Bloodborne มีผู้เล่นสูงขึ้นถึง 57% จากปกติหลังเปิดตัว DLC Elden Ring

ต้องยอมรับเลยว่า Bloodborne นั้นเป็นผลงาน Souls-like ขนานแท้จากผู้พัฒนาเพียงเกมเดียวที่ยังไม่สามารถรันได้บนเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ได้แบบลื่นๆ หรือมีการปรับปรุงภาพให้สวยงามขึ้น และแน่นอนว่าด้วยสถานะการสนับสนุนที่สั้นด้วยเนื้อหาเสริมเพียงชุดเดียว เท่านั้นไม่พอยังหาเล่นได้แค่บนแพลตฟอร์มคอนโซล ก็ทำให้มีกระแสเรียกร้องให้สปอตไลต์กลับมาหาเกมนี้อีกครั้งเหมือนกันกับ Demon’s Souls

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการพิสูจน์ได้ว่าความจริงแล้ว Bloodborne ก็สามารถรันเกมที่ 60FPS นิ่งๆ ได้บนอุปกรณ์ที่ถูกปรับการประมวลผลด้วยวิธี Overclock หรือดัดแปลงเครื่อง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการปล่อยแพตช์แบบทางการให้แฟนเกมได้ฟินกับภาพลื่นๆ เสียที ทั้งนี้ทั้งนั้นล่าสุดก็มีการแสดงสัญลักษณ์ถึงการเรียกร้องการสนับสนุนของเกมนี้กันอีกครั้ง หลังจากที่ Shadow of the Erdtree คอนเทนต์เสริมของ Elden Ring ได้เปิดตัวหมาดๆ ในเดือนที่ผ่านมา

มีการเปิดเผยถึงสถิติการเข้าเล่นเกม Bloodborne ในเดือนมิถุนายนบน TrueTrophies มาฝากกันด้วย ซึ่งพบว่าช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้เข้าเล่นเกมเพิ่มขึ้นประมาณ 3.1 ล้านคน หรือมากกว่าปกติที่ 57% เลย แน่นอนว่ามันอาจจะเป็นได้ทั้งการเล่นทดแทนสำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อ DLC ดังกล่าว, การเล่นเพื่อฝึกฝีมือก่อนลงสนามจริง หรือการติดใจจาก DLC แล้วเลยอยากกลับมาเล่นเกมอื่นของค่าย FromSoftware อีกครั้ง แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามีผู้ที่ต้องการสนับสนุนเกมนี้อย่างต่อเนื่อง

ไม่มีใครตอบได้ว่าทำไมเกม Bloodborne นั้นถึงไม่ได้รับการอัปเดตคอนเทนต์เพิ่มเติมหรือการสนับสนุนโหมดแสดงผลเฟรมเรตและปรับกราฟิกเหมือนกับเกมอื่นอย่าง Days Gone และ Horizon Zero Dawn ในช่วงที่ผ่านมา ทว่าก็ต้องบอกเลยว่าฐานแฟนเกมของเกมนี้เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่และมีผู้ให้ความสนใจด้วยธีมที่แตกต่างและเนื้อหาที่น่าติดตาม สำหรับเพื่อนๆ ล่ะครับ ได้กลับมาเล่นบ้างไหม ลองมาพูดคุยกับ ThisIsGame Thailand ได้นะ

อีกด้านหนึ่ง เกมนี้วางจำหน่ายครั้งแรกบน PlayStation 4 ในปี 2015 โดยเป็นผลงานของ FromSoftware ผู้อยู่เบื้องหลังซีรี่ส์ Souls สุดหัวร้อนนั่นเอง ตัวเกมมาพร้อมกับสภาพแวดล้อมสไตล์โกธิคที่ฉีกแนวจากโลกดาร์กแฟนตาซีในผลงานเกมอื่นๆ ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นนักล่าที่เดินทางในเมือง Yharnam อันเต็มไปด้วยอันตราย ความตาย และคาวเลือดในทุกหนแห่ง รองรับการเล่นแบบ Co-op และโหมดดันเจี้ยนแรนดอมที่ท้าทายความสามารถ