Nintendo ยืนยันจะเริ่มโฟกัสการพัฒนาเกมเอ็กคลูซีฟ Switch 2 แล้วต่อจากนี้
ทั้งนี้ยังพอมีเกมสำหรับรุ่นแรกที่จะวางจำหน่ายในปี 2026 ด้วย

นับว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ได้รับการสนับสนุนยาวนานที่สุดเลยครับสำหรับ Nintendo Switch รุ่นแรกซึ่งได้ทำลายสถิติเดิมของเครื่องเล่นรุ่นก่อนหน้าในรอบหลายปี และจนถึงตอนนี้เอง Nintendo ก็ยังดูจะสนุกกับการพัฒนาเกมใหม่ให้กับเครื่องเล่น Switch 1 ด้วย ทั้งนี้ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา วันหนึ่งเครื่องรุ่นมาตรฐานก็จะต้องหมดความสำคัญไป และบางทีอาจจะใกล้ถึงเวลานั้นแล้วก็ได้
ภายในรายงานผลประกอบการล่าสุดของไตรมาสปัจจุบันในปีงบประมาณนี้ Nintendo ไม่เพียงแค่ นำยอดจำหน่ายของ Switch 2 ที่ตอนนี้แตะหลักสิบล้าน มาแบ่งปันเท่านั้น แต่ยังให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มการสนับสนุนเครื่องเล่นเกมรุ่นแรกด้วยเช่นกัน โดยพวกเขายืนยันว่าในอนาคตทางค่ายจะเริ่มโฟกัสกับเครื่องเล่นรุ่นใหม่เต็มตัว และขยับขยายธุรกิจด้วยการให้ความสำคัญกับ Switch 2 เป็นหลักเท่านั้นครับ

อย่างไรก็ตาม หลายคนน่าจะทราบดีว่าในตอนนี้ Nintendo Switch 1 ก็มีเกมที่จ่อคิวรอวางจำหน่ายอยู่ยาวจนถึงปี 2026 ซึ่งพวกเราก็อาจจะพอคาดเดาได้ว่าปีหน้าจะเป็นปีสุดท้ายสำหรับการสนับสนุนเพราะเกมแฟรนไชส์ใหญ่สำหรับเครื่องเล่นรุ่นแรกก็กำลังจะส่งท้ายปีในเดือนหน้า นั่นคือ Metroid Prime 4: Beyond และไม่ได้มีเกม AAA ที่จะวางจำหน่ายให้หลังจากนี้อีก อย่างน้อยก็ในแผนงานปัจจุบัน เหลือเพียง Rhythm Tengoku และ Tomodachi Life
ในทางกลับกันเกมใหญ่ของ Switch 2 ของปีหน้าก็มีมากมายทีเดียว ทั้ง Pokémon Pokopia, Yoshi and the Mysterious Book และ Fire Emblem ไปจนถึงเกมจากค่ายใหญ่ที่เริ่มทำให้รุ่นใหม่เป็นอันดับต้นๆ ทั้ง Final Fantasy VII Remake Intergrade, 007 First Light และ Resident Evil Requiem เทรนด์การสนับสนุนเครื่องเล่นรุ่นใหม่ ย่อมทำให้ผู้พัฒนารอบข้างเริ่มอยากทำเกมให้เครื่องเล่นที่แรงกว่า
บางทีสิ้นปี 2026 ก็มีแววที่เหลือเพียงเกมอินดี้ขนาดเล็กเท่านั้นสำหรับ Switch 1 ที่เป็นกลุ่มผู้พัฒนาที่ยังไม่ได้รับ DevKit สำหรับพัฒนาเกมใหญ่ๆ แต่มองอีกมุมก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ Nintendo อาจเลี้ยงผู้พัฒนากลุ่มนี้เพื่อสนับสนุนค่ายอิสระในฐานะที่ Switch รุ่นแรกเป็นแพลตฟอร์มสำคัญทั้งในแง่ฐานลูกค้าเดิม และยังคงเป็นแพลตฟอร์มเป้าหมายสำหรับคนที่ชื่นชอบเกมทางเลือก

เกี่ยวกับ Nintendo Switch 2
เครื่องเล่นเกมคอนโซลรูปแบบไฮบริดที่จะสานต่อความสนุกจากเครื่องเล่นรุ่นแรกในรูปแบบเน็กซ์เจ็น พร้อมกับหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว และการรองรับ HDR เช่นเดียวกับความละเอียด 1080P (หรือ 4K สำหรับการใช้งานบนโทรทัศน์) และเฟรมเรตระดับ 120FPS อีกทั้งยังมีความสามารถในการใช้ระบบ Voice Chat – Video Call ครบครัน รองรับความจุระดับ 256GB ปัจจุบันวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ใครสนใจติดตามรีวิวข้างล่างจาก ThisIsGame Thailand ได้เลย







