[รีวิว] Sony PULSE Elite

หูฟังไร้สาย Sony PULSE Elite เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกับ PlayStation ที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็นทางออกสำหรับการเล่นเกมและการใช้งานรอบด้าน มาพร้อมกับความอิสระในการเชื่อมต่อที่เข้ากันได้กับทุกอุปกรณ์ และดีไซน์ที่แตกต่างหูฟังรุ่นอื่น ว่าแต่จะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้างเราไปหาคำตอบกันเลย

Design

Sony PULSE Elite มีการออกแบบที่แตกต่างจากหูฟังรุ่นอื่น โดยการออกแบบในแง่ของลวดลายและเส้นที่นำมาใช้สอดคล้องกับ PlayStation 5 ตัวเลือกสีมีด้วยกัน 2 แบบคือขาวและดำ โดยถ้าหากเป็นสีขาวจะเห็นได้ชัดว่าทำมาให้เข้ากับเครื่องคอนโซลชัดเจน อย่างไรก็ตามการใช้งานสีดำ ทำให้ตัวหูฟังเข้ากันได้กับทุกสถานการณ์กว่าเดิม

สำหรับวัสดุที่ใช้งานเป็นแบบพลาสติก ทำให้มีความทนทานต่อการใช้งานอย่างไรก็ตามสัมผัสที่ได้อาจไม่ได้ดูพรีเมียมมากนัก ในส่วนที่สัมผัสกับเราโดยตรงใช้งานเป็นหนังเทียมที่มีความนุ่ม ช่วยให้เวลาใช้งานไม่รู้สึกว่าอึดอัดที่ต้องใช้เป็นเวลานาน อย่างไรก็ตามด้วยความที่วัสดุที่ใช้งานและลักษณะการประกอบที่ทำให้เป็นชิ้นเดียว หากมีความเสียหายขึ้นอาจทำให้เปลี่ยนได้ยาก

น้ำหนักของหูฟังรุ่นนี้อยู่ที่ 347 กรัม หนักกว่ารุ่นก่อนที่ทาง Sony เคยเปิดตัวออกมาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อมีการใช้งานจริงไม่ได้รู้สึกถึงน้ำหนักดังกล่าวมากนัก อาจมาจากการออกแบบที่มีการแบ่งส่วนที่สัมผัสกับผู้ใช้งานจริง และโครงสร้างที่แยกกันชัดเจน ทำให้การถ่ายเทน้ำหนักถูกกระจายออกมาได้เป็นอย่างดี

การปรับระดับของหูฟังรุ่นนี้ไม่มีอะไรที่ซับซ้อนเพราะเป็นการออกแบบมาให้ปรับได้ตามแต่สรีระของผู้ใช้งาน ทำให้ไม่ต้องคอยมากังวลว่าตำแหน่งที่ใช้งานจะเพี้ยนเมื่อกลับมาใช้งานอีกรอบ

สำหรับปุ่มและพอร์ตที่ให้มาใช้งานมาพร้อมกับปุ่มเพิ่มและลดระดับเสียง ปุ่มเปิดและปิดการใช้งานหูฟัง ที่ทำหน้าที่เป็นการเชื่อมต่อระหว่าง PlayStation Link และการเชื่อมต่อกับ Bluetooth พอร์ต USB-C สำหรับชาร์จ พอร์ต 3.5 มิลลิเมตร สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับ ขณะที่อีกด้านเป็นส่วนของไมโครโฟนที่เก็บได้และปุ่มสำหรับเปิดและปิดไมโครโฟน ไฟสถานะอยู่ที่สองจุดคือบริเวณปลายของไมโครโฟน และไฟแสดงสถานะการแบตเตอรี่และการเชื่อมต่อที่ด้านขวามือ

นอกจากหูฟังแล้วยังมีแท่นชาร์จที่ให้มาด้วย โดยเราสามารถที่จะยึดติดเข้ากับกำแพงหรือที่ต่าง ๆ แล้วสามารถชาร์จแบบไร้สายได้ในตัว ซึ่งเราสามารถชาร์จได้ทั้งผ่านแบบไร้สายและผ่าน USB-C ได้โดยตรง

Experience

สำหรับไดรเวอร์ที่มีการนำมาใช้งานกับ Sony PULSE Elite คือ Planar Magnetic ทำให้ได้เสียงที่มีการเก็บรายละเอียดครบในทุก ๆ ย่านเสียง เสียงที่ได้จะไม่ได้โดดไม่ทางใดทางหนึ่ง ทำให้เสียงที่ได้จะถูกทำให้เป็นธรรมชาติ เสียงเบสที่ได้ไม่ได้หนักแน่นจนน่ารำคาญแต่เหมาะกับการฟังได้แบบต่อเนื่อง การเลือกใช้ไดรเวอร์ดังกล่าวทำให้แตกต่างจากรุ่นอื่นในตลาดพอสมควร

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการรองรับระบบ Tempest 3D AudioTech เมื่อใช้งานร่วมกับ PlayStation 5 ทำให้เวลาที่เราเล่นเกมได้รับความสมจริงยิ่งขึ้น เนื่องจากตำแหน่งของเสียงที่ได้จะมาแบบรอบทิศทาง การใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวจะรองรับเฉพาะกับการใช้งานร่วมกับคอนโซลเท่านั้น และหากใครที่มีเครื่องอยู่แล้วหากใช้งานร่วมกับหูฟังรุ่นนี้จะได้รับประสบการณ์ที่เต็มอิ่มไม่น้อย

