Sony กำลังเดินหน้าเตรียมวางขายคอนโซล Playstation 5 รุ่นใหม่ที่มีสมรรถณะสูงขึ้น โดยอาจปล่อยวางขายได้ภายในปลายปีนี้ หลังจากรายงานที่เปิดเผยข้อมูลสเปกของ PS5 Pro รั่วไหลออกมาเมื่อไม่นานมานี้ บรรดาแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับแผนการของ Sony บอกกับทีมงาน The Verge ว่าทางทีมพัฒนาเกมต่างถูกขอให้สร้างความมั่นใจว่าเกมของพวกเขาจะสามารถใช้งานได้กับคอนโซลตัวถัดไปที่กำลังจะมากับฟีเจอร์ที่ปรับปรุงระบบ Ray Tracing ให้ดีขึ้น
ภายใต้ชื่อรหัส Trinity เครื่องคอนโซลตัวใหม่ PlayStation 5 Pro จะมาพร้อมกับ GPU ที่มีพลังมากกว่าและมี CPU ที่ทำงานเร็วขึ้น การปรับเปลี่ยนทั้งหมดของ Sony บ่งชี้ว่า PS5 Pro จะมีความสามารถในการเรนเดอร์เกมที่มีการเปิดใช้ Ray Tracing หรือแม้แต่ผลักดันกราฟิกขึ้นจนแตะระดับความละเอียดและเฟรมเรตที่สูงกว่าได้ในบางเกม ดูเหมือน Sony กำลังสนับสนุนให้นักพัฒนาใช้งานฟีเจอร์ด้านภาพเช่นเรย์เทรซิ่งอย่างเต็มที่มากขึ้นบน PS5 Pro โดยเกมที่ “มอบประสบการณ์การเล่นที่ดีขึ้นมาก”จะได้รับสิทธิ์ติดป้าย “Trinity Enhanced” (PS5 Pro Enhanced) ด้วย
ทาง Sony คาดการณ์ว่าการเรนเดอร์ GPU ของ PS5 Pro จะ “ทำงานเร็วกว่า PlayStation 5 รุ่นธรรมดาประมาณ 45%” โดยอ้างอิงจากเอกสารที่สรุปข้อมูลเกี่ยวกับคอนโซลรุ่นใหม่นี้ GPU ของ PS5 Pro จะมีขนาดใหญ่กว่าและใช้หน่วยความจำระบบที่เร็วกว่าซึ่งจะช่วยปรับปรุงการ Ray Tracing ในเกมได้ นอกจากนี้ Sony ยังใช้ “สถาปัตยกรรม Ray Tracing ที่ทรงพลังกว่า” ใน PS5 Pro ที่มีความเร็วสูงถึงสามเท่าเมื่อเทียบกับ PS5 ปกติ
“Trinity คือ PlayStation 5 เวอร์ชั่นไฮเอนด์” มีระบุไว้ในเอกสารฉบับหนึ่ง โดย Sony กำลังบอกเป็นนัยว่าจะยังคงวางขายรุ่น PS5 ธรรมดาต่อหลังจากรุ่นใหม่วางจำหน่ายแล้ว และ Sony คาดหวังว่านักพัฒนาเกมจะสร้างเกมให้รองรับกับทั้ง PS5 และ PS5 Pro และออกแพทช์เสริมให้เกมที่วางขายไปแล้ว มีสมรรถณะที่สูงขึ้นเมื่อเล่นกับเครื่อง PS5 Pro ด้วย
นอกจากนี้นักพัฒนาสามารถสั่งชุดทดสอบหรือ Test Kit ของเครื่อง PS5 Pro ไปใช้พัฒนาเกมได้แล้ว และ Sony คาดหวังว่าทุกเกมที่ส่งเข้ามาให้ตรวจสอบ จะรับรองการทำงานกับ PS5 Pro ได้ทั้งหมด ซึ่งเว็บไซต์ Insider Gaming เป็นสำนักข่าวแรกที่รายงานสเปก PS5 Pro เต็มรูปแบบและระบุว่าคอนโซลรุ่นนี้มีแผนจะวางจำหน่ายในช่วงเทศกาลปลายปี 2024
แม้ทาง Sony กำลังปรับปรุงด้าน GPU ให้กับ PS5 Pro แต่ CPU จะยังเป็นตัวเดียวกับตอน PS5 ธรรมดาแต่มีโหมดใหม่ที่ปรับความเร็วให้สูงขึ้น “Trinity มีโหมดที่กำหนดเป้าความเร็วซีพียูไว้ที่ 3.85GHz” มีระบุไว้ในเอกสารของ Sony ให้กับนักพัฒนา ซึ่งเร็วกว่า PS5 ปกติประมาณ 10% และ Sony จะเปิดโอกาสให้นักพัฒนามีตัวเลือกได้ระหว่าง “โหมดธรรมดา” ที่ 3.5GHz หรือ “โหมดความเร็ว CPU สูง” ที่ 3.85GHz
