รีวิว

[รีวิว] STAR OCEAN THE SECOND STORY R

คืนชีพเกมคลาสสิคในแบบโมเดิร์นโดนใจ

STAR OCEAN THE SECOND STORY R เป็นการเนรมิตเกม RPG สุดคลาสสิคจากเครื่องเล่น PSP ในรูปแบบ 2.5D ผสมผสานตัวละครพิกเซลสองมิติเข้ากับทัศนียภาพและเอฟเฟกต์โพลิกอนสามมิติสุดตระการตา โดยจะมีเนื้อหาครบถ้วนจากเวอร์ชั่นต้นฉบับทั้งหมด พร้อมเปลี่ยนแปลงระบบต่อสู้ใหม่ให้มีความทันสมัย การปรับเลือกเสียงพากย์สองภาษา เพลงประกอบแบบเวอร์ชั่นต้นฉบับ รวมไปถึงฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ทำให้ประสบการณ์การเล่นยอดเยี่ยมมากขึ้น

และในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสไปผจญภัยกับ Claude และ Rena มาแล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะมานำเสนอรีวิวเกมที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

กราฟิก 2D Pixel ผสมผสาน 3D ที่เป็นเอกลักษณ์

image 4112

ไม่พูดถึงกราฟิกภายในเกมนี้ไม่ได้จริง ๆ ครับกับหัวข้อแรกของรีวิวนี้ เพราะผู้เขียนการันตีเลยว่ากราฟิกภายในเกมนี้ทำออกมาได้แปลกตา แต่น่าประทับใจเป็นอย่างมากด้วยการผสมผสานกราฟิกตัวละครสไตล์ 2D Pixel เข้ากับกราฟิกพื้นหลังทั้งหมดแบบ 3D ทำให้กราฟิกภายในเกมนี้สวยงามมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแบบสุด ๆ ทำให้การเล่นเกมนี้ค่อนข้างให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิมอยู่พอสมควร

image 4113

และถ้าหากใครกำลังคิดว่ากราฟิกแบบนี้จะทำให้เอฟเฟกต์ภายในเกมลดความอลังการลงไปด้วยล่ะก็คุณคิดผิดแล้วครับ เพราะเอฟเฟกต์ภายในเกมนี้เรียกได้ว่าจัดเต็มในระดับที่น่าพึงพอใจเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟกต์จากการโจมตีธรรมดา ไปจนถึงสกิลต่าง ๆ ที่ทำออกมาได้สวยงาม และยิ่งสกิลแรงมากเท่าไหร่ เอฟเฟกต์ที่โชว์ออกมาก็ยิ่งอลังการมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

ปิดท้ายด้วยภาพ Portrait ของตัวละครที่วาดใหม่นั้นดูทันสมัยมากขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้เขียนเองที่ชอบภาพตัวละครแบบต้นฉบับอยู่แล้ว พอมาเจอแบบวาดใหม่ก็ยอมรับเลยว่าดูดีขึ้นอย่างมาก

ประสิทธิภาพการเล่นที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด

image 4114

ต่อเนื่องจากงานภาพของเกมนี้แล้ว สิ่งที่ต้องพูดในประเด็นต่อมาก็คือความลื่นไหลในการเล่นเกม เพราะบางเกมแม้ว่าจะใช้กราฟิกแบบพิกเซลแต่ถ้าขัดเกลาเกมออกมาได้ไม่ดี เกมก็กระตุกได้เช่นกัน แต่ไม่ใช่กับ STAR OCEAN THE SECOND STORY R ครับ เพราะว่าเกมนี้ใช้กราฟิกผสมผสานที่สวยงามแล้ว ความลื่นไหลในการเล่นเกมนี้ยังเรียกได้ว่าลื่นหัวแตกเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการโหลดเกมที่รวดเร็ว, การเคลื่อนไหวของตัวละคร หรือฉากโดยรวมที่ไม่มีเฟรมเรตตกให้เห็น รวมไปถึงช่วงที่เอฟเฟกต์ปล่อยกันเต็มจอก็ไม่มีปัญหากระตุกกวนใจแต่อย่างใด ซึ่งผู้เขียนยกนิ้วให้เลยครับ

ระบบการต่อสู้ที่เข้าถึงง่าย แต่ลูกเล่นเยอะมาก

image 4115

ระบบการต่อสู้พื้นฐานของเกม STAR OCEAN THE SECOND STORY R ก็คือ Action RPG ที่เราจะได้ควบคุมตัวละครของเราเข้าต่อสู้กับศัตรูในฉากต่าง ๆ โดยผู้เล่นสามารถเลือกการโจมตีได้ทั้งการโจมตีปกติ, การใช้สกิล, การหลบหลีกการโจมตีของศัตรู และการสลับตัวละครในการต่อสู้ ทำให้เกมนี้ถือได้ว่าเป็นเกมที่มีระบบการต่อสู้พื้นฐานที่เข้าถึงได้ง่ายมาก อย่างไรก็ตาม เกมนี้กลับใส่รายละเอียดในการต่อสู้เอาไว้เยอะมาก ๆ จนทำให้การต่อสู้ภายในเกมนี้ต้องใช้เวลาเรียนรู้อยู่พอสมควร และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเชี่ยวชาญแล้ว บอกได้เลยว่า “มันส์โคตร”

