[รีวิว] Tales of Symphonia Remastered

Tales of Symphonia Remastered ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดเกม JRPG ยุคใหม่ที่สร้างรากฐานให้ซีรีส์ถึงปัจจุบัน โดยในอดีตเกมนี้เป็นเกมที่แฟน ๆ ยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเกม JRPG ยุคใหม่ที่ดีที่สุดด้วยเกมเพลย์และกราฟิกที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงเนื้อเรื่องชวนติดตาม โดยเกมดังกล่าวจะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับนักเดินทางในตำนานที่ถูกเรียกว่า The Chosen One ผู้ที่จะมากอบกู้โลก Sylvarant จากปรากฏการณ์แหล่งพลังงานเริ่มสูญหายและถูกทำลาย โดยตัวเอก Lloyd Irving กับเพื่อนๆ จึงตัดสินใจออกผจญภัยเพื่อต่อสู้กับศัตรูและทวงคืนมนุษยชาติและความสงบสุขกลับคืนมาให้กับชาวเมือง

และในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสออกผจญภัยไปกับ Lloyd และพรรคพวกแล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะมานำเสนอรีวิวเกมที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS4 ระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 2566 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

กราฟิกที่ดีขึ้นสมกับการเป็น Remaster แต่ก็ยังแอบมีข้อน่าเสียดายอยู่บ้าง

สิ่งแรกที่ผู้เขียนคาดหวังอยู่พอสมควรก็คือ คุณภาพกราฟิกภายในเกมนี้ควรจะคมชัดขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้ดีเท่าเกม Remake หรือเกมที่เพิ่งสร้างใหม่ในช่วง 2-3 ปีหลัง แต่ก็ควรจะดีขึ้นให้สมฐานะกับเกมที่ขึ้นชื่อว่า Remaster ซึ่งเกม Tales of Symphonia Remastered ก็ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งโดยสังเกตได้จากกราฟิกภายในฉากการเล่นเกมที่ทำออกมาได้คมชัดขึ้น ทำให้การเล่นเกมนี้เพลิดเพลินในระดับหนึ่ง

เกมเพลย์ที่ยังคงโดดเด่นไม่แพ้เกมยุคใหม่

ผู้เขียนยอมรับเลยว่า Tales of Symphonia Remastered เป็นเกมเพลย์ที่ไม่ตกยุคเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจะเป็นเกมเก่ามา Remaster ก็ตาม แถมเกมเพลย์โดยรวมแล้วถือได้ว่าเป็นเกมที่เข้าถึงได้ง่าย แต่จะต้องเล่นไปสักพัก และหัดสังเกตให้ดีจะทำให้เราเชี่ยวชาญในการเล่นเกมดังกล่าวมากขึ้น

เกมนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ออกเดินทางไปในแผนที่โลกขนาดใหญ่ และเข้าสำรวจสถานที่ต่าง ๆ มากมายในโลก Sylvarant นอกจากนี้ผู้เล่นยังจะได้พบเจอกับมอนสเตอร์มากมาย และเข้าต่อสู้กับพวกมันในแบบ Action RPG ที่บอกเลยว่า ถ้าคิดจะเดินหน้าฆ่ามันก็เตรียมโบกมือลาได้เลย! เพราะการโจมตีภายในเกมค่อนข้างที่จะมีท่วงท่าที่ต่อเนื่อง และไม่สามารถยกเลิกได้ทันทีตามที่ต้องการ การที่ผู้เล่นโจมตีอยู่และต้องการป้องกัน จะต้องกะจังหวะให้ดี หากกดโจมตีไปเรื่อย ๆ และจะยกดาบมาป้องกันทันทีนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นตรงที่ผู้เล่นจะต้องวางแผนการต่อสู้ให้ดี ไม่ใช่แค่ฟาดฟันศัตรูแล้วจบไป แต่ก็อาจจะทำให้ผู้เล่นสายบู๊แหลกแอบเกาหัวได้เหมือนกัน

จุดหนึ่งที่น่าเสียดายไปเล็กน้อยก็คือ เกมนี้มีการล็อคเฟรมเรตไว้ที่ 30FPS ทำให้เมื่อเราเล่นเกมนี้บน PS5 ก็จะไม่ได้ภาพที่ลื่นไหลไปกว่า PS4 เลย ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่น่าเสียดายมาก ๆ เพราะถ้าปลดล็อคเฟรมเรตเพื่อให้เกิดความแตกต่างตรงนี้ อาจจะทำให้ผู้เล่นสนใจมากขึ้นก็เป็นได้

หวนคืนสู่อดีตอันหอมหวานที่เกมเมอร์วัยเก๋าจะต้องยิ้มออก ผู้เล่นยุคใหม่ก็เพลินได้

แน่นอนว่าเกมนี้เป็นเกม Remaster ทำให้องค์ประกอบโดยรวมของเกมยังคงความเป็นเกมดั้งเดิมไว้อยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกที่แม้ว่าจะมีการอัปเกรดมาบ้าง แต่ก็ยังคงไม่ได้โดดเด่นเท่ากราฟิกยุคใหม่ , เกมเพลย์ที่ลื่นไหลขึ้น แต่ก็มีจุดที่อาจจะทำให้เอ๊ะไปบ้าง อย่างไรก็ตามองค์ประกอบของเกมที่ยังคงความโดดเด่นไว้ได้ในระดับที่น่าสนใจภายในเกม Tales of Symphonia Remastered ก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเควสจำนวนมากที่รอคอยให้เราได้ทำ , ระบบการเรียนรู้สกิลที่เกิดจากการต่อสู้ไปเรื่อย ๆ , ตัวละครที่คุ้นหน้าคุ้นตามากมายกลับมาครบองค์ประชุม , ระบบ Title ที่จะทำให้การสร้างทีมของผู้เล่นหลากหลายมากยิ่งขึ้น เป็นต้น ซึ่งระบบเหล่านี้ก็ไม่ได้ถือว่าตกยุคแต่อย่างใด ทำให้ผู้เล่นยุคใหม่ก็เข้าถึงได้ ยุคเก่าก็ยิ้มได้เช่นกัน

สรุปรีวิว

Tales of Symphonia Remastered ถือได้ว่าเป็นเกม Remaster ที่ทำออกมาได้ดี และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทีมงานเป็นอย่างมาก แม้ว่าโดยรวมแล้วอาจจะมีประเด็นที่ทำให้ผู้เล่นยุคใหม่เกาหัวไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเกมนี้จะไม่มีความสนุกเลย โดยเฉพาะในส่วนของเกมเพลย์ต่อสู้ที่ถือว่ายังคงเพลิดเพลินได้ไม่แพ้เกมอื่น ๆ ในตลาด และผู้เขียนเชื่อว่าเกมนี้น่าจะถูกใจเกมเมอร์มีหนวดทั้งหลายอย่างแน่นอน

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 8 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

• กราฟิกที่ถูกทำให้คมชัดขึ้น
• เกมเพลย์ Action RPG ที่ยังคงสนุกเพลิดเพลิน
• รักษาเอกลักษณ์ของเกมไว้ได้เป็นอย่างดี

ข้อสังเกต

• กราฟิกบางส่วนดูเบลอไปนิด
• ล็อคเฟรมเรตที่ 30 FPS
• ให้อารมณ์ “ยังไม่สุด” อยู่หลาย ๆ จุด

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment Asia ที่เอื้อเฟื้อเกมดีๆ เกมมันส์ๆ มาให้พวกเราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยนะครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

รายละเอียดเพิ่มเติม : [คลิก]

ภาพ Screenshots เพิ่มเติม