ของมันขลัง! ผู้ใช้ทดสอบแล้ว Super Famicom ยิ่งเก่า ยิ่งมีความเร็วมากขึ้น
แต่ปกติของใช้อิเล็กทรอนิกส์มันควรสึกหรอตามกาลเวลานี่นา!

ตลอดระยะเวลามากกว่า 40 ปีที่ผ่านมา เครื่องเล่นเกมอิเล็กทรอนิกส์หรือที่เรียกว่า Home Console ก็มีวิวัฒนาการมากมายเลยครับ แต่ก็ปฏิเสธได้ยากว่าเมื่อมีการใช้งานเป็นประจำต่อเนื่อง หลายต่อหลายรุ่นก็อาจจะต้องมีปัญหาสึกหรอตามการเล่นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าจะมีการค้นพบครั้งใหม่ที่ทำให้หลายคนเป็นอันเหวอ เมื่อ Super Famicom หรือเครื่องซูเปอร์นั้นกลับมีผลทดสอบชวนน่าตกใจขึ้นเสียอย่างนั้น
Time Extension ได้นำเรื่องราวของการทดสอบโดยผู้ใช้งานบางกลุ่มใน Bluesky มาบอกเล่าให้ฟังว่าเทคโนโลยีตัวประมวลผลด้านเสียงในเครื่องเล่นเกมรุ่นนี้มีวัสดุเป็นเซรามิกชนิดนึง ที่ในตอนนี้เมื่อเวลาผ่านจากการวางจำหน่ายมามากกว่า 30 ปี ก็จะร้อนขึ้นเป็นธรรมดา แต่เพราะตัววัสดุมันเป็นเซรามิก ก็เลยทำให้สามารถคล็อกความเร็วขึ้นมาได้ เห็นแบบนี้แล้วชุมชนผู้เล่นใน Bluesky จึงตัดสินใจทำแบบสำรวจ พร้อมให้ผู้ที่มีความพร้อมในการใช้ตลับ Flashcart ลองดาวน์โหลด ROM ที่เป็นไฟล์ Benchmark ไปพิสูจน์กัน
เมื่อเวลาผ่านไปก็มีการทดสอบมากกว่า 140 คนในกลุ่มตัวอย่าง และผู้เล่นเหล่านี้ก็ได้ทดสอบรันเครื่องกันเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งพบว่าตัวประมวลผลสามารถวิ่งเร็วขึ้น 7Hz จริงๆ โดยแม้จะไม่ได้เป็นการใช้งานที่เห็นชัดเจนในเวลาใช้งานจริง ทว่าก็ทำให้กลายเป็นความตื่นเต้นขึ้นมาเลยเพราะแทบจะไม่เห็นคอนโซลรุ่นไหนที่สามารถอัปเกรดตัวเอง (ในทางเทคนิค) ได้จากการใช้งานเลย กระนั้นด้วยความที่มันวิ่งเร็วขึ้น ก็จะพบว่าเครื่องเรนเดอร์เสียงออกมาแหลมขึ้นมาเล็กน้อยเหมือนกัน
สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปอย่างพวกเราอาจจะไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องหาทางดัดแปลงตลับเกมหรือใช้ตัวอ่าน ROM เพื่อมาทดสอบ เพราะเพียงแค่สามารถรันขึ้นมาได้นิ่งๆ ไม่งอแง ก็คงจะดีเกินพอแล้ว ซึ่งนอกเหนือจากการหาเล่นเครื่องแท้ที่ไม่ค่อยจะมีให้เล่นเท่าไรแล้วในตอนนี้ ใครที่คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเรโทร NSO – Super Famicom ผ่าน eShop บน Switch มาเล่นกันก่อนเพลินๆ ได้ ในโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอย่าลืมติดตามที่นี่เช่นเคย
หมายเหตุ: การทดสอบนี้อ้างอิงจากเครื่องเล่นในรุ่นตะวันตก
สำหรับ Super Famicom มีการวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1990 โดยมีจุดเด่นเรื่องพัฒนาการด้านกราฟิกกับเสียงดนตรี รวมไปถึงการประมวลผลที่ดียิ่งขึ้นในระดับ 16-bit และกลายเป็นเครื่องเล่นเกมที่มีการปูรากฐานเกมดังๆ ให้มากมายทั้ง Street Fighter หรือ The Legend of Zelda ที่มีเนื้อหาชัดเจนขึ้น เช่นเดียวกับเกม RPG จากค่าย Square Soft และ Nintendo โดยสามารถทำยอดจำหน่ายทั่วโลกได้ที่ 49.1 ล้านเครื่องทั่วโลก