ผู้สร้าง Baldur’s Gate 3 เปิดใจ ‘Dragon Age: The Veilguard เป็นเกมแรกที่รู้ตัวเอง’
เล่นได้สนุกจนหยุดเล่นไม่ได้

Michael Douse ผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่ของ Larian Studios ผู้พัฒนาเกม Baldur’s Gate 3 ได้ออกมาแสดงความชื่นชมต่อเกม Dragon Age: The Veilguard โดยยกย่องว่าเป็นภาคแรกของซีรีส์ Dragon Age ที่ “รู้ตัวว่าต้องการเป็นเกมแบบไหน”
Douse เป็นที่รู้จักจากการโพสต์คอมเมนต์บนโซเชียลมีเดียแบบขวานผ่าซากไม่มีการเกรงใจกันแต่อย่างใด โดยก่อนหน้านี้เขาเคยวิจารณ์ Ubisoft หลังจากที่เกม Prince of Persia: The Lost Crown ไม่ประสบความสำเร็จ และเคยพูดถึงวัฒนธรรมการเลิกจ้างในวงการเกม และอื่น ๆ อีกมากมาย
Dragon Age: The Veilguard มาถูกทางแล้ว
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ Douse กลับมาในบทบาทเชิงบวกที่ทำให้หลายคนประหลาดใจ โดยเขากล่าวถึงเกม The Veilguard ว่า “เกมนี้เป็นเหมือนซีรีส์ Netflix ที่ดี มีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ ระบบต่อสู้ผสมผสานระหว่าง Xenoblade และ Hogwarts ซึ่งเป็นไอเดียที่ชาญฉลาดมาก”
นอกจากนี้ Douse ยังชื่นชมการพัฒนาตัวละครและเนื้อเรื่องของเกม โดยระบุว่า “นี่คือเกม Dragon Age ภาคแรกที่รู้ตัวว่าต้องการเป็นอะไร” และ “เป็นเกมแอ็กชั่น RPG ที่สนุกและไม่หนักหน่วงเกินไป” ซึ่งความเห็นของ Douse สอดคล้องกับรีวิวของ Robert Purchese จาก Eurogamer ที่ยกย่อง The Veilguard ว่าเป็นเกม RPG ที่ยอดเยี่ยมและมีความสมบูรณ์แบบทั้งระบบเกมและการเล่าเรื่อง
และปิดท้ายคอมเมนต์ Douse ยังได้แสดงความยินดีกับ BioWare ที่สามารถสร้างเกมที่ดีออกมาได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของวงการเกม และเขาเองก็ย้ำว่าเกมนี้สนุกมาก ๆ จนเขา “เลิกเล่นไม่ได้” เลยทีเดียว
Dragon Age: The Veilguard เป็นเกมแนวแอ็กชั่นสวมบทบาทที่ผู้เล่นจะได้ออกผจญภัยในดินแดน Thedas ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ผู้เล่นจะได้เรียนรู้ศาสตร์การต่อสู้ทั้งเวทมนตร์และอาวุธ ผ่านเนื้อเรื่องที่เข้มข้น เต็มไปด้วยมิตรภาพ ความรัก การทรยศ และบทบาทของผู้เล่นในการกอบกู้โลก เกมภาคนี้เน้นไปที่เนื้อเรื่องของตัวละคร NPC เพื่อนร่วมทาง แต่ละตัวจะมีประวัติที่แตกต่างกัน และตัวเลือกการตอบคำถามของเราจะมีผลต่อชีวิตของพวกเขาโดยตรง เนื้อเรื่องของแต่ละบทจะเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ และตัวละครของเราเองก็สามารถปรับแต่งได้ทั้งรูปลักษณ์และความสามารถผ่านระบบ Skill Tree