Smash Bros. เกือบไม่มีภาคต่อหลังจาก Melee บน GameCube
แต่ผู้สร้างก็เกิดไอเดียการทำภาคใหม่ขึ้นมาจากคุณ Iwata ผู้ล่วงลับ
หากจะพูดถึงเกมต่อสู้ที่ได้รับการสนับสนุนและทำยอดจำหน่ายได้สูงที่สุดนั้นต้องบอกเลยว่า Super Smash Bros. เองก็เป็นซีรีส์เกมที่ได้รับความนิยมมากในทุกๆ ภาค และแม้จะมีบางภาคที่วางจำหน่ายได้น้อยกว่าภาคอื่น ทว่าความยิ่งใหญ่และการป้อนคอนเทนต์ก็นับว่าจัดเต็มเลยครับ อย่างไรเสียใครจะรู้ว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้นั้น ความจริงแล้วเกมอาจจะถึงวาระสิ้นสุดกันตั้งแต่เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนแล้ว
คุณ Masahiro Sakurai ผู้อยู่เบื้องหลังเกมนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักร้อง Gen Hoshino ในคอลัมน์พิเศษบนเว็บไซต์ส่วนตัวของเขาถึงการทำงานในเกมให้ฟัง และมีการย้อนกลับไปสู่ช่วงเริ่มต้นเลยว่าหากไม่ใช่คุณ Satoru Iwata ผู้บริหารผู้ล่วงลับ เขาก็คงไม่เข้ามายัง HAL Laboratory เพื่อทำงานในเกม Kirby และเกม Smash Bros. ในเวลาต่อมา และที่สำคัญที่สุด หลังจากภาค Melee บน GameCube แล้ว เขาก็ตั้งใจที่จะไม่ได้ทำเกมต่อเพราะตนก็ลาออกจาก HAL เป็นที่เรียบร้อย
กระทั่งเมื่อคุณ Satoru ได้ติดต่อเขามาอีกครั้งให้ทำเกม Super Smash Bros. ภาค Brawl บน Wii และจากนั้นเป็นต้นมาก็ได้ทำงานต่อเรื่อยๆ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าคุณ Satoru เป็นส่วนสำคัญมากๆ ที่ทำให้เกมนี้ยังคงอยู่ต่อมาถึงปัจจุบัน และถ้ายังจำกันได้ คุณ Masahiro ก็ยืนยันว่าภาคใหม่ล่าสุดอย่าง Ultimate ก็ยังถือเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณ Satoru ต้องการให้เขาทำก่อนที่จะจากไปตลอดกาลนั่นเองครับ สำหรับใครที่สนใจติดตามเนื้อหาเต็มๆ ก็ลองเข้าชมหน้าเว็บของ Hoshino Gen ได้ที่นี่ (>>คลิก<<)
Super Smash Bros. Melee วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2001 บนเครื่องเล่น Nintendo GameCube โดยเป็นเกมแนวต่อสู้ปาร์ตี้ รองรับผู้เล่น 4 คนพร้อมกัน ผู้เล่นจะได้เลือกตัวละครจากเกมในเครือ Nintendo เข้ามาต่อสู้ในสมรภูมิสุดมันส์ ตะลุยด่านแบบคลาสสิกหรือโหมดแอดเวนเจอร์ที่มีเนื้อเรื่องแบ่งตามแฟรนไชส์เกม เช่นเดียวกับโหมดภารกิจ หรือมินิเกมปลดล็อกถ้วยรางวัลโมเดลตัวละครต่างๆ