มาว่ากันที่การเชื่อมต่อกันบ้างนี่เรียกว่าเป็นหูฟังที่ครบเครื่องในแง่ของการเชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้แทบจะทั้งหมด เริ่มกันที่ PlayStation Link เทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่มีความหน่วงต่ำพิเศษและไม่ลดทอนคุณภาพของสิ่งที่ได้ เงื่อนไขการใช้งานเราจำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่อ USB-A ที่ให้มาภายในกล่องเข้ากับอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็น PlayStation 5, PC, Mac และอื่น ๆ จากนั้นกดปุ่มที่หูฟังก็พร้อมสำหรับใช้งานแล้ว

หรือถ้าหากอุปกรณ์ที่ใช้ไม่รองรับการเชื่อมต่อ USB-A โดยตรง สามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้ โดยอุปกรณ์ที่ใช้งานแน่นอนว่าหนีไม่พ้นสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต โดยสามารถเชื่อมต่อ PlayStation Link และ Bluetooth ได้พร้อมกัน และสามารถกดสลับเพื่อใช้งานอีกโหมดได้ ข้อจำกัดที่เราพบเมื่อใช้งานผ่าน Bluetooth คือไม่สามารถกดปุ่มเพิ่มและลดระดับเสียงจากตัวหูฟังได้ ต้องปรับผ่านตัวเครื่องเท่านั้น

นอกจากนี้หากใครที่ต้องการใช้งานแบบมีสายก็สามารถใช้งานผ่านพอร์ต 3.5 มิลลิเมตรได้เช่นกัน โดยพอร์ต USB-C ใช้งานสำหรับการชาร์จเท่านั้น ไม่สามารถที่จะส่งสัญญาณเสียงออกมาได้

ในส่วนของไมโครโฟนมีการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยใช้งานในการตัดเสียงรบกวนภายนอก โดยจะทำการแยกประเภทของเสียงออกจากกันและนำเสียงที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป ทำให้การพูดผ่านไมโครโฟนมีความชัดเจนยิ่งขึ้น จากการทดสอบพบว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี

สำหรับซอฟต์แวร์ในการปรับแต่งไม่ได้มีการพัฒนาออกมาโดยจะสามารถปรับได้มากที่สุดผ่านการใช้งานกับ PlayStation 5 ขณะที่การใช้งานผ่านอุปกรณ์อื่น ๆ จะเป็นการปรับแต่งผ่านเครื่องที่ใช้งานเท่านั้น

สำหรับแบตเตอรี่จากข้อมูลสามารถใช้งานได้สูงสุด 30 ชั่วโมงเมื่อชาร์จเต็ม ถือว่าเป็นตัวเลขที่กำลังดีสำหรับหูฟังไร้สาย และการทดสอบจริงสามารถที่จะทำได้ใกล้เคียงกับตัวเลขดังกล่าว และมีบางครั้งที่ทำได้นานกว่านั้น ช่วยให้การใช้งานไม่ว่าจะเล่นเกมหรือใช้กับสื่ออื่น ๆ ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น โดยการชาร์จเพียง 10 นาทีสามารถที่จะใช้งานได้นานถึง 2 ชั่วโมง

ข้อสังเกตที่เราได้ทำการทดสอบมาคือบางครั้งจะมีเสียงติ้ดสั้น ๆ ดังขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่างไรก็ตามเป็นเสียงที่ไม่ได้ดังจนตกใจ และนาน ๆ จะดังขึ้นมาโดยไม่ได้เกิดตลอดเวลา

Conclusion

หูฟัง Sony PULSE Elite เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งาน PlayStation 5 ที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียมสำหรับการเล่นเกม ด้วยไดรเวอร์ Planar Magnetic และเทคโนโลยี PlayStation Link ทำให้ได้คุณภาพเสียงและความหน่วงที่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสมจริงและประสบการณ์ใช้งานที่เต็มอิ่ม อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้กับหลากหลายอุปกรณ์ ด้วยราคา 5,190 บาท

ข้อดี

• การออกแบบหูฟังที่รองรับกับสรีระของผู้ใช้งาน
• มาพร้อมกับวัสดุที่ทนทาน ส่วนที่สัมผัสกับผู้ใช้งานนุ่ม
• รองรับการเชื่อมต่อกับหลากหลายอุปกรณ์
• ระบบ PlayStation Link, Bluetooth และผ่านสาย
• ใช้งานชาร์จได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย
• คุณภาพเสียงปรับแต่งออกมาให้เป็นธรรมชาติ
• แบตเตอรี่รองรับการใช้งานนานสุด 30 ชั่วโมง

ข้อสังเกต

• วัสดุที่อาจเสียหายได้ง่ายในระยะยาว
• น้ำหนักของหูฟังที่อาจพกติดตัวไปใช้งานที่อื่นลำบาก

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Sony ประเทศไทย ที่ได้ทำการส่ง Sony PULSE Elite มาให้เราทำการทดสอบกัน สามารถหาซื้อได้แล้วตามร้านค้าชั้นนำและช่องทางออนไลน์

ดูข้อมูลและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ [คลิก]