โหมดธรรมดาทำงานเหมือนกับ PS5 ปกติ มันจะทำงานที่ 3.5GHz ถ้าปริมาณพลังงานเอื้อให้ หรือปรับความเร็วลงหาก PS5 กำลังประมวลผล “การทำงานที่ต้องใช้พลังงานสูง” Sony บอกว่าช่วงเวลาที่ต้องลดความเร็วลงมานั้นแทบไม่เกิดขึ้น และกำลังไฟส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้กับ CPU จะถูกส่งไปให้ GPU แทน
PS5 Pro จะมีการปรับเปลี่ยนหน่วยความจำระบบสำหรับนักพัฒนาด้วย หน่วยความจำ PS5 ปกติทำงานที่ 448GB/s แต่ Sony จะเพิ่มความเร็วขึ้นอีก 28% เป็น 576GB/s บน PS5 Pro เนื่องจากระบบหน่วยความจำของ PS5 Pro จะทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น “ตัวเลขของแบนด์วิดท์อาจพุ่งเกิน 28%” Sony กล่าวไว้
นักพัฒนายังสามารถเข้าใช้หน่วยความจำระบบโดยรวมได้มากขึ้นด้วย เกมจะใช้หน่วยความจำได้มากขึ้นอีก 1.2GB ใน PS5 Pro ทำให้ใช้งานได้รวม 13.7 GB เมื่อเทียบกับใน PS5 รุ่นเดิมที่ใช้ได้ 12.5 GB
การเพิ่มความเร็วหน่วยความจำ “อาจจะเป็นประโยชน์” สำหรับการรองรับระบบ PlayStation Spectral Super Resolution (PSSR) อันเป็นฟีเจอร์ใหม่ของ Sony ซึ่งพื้นฐานแล้วนี่คือการแก้ปัญหาจาก Sony ในด้านการปรับขนาดภาพหรืออัปสเกล เพื่อเพิ่มเฟรมเรตและคุณภาพของภาพบน PlayStation โดย Sony ได้สร้าง “สถาปัตยกรรมเฉพาะสำหรับการเรียนรู้ของเครื่องจักร” ซึ่งรองรับการประมวลผล 8 บิตที่ 300TOPS
สถาปัตยกรรมใหม่นี้รองรับวิธีการปรับขนาดภาพแบบ PSSR ของ Sony ที่ถูกออกแบบมาให้เข้าแทนที่การใช้ anti-aliasing และ Sony ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า “การทำงานค่อนข้างคล้ายคลึงกับ DLSS หรือ FSR” และจะมีการรองรับ HDR เต็มรูปแบบ การรองรับนี้กินพื้นที่หน่วยความจำราว 250MB ซึ่งนี่จะเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องมีการจัดสรรหน่วยความจำที่มากขึ้นใน PS5 Pro โดยทาง Sony บอกว่ามีช่วงเวลาหน่วงอยู่ที่ราวๆ 2 มิลลิวินาทีตอนกำลังทำการอัปสเกลภาพจาก 1080p ขึ้นไปเป็น 4K และทางบริษัทกำลังทำเพื่อรองรับความละเอียดสูงสุดถึง 8K แถมยังปรับปรุงให้ความหน่วงดีขึ้นในอนาคตด้วย
หากเหล่านักพัฒนาสามารถเตรียมเกมของตัวเองได้ทันเวลา พวกเราเชื่อลึกๆ ว่าจะได้เห็นการเปิดตัวของ PS5 Pro ในช่วงเทศกาลปลายปีนี้ทันเวลา และดูเหมือนว่า Sony กำลังทำตามแผนเดียวกับ PS4 โดยจะมี PS5 รุ่น “Slim” แล้วตามด้วยรุ่น Pro ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งเราน่าจะได้เห็นเกมเก่าๆ ที่ “ปรับปรุง” แล้วเพื่อรองรับการเปิดตัวของ PS5 Pro และเกมใหม่ๆ จากทีมผู้พัฒนาของค่าย Sony เอง ก็จะทยอยกันออกวางขายพร้อมกับรองรับ Ray Tracing ที่ดีขึ้นในคอนโซลรุ่นใหม่