รายละเอียดที่เราจะได้เจอทำให้เกมนี้ไม่ใช่เกมแอ็กชั่นฟาดฟัน Hack’n Slash แบบไม่ต้องใช้สมองอีกต่อไป โดยเริ่มจากจุดพื้นฐานที่สุดก็คือ การเผชิญหน้ากับศัตรูบนแผนที่ต่าง ๆ ที่การเดินไปเผชิญหน้าเฉย ๆ อาจจะทำให้เราพลาดถึงตายได้ เพราะเกมนี้มาพร้อมระบบ Back Attack ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราเข้าปะทะศัตรูจากด้านหลัง ซึ่ง Back Attack จะทำให้ศัตรูเกิดอาการมึน อยู่นิ่ง ๆ ให้เราโจมตีได้ฟรี ๆ ทำให้เราได้เปรียบอย่างมาก แต่ในทางกลับกันหากเราโดน Back Attack ก็จะทำให้เรามึนและโดนโจมตีรัว ๆ ทำให้เรามีโอกาสแพ้สูงมาก ๆ

image 4111

อีกหนึ่งจุดที่ผู้เขียนรู้สึกว่ามันคือเอกลักษณ์ของเกม JRPG ประเภทเกมกลยุทธ์ที่เกมนี้นำมาใช้งานด้วยก็คือระบบแพ้-ชนะทาง ที่ปกติจะมีเพียงการโจมตีได้แรงขึ้น 2 เท่าหากชนะทาง (หรือโดนแรงขึ้น 2 เท่าหากเราแพ้ทาง) และการโจมตีได้เบาลงครึ่งหนึ่งหากเราแพ้ทาง (หรือเราโดนดาเมจเบาลงครึ่งหนึ่งหากเราชนะทาง) แต่ภายในเกม STAR OCEAN THE SECOND STORY R ได้มีอีก 2 ระบบใส่เข้ามาก็คือการโจมตีที่ไม่เป็นผลเลย และการฟื้นฟู HP หากเราใช้ธาตุที่ศัตรูได้เปรียบ ทำให้การวางแผนในการต่อสู้ภายในเกมนี้ต้องใช้สมองมากกว่าเดิมเยอะมาก ๆ แม้ว่าอาจจะดูวุ่นวาย แต่ก็ท้าทายมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

ระบบที่ระบุไว้ด้านบนอาจจะไม่ใช่ระบบใหม่สำหรับเกม STAR OCEAN THE SECOND STORY R มากนักเพราะเป็นระบบที่มีมาตั้งแต่ Star Ocean: The Second Story ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีระบบอีกมากมายให้เราได้ใช้งานกันเยอะมาก ๆ ทั้งระบบการคราฟไอเทม, ระบบการอัปเกรดสกิล, ระบบการจัดฟอร์เมชั่นของทีม และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ภายในเกมภาคนี้ยังมีระบบน่าสนใจอย่าง Assault Action และ Break ซึ่งทำให้การต่อสู้ภายในเกมนี้ล้ำลึกมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งผู้เขียนรู้สึกถึงความทุ่มเทของทีมพัฒนาเกมที่ไม่ได้ต้องการทำให้เกมนี้เป็นแค่เกม Remake ธรรมดา แต่ทำให้เกมนี้มีความล้ำลึกมากขึ้นกว่าเดิมในแง่ของเกมเพลย์ต่อสู้ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเกมนี้ด้วย

image 4110

ระบบ Break จะเป็นการทำให้ศัตรูเกราะแตกแล้วยืนมึนงงและดาเมจที่ได้รับก็จะสูงขึ้นชั่วขณะ ซึ่งระบบนี้ส่งผลต่อการต่อสู้เป็นอย่างมาก เพราะในหลาย ๆ ครั้งเราได้เจอกับศัตรูที่มีความแข็งแกร่งมาก ๆ แทนที่ผู้เขียนจะพยายามประเคนสรรพาวุธใส่มันแบบไม่ยั้ง ผู้เขียนลองเปลี่ยนเป็นการ Break ก่อนแล้วค่อยโจมตีรัว ๆ กลับมีประโยชน์มากกว่า และทำให้ผู้เขียนใช้ยาน้อยลง ตายน้อยลง และที่สำคัญก็คือบอสตายง่ายขึ้นมาก นั่นแปลว่าระบบนี้เพิ่มทางเลือกให้กับผู้เล่นในการต่อสู้กับศัตรูนั่นเอง

