พอพูดถึงซีรี่ส์ Dark Souls สิ่งใครหลายคนจะต้องคิดถึงเป็นอย่างแรก คงไม่พ้นซีรี่ส์เกมสุดโหดที่พกความยากมาถล่มผู้เล่นอย่างไม่ปรานี แต่นอกจากความดิบเถื่อนของตัวเกมเอง Dark Souls ยังมีฐานผู้เล่นระดับปีศาจที่เคยสร้างผลงานยอดมนุษย์มาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นจบเกมแบบ No Damage, การเล่นจนจบได้โดยการใช้ตัวละครเลเวล 1 ไปจนถึงการเล่นสุดพิสดารด้วยการใช้จอยบังคับแปลกๆ ที่ทำจากกล้วยเลยก็มีนะจะบอกให้
และสำหรับใครที่ไม่คุ้นเคยกับเกมซีรี่ส์นี้มาก่อน Dark Souls คือเกม Action RPG ที่มีทั้งการเลือกคลาส, เลือกอาวุธ และการอัพเลเวลคล้ายกับเกม RPG ทั่วๆ ไป แต่ความต่างที่ทำให้ซีรี่ส์ฉีกตัวออกจากเกมอื่นๆ ก็คือความยากที่มาอย่างจัดเต็มชนิดที่ทุกอย่างภายในเกม (ย้ำว่าทุกอย่างจริงๆ) สามารถฆ่าคุณได้ง่ายๆ ตั้งแต่มอนกี๊ๆ ที่ตบเราแค่สองสามทีก็นอนแล้ว ไปจนถึงศัตรูระดับบอสที่บอกเลยว่าหลายตัวเหมือนถูกแบบมาเพื่อฆ่าเราชัดๆ แต่แม้ว่าความยากเดิมของเกมจะดิบเถื่อนมากขนาดนี้ มันก็ยังไม่ยากพอสำหรับผู้เล่นบางคนจนเป็นเหตุให้หลายครั้ง พวกเขาเหล่านี้ต้องตั้งชาเลนจ์สุดโหดเพื่อทำให้การเล่นยากขึ้นไปอีก
อย่างล่าสุดนี้ได้มีสตรีมเมอร์อีกหนึ่งรายชื่อว่า FryderyG ที่ได้เข้ามาร่วมวงทำชาเลนจ์สุดพิสดารในเกม Dark Souls โดยเจ้าตัวได้ตั้งโจทย์ไว้ว่าตัวเองจะทำการปราบบอสอัศวิน Artorias แบบ No Damge, ปิดตาระหว่างเล่น และใช้จอยเปียโนในการบังคับ เรียกได้ว่าเป็นโจทย์ที่ยากและบ้ามากๆ เพราะโดยปกติแค่การปราบบอสแบบ No Damage ใน Dark Souls ถือเป็นเรื่องที่ยากอยู่แล้ว ยิ่งบอสที่เขาต้องต่อกรด้วยอย่าง Artorias ก็ถือเป็นหนึ่งในบอสที่สู้ยากที่สุดของ Dark Souls ภาคแรก บวกกับการที่เจ้าตัวเพิ่มความยากเสริมขึ้นไปอีกทั้งการปิดตาและใช้จอยพิลึกๆ ในการเล่นอีก บอกเลยว่าถ้าเป็นไปได้อย่าหาทำจะดีกว่า
แต่สำหรับใครที่สงสัยว่า FryderyG สามารถปราบบอสตัวนี้ขณะที่ปิดตาได้อย่างไร คำตอบก็คือภายในเกม Dark Souls การต่อสู้กับบอสทุกตัวจะมีการออกท่าก่อนการโจมตีพร้อม Sound Que หรือเสียงประกอบที่จะแตกต่างกันในแต่ละท่าโจมตี ทำให้คนเล่นที่คุ้นชินกับการต่อสู้บอสตัวนั้นๆ สามารถรู้ได้ว่าศัตรูกำลังจะใช้ท่าโจมตีท่าไหนโดยไม่ต้องมองนั่นเอง ซึ่งแม้จะฟังดูเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายแต่ผมขอบอกเลย ว่าตอนเล่นจริงถ้าไม่สังเกตดีๆ การจะจดจำทั้งท่าทางและเสียงการโจมตีของบอสทุกตัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เรียกได้ว่าผลงานล่าสุดของ FryderyG เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าคอมมูนิตี้ผู้เล่นของ Dark Souls นั้นไม่ธรรมดาจริงๆ
