไฟต์ติ้งต้องเล่นเกมนี้กัน ว่าแล้วอย่ารอช้าเชิญติดตามข้างล่างนี้ดีกว่า
1. บอกเล่าเรื่องราวของ Fatal Fury ตำนานกาโร่ ที่ไม่ได้เห็นมานาน

Fatal Fury นั้นมีภาคล่าสุดเป็น Garou: Mark of the Wolves ที่เปิดให้เล่นกันตั้งแต่ปลายยุค 90s กันเลยทีเดียว และเรื่องราวก็ทิ้งช่วงกันมานานจนหลายคนอาจจะลืมชื่อของ ตำนานกาโร่ กันไปแล้ว การกลับมาครั้งนี้ Rock Howard พระเอกผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกชายของสุดยอดอาชญากรตลอดกาลในวงการเกมต่อสู้ Geese จะได้เดินทางค้นหาตัวตนของตัวเองอีกครั้งพร้อมกับเป้าหมายใหม่ร่วมกับ Kain และ Terry ซึ่งเป็นเหมือนพ่อบุญธรรมที่เฝ้ามองอย่างห่างๆ
2. ตัวละครในความทรงจำกลับมาโลดแล่นอีกครั้ง

การกลับมาของ Fatal Fury: City of the Wolves ยังมาพร้อมกับโอกาสครั้งแรกที่เราจะได้เห็นตัวละครในอดีตอย่าง Hotaru Futaba สาวน้อยมหัศจรรย์ และนินจาสุดกวน Hokutomaru ศิษย์เอกของ Mai กับ Andy ในรูปแบบสามมิติครั้งแรกแบบข้ามเจ็นเนอเรชัน เช่นเดียวกับนักสู้อื่นๆ อีกหลายคนในสังเวียนครั้งนี้ รวมจำนวนทั้งสิ้นถึง 17 ตัวละครพร้อมให้เล่นกันตั้งแต่วันแรก แลกหมัดได้ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ครบครัน รวมไปถึงการสนับสนุนคอนเทนต์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในอนาคต
3. Unreal Engine 4 มาตรฐานใหม่แห่งเกมเน็กซ์เจ็น
ผลัดเปลี่ยนจากยุคสมัยสไปรต์สองมิติสู่กราฟิกแบบโพลิกอนคุณภาพสูงพร้อมงานภาพสีสันสดใสสไตล์อนิเมะกับ Unreal Engine 4 ที่ปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้ประสบการณ์การต่อสู้ของเรายอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ SNK ได้ประยุกต์ใช้เอนจิ้นการพัฒนาตัวนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ถือว่าน่าตื่นเต้นทีเดียวครับ นอกจากนั้นแล้วยังทำให้เกมมีความลื่นไหล และยังเพิ่มฟีเจอร์สนุกๆ เข้ามาอาทิ Cross-play สำหรับการเล่นเกมข้ามแพลตฟอร์ม และฟังก์ชันอื่นๆ ที่ส่งต่อมาถึงยุคปัจจุบันด้วย
4. ระบบ REV ที่ทำให้การต่อสู้มีมิติมากขึ้น
ระบบ REV ที่ทำให้ผู้เล่นได้วางแผนการต่อสู้อย่างเป็นกลยุทธ์เพื่อรักษาความร้อนแรงของตัวละครเรา หรือมุ่งเข้าสู่ระดับโอเวอร์ฮีตจนกลายเป็นเหมือนจักรกลสังหารในร่างมนุษย์ที่แข็งแกร่ง เมื่อผสมผสานเข้ากับการต่อสู้แบบ Two-lane Battle ที่เคยเป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นก็ทำให้เกมนี้ไม่ใช่การต่อสู้ธรรมดาแต่เป็นเหมือนกับการวัดใจ มีความลุ่มลึก เท่านั้นไม่พอใครที่เป็นมือใหม่ก็มีโหมดบังคับตัวละครทั้งแบบคลาสสิกตามสไตล์อาร์เคด และแบบเล่นง่ายกดไม่กี่ปุ่มก็ออกท่าแรงๆ ได้
5. ซีซันแรกรับตัวละครไปเลยฟรีๆ รวม 5 นักสู้

ตัวเกมที่วางจำหน่ายจะเป็นรูปแบบ Special Edition เป็นมาตรฐานอยู่แล้วและนั่นหมายความว่าจะมีคอนเทนต์เสริมให้เราได้ใช้งานกันเลย จุดเด่นก็คือ Season Pass ประจำฤดูกาลแรกที่จะเพิ่มตัวละครจาก 17 นักสู้ให้เป็น 22 นักสู้ภายในระยะเวลาหนึ่งปีแรก การันตีได้รับฟรีๆ ทุกคน ทั้ง Joe Higashi, Andy Bogard ไปจนถึง Mr. Big และยังมีแขกรับเชิญพิเศษอย่าง Ken กับ Chun-Li อีกด้วย!
6. แมตช์แห่งความฝัน! เมื่อจักรวาล Street Fighter โคจรมาพบกัน
เมื่อมี Ken กับ Chun-Li มาร่วมแจมแบบนี้ก็ต้องบอกเลยว่ามันคือแมตช์แห่งความฝันชัดๆ เพราะในที่สุด จักรวาลเกมตำนานกาโร่ และนักสู้ข้างถนน ก็ได้โคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกันเสียที โดยในปีที่ผ่านมา SNK ก็ได้ส่งทั้ง Terry และ Mai ไปแลกหมัดพร้อมมีบทบาทในฐานะตัวละครที่มีตัวตนจริงๆ ในจักรวาลเกม Street Fighter 6 แล้ว แบบนี้ในส่วนของ Fatal Fury: City of the Wolves จะมีบทบาทอย่างไรต้องรอลุ้นกัน
7. โหมดเนื้อเรื่องแบบ RPG

Fatal Fury: City of the Wolves มาพร้อมกับ Episodes of South Town ที่เป็นเนื้อเรื่องแบบสวมบทบาทให้เราทำภารกิจในฉากต่างๆ ที่มีเงื่อนไขการต่อสู้ไม่เหมือนกัน เก็บสะสมแต้ม XP และรางวัลอื่นๆ รวมไปถึงเพิ่มเลเวล อัปเกรดสกิล และต่อกรกับคู่ต่อสู้ ไปจนถึงการเล่นมินิเกมพิเศษที่ไม่มีในโหมดอื่น ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจไม่น้อยและจะช่วยให้เราได้เพลิดเพลินไปกับเกมได้วนไปไม่รู้จบ
8. ‘ปรีชา’ นักสู้หัวใจไทย และมีภาษาไทยสนับสนุนอย่างเป็นทางการ

เกมนี้ยังนำเสนอตัวละครใหม่อย่าง Preecha – ปรีชา สาวแว่นนักวิทยาศาสตร์ผู้ที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับพลังวิเศษบางอย่างเพื่อใช้ในการต่อสู้ เธอมาพร้อมกับการแต่งตัวจัดจ้านพร้อมชุดมวยไทย และศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทยที่ทรงพลัง แม้จะดูหวานแต่ต้องเตือนว่าสายโหดยังต้องร้องจ๊าก นอกจากนี้ SNK Asia ยังจัดหนักเอาใจคอเกมชาวสยามด้วยการสนับสนุนคำบรรยายภาษาไทยภายในเกมทั้งส่วนเมนู และเนื้อเรื่องด้วย
9. แขกรับเชิญสุดพิเศษ ทั้ง Cristiano Ronaldo และ DJ Salvatore Ganacci

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Fatal Fury: City of the Wolves จะสามารถดึงตัวนักเตะคนดัง Cristiano Ronaldo และดีเจ Salvatore Ganacci มาร่วมเป็นนักสู้กับเกมนี้ได้ และทั้งคู่ล้วนมีศิลปะการต่อสู้ที่เป็นเฉพาะตัว ผสมผสานความเป็นตัวเอง ทั้งนักเตะ ความหลงใหลในเสียงเพลง เข้ามาไว้อย่างลงตัว โดยเฉพาะเคสของ Salvatore Ganacci ที่พี่แกยังร่วมทำเพลงประกอบให้อีกต่างหาก นี่มันสุดยอดแห่งความปั๊วะ!
10. นี่คือโปรเจ็กต์ที่ใช้เวลาถึง 20 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมากมาย!
รู้หรือไม่ว่ากว่า Fatal Fury: City of the Wolves จะได้พัฒนาเป็นรูปเป็นร่างนั้นก็มีการดำเนินงานเบื้องหลังมาตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่เกมยังคงใช้บอร์ดประมวลผลสามมิติยุค NEOGEO และ AtomicWave จนกระทั่งต้องพับโปรเจ็กต์ไป ทว่าไม่มีใครหยุดความไฮป์และการเฝ้ารออย่างยาวนานได้เพราะในที่สุดงาน EVO 2022 ก็ได้มีการคอนเฟิร์มการพัฒนาเกมภาคนี้เสียที ไม่ว่าเกมเมอร์มือใหม่ หรือสายเรโทรก็ต้องน้ำตารื้น
เกี่ยวกับ Fatal Fury: City of the Wolves (รองรับภาษาไทย)
ตัวเกมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ทั้งบน PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC รวมไปถึง PS4 โดยภาคต่อของ Garou Mark of the Wolves และนำเสนอการต่อสู้สไตล์สองมิติ 1v1 ซึ่งนอกจากโหมดแคมเปญเนื้อเรื่อง Episode of South Town แล้ว เกมยังมาพร้อมกับความสนุกสไตล์ดั้งเดิมอย่างอาร์เคดและ Local VS. หรือจะฝึกซ้อมก็ได้ สำหรับโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอย่าลืมติดตามที่นี่เช่นเคยครับผม