image 4109

อีกหนึ่งระบบใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาภายในเกมภาคนี้ก็คือ Assault Action ซึ่งเป็นระบบโจมตีสนับสนุนจากสมาชิกตัวละครอื่น ๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ ซึ่งผู้เขียนต้องขอบอกก่อนว่าโดยปกติแล้วเกม RPG ที่มีตัวละครมากกว่าตัวละครที่ใช้งานได้จริงในการต่อสู้ จะทำให้เราต้องเลือกตัวละครที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของเรา ทำให้ปปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องมีตัวละครบางตัวนั้นถูกลืมเลือนไปอย่างน่าเสียดาย แต่ระบบนี้จะทำให้ตัวละครเหล่านั้นมีประโยชน์และไม่ถูกลืมเลือน ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ (และก็วุ่นวายมากเช่นกัน) ซึ่งระบบทั้งหมดนี้ทำให้เกมเพลย์ต่อสู้ภายในเกมนี้ตื่นเต้นยิ่งกว่าเก่า

เสียงประกอบที่ทำออกมาได้ดีทั้งเสียงพากย์ และดนตรี

image 4108

อาจจะบรรยายให้เห็นภาพได้ยากหน่อยกับหัวข้อนี้ แต่ผู้เขียนขอยืนยันเลยว่าการที่เกม STAR OCEAN THE SECOND STORY R เปิดให้ผู้เล่นได้เลือกใช้เสียงพากย์ได้ 2 แบบ รวมไปถึงดนตรีประกอบที่มีให้เลือกแบบคลาสสิค และแบบเรียบเรียงใหม่ก็ยิ่งทำให้เกมนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จนเรียกได้ว่าถ้าใครไม่รู้จักเกมนี้มาก่อน ก็ไม่คิดว่าเป็นเกม Remake แต่เป็นเกมที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เลย

Private Action อีกหนึ่งระบบที่ไม่ควรมองข้าม

image 4107

ภายในเกมนี้จะมีระบบที่เรียกว่า Private Action (PA) หรือช่วงเวลาที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สำรวจแผนที่เพื่อเรียนรู้ข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากการต่อสู้ ซึ่งระบบนี้จะทำเราได้พบกับข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวละครมากขึ้น รวมไปถึงเราจะได้มีโอกาสตัดสินใจในเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เราได้พัฒนาความสัมพันธ์กับตัวละคร และได้รับไอเทมมาใช้งานอีกด้วย สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจก็คือเมื่อเรากด Fast Travel เกมจะแจ้งเลยว่าแผนที่ไหนบ้างที่มีอีเวนต์ PA ให้เราได้ทำ ซึ่งเราสามารถเดินทางไปยังแผนที่ดังกล่าว สลับเข้าโหมด PA แล้วเดินไปตามสัญลักษณ์ที่ระบุบนแผนที่ได้เลย เป็นอะไรที่สะดวกสบายจริง ๆ ครับ

สรุปรีวิว

image 4106

สำหรับผู้เขียน มองว่าเกม STAR OCEAN THE SECOND STORY R เป็นอีกหนึ่งเกม Remake ที่ผู้เขียนการันตีว่ามันคือเกมคลาสสิคที่โมเดิร์นลงตัวที่ผู้เล่นไม่ควรพลาดเป็นอันขาด ด้วยกราฟิกที่เป็นเอกลักษณ์, เกมเพลย์ที่สนุกสนาน และท้าทาย รวมไปถึงองค์ประกอบของเกมที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นมาได้สมบูรณ์แบบจนเกมนี้เหมาะกับทุกคนทั้งเกมเมอร์หน้าเก่าที่เคยเล่นเกมนี้มาก่อน หรือเป็นเกมเมอร์หน้าใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสเกมนี้มาก่อน

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

– กราฟิกที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
– เพลง และเสียงพากย์ประกอบที่ลงตัว
– เกมเพลย์ต่อสู้ที่ลื่นไหล และท้าทาย
– ระบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาภายในเกม รวมไปถึงการปรับปรุงรายละเอียดทำให้เกมนี้ทันสมัยมากขึ้น
– ระบบ PA ที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ข้อสังเกต

– ต้องใช้เวลาเรียนรู้ระบบอยู่พอสมควร

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment Asia ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อเกมได้ที่ BNEAs’ e-store :  [คลิก] และตัวแทนจำหน่ายในไทย

ภาพ Screenshots เพิ่มเติม

image 4105
image 4104
image 4103
image 4102
image 4101
image 4100
image 4099
image 4098
image 4097
image 4096
image 4095
image 4094
image 4093